24 มิ.ย. 2020 เวลา 12:50 • ไลฟ์สไตล์
กองดองที่รัก📚🥰
ขยันซื้อ ซื้อเก่งงง...Spark Joy เก่งงงง!!!
Idea การเขียนเรื่องนี้มาจากการฟัง Podcast ของน้องพิม เพจ Da's log ที่พูดถึงการจัดบ้านค่ะ
"Spark Joy" เป็นคำที่สื่อถึงอารมณ์ ความรู้สึกกับสิ่งนั้นๆ มีผลต่อใจ อยู่ด้วยแล้วชื่นใจ ดีต่อใจ ประมาณนี้นะคะ💖
ถ้าเห็นสิ่งนั้นแล้วใช่ ก็เก็บไว้ต่อไป แต่ถ้าคำตอบคือ ไม่ ก็จัดการมันออกไปจากชีวิตเลยค่ะ
คำว่า "Spark Joy" นี้ รู้จักกันเด่นชัดขึ้นมาจากหนังสือของ Kondo Mari ที่สร้างแนวคิดการจัดบ้านเป็นที่โด่งดังไปทั่วโลกอย่างที่น้องพิมได้เล่าให้ฟังไปนะคะ ใครยังไม่ได้ฟัง ตามนี้เลยค่ะ😄👇🏻
ฟังน้องพิมจบ วินดาแค่หัน 45 องศาก็พบกับ
ก อ ง ด อ ง!!! แล้วค่ะ คิดในใจว่าถึงเวลาที่ต้องทลายกองดองแล้วหละ นับวันมีแต่ยิ่งเยอะขึ้นๆ
ไปร้านหนังสือทีก็ Spark Joy สู้ไม่ถอย นี่ขนาดเป็นคนไม่ชอบซื้อหนังสือออนไลน์ แต่ก็มีบ้างแต่น้อยมากค่ะเพราะแอดมินร้านหนังสืออิสระน่ารัก แนะนำหนังสือดี๊ดีพาใจอ่อน
วินดาชอบที่จะไปหยิบจับหนังสือที่ร้านเองมากกว่า นี่ถ้าชอบซื้อออนไลน์ด้วยแล้วไม่รู้ว่าจาก กองดอง จะกลายเป็น ภูเขาดอง รึป่าวนะคะ🤩
ส่วนหนึ่งจาก กองดอง ของวินดา🤗📚
อาการนี้เชื่อว่าหลายคนน่าจะอยู่ในวงการเดียวกันคือมีงานหนังสือทีถ้าไม่ หอบกลับ เข็นกลับ ก็ส่งไปรษณีย์กลับมาดองที่บ้านค่าาาา แบบมีไว้อุ่นใจกว่า ก็มัน Spark Joy ไปแล้ว ถ้าไม่ซื้อมันรู้สึกผิดอะค่ะ
พอ Spark Joy เก่งก็ซื้อเก่ง งบที่ตั้งไว้หนะหรอ...
บานตล๊อดดดดค่ะไม่ต้องสืบ
เมื่อเป็นแบบนี้ก็เข้าข่าย "Tsundoku(ซึนโดคุ)" เป็นคำศัพท์ภาษาญี่ปุ่น หมายถึง พฤติกรรมการดองหนังสือที่ซื้อมาแล้วแต่ยังไม่ได้อ่านจำนวนมากนั่นเองค่าาา📚
วินดา มองว่าพฤติกรรมนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรใครๆก็เป็นกัน แต่พอดองไว้เยอะๆมองไปใจเรามันรู้สึกผิดอยากทลายกองดองให้หมดหรือลดลงก่อนจะมีมาเพิ่มอีกในไม่ช้า เลยลองหาวิธีของตัวเองและหาอ่านบทความแนะนำต่างๆ มีอยู่หลายวิธีเลยค่ะแล้วแต่ความชอบและความสะดวกของแต่ละคน แบบนี้ค่ะ
1. จับสลาก : วิธีนี้วินดาอ่านแล้วชอบมากๆ อ่านเจอในบันทึกของ fernery-Fekito Fernery ก็ในเมื่อมันเยอะพอจะอ่านก็ต้องมาเลือกอีกเสียเวลาทลาย เขียนชื่อหนังสือม้วนใส่ขวดโหลแล้วจับเลยค่ะลุ้นสนุกดีด้วย555
2. พกไปด้วย : จะไปไหนก็พยายามพกหนังสือไปด้วยทุกที่ มีช่วงเวลาก็หยิบมาอ่าน อย่างช่วงรอเพื่อน รอรถ เดินทาง(ไม่ต้องขับรถเอง) เปลี่ยนจากจับมือถือมาจับหนังสือแทน ไม่นานก็จบเล่มแล้วค่ะ
1
3. ตั้งเป้าหมายกับการอ่าน : อย่างตั้งเป้าไว้ว่าจะอ่านหนังสือก่อนนอนหรือหลังตื่นนอน 30 นาที-1 ชั่วโมง ถ้าเป็นไปได้กำหนดเวลาไปเลยค่ะจะได้ติดเป็นนิสัยมีวินัยในการอ่าน
หรือมีรางวัลให้ตัวเองเมื่ออ่านจบแต่ละเล่ม เช่น อ่านจบเล่มแล้วดูหนังได้ ดูซีรีย์ได้ ซื้อหนังสือเล่มใหม่ได้อีก555
หรือ อ่านอย่างมีเป้าหมายที่จะนำสิ่งที่อ่านไปใช้ประโยชน์ต่อ เช่น รีวิว สรุป เล่าให้เพื่อนฟัง ถือเป็นการทบทวนเรื่องที่อ่านไปได้อีกด้วย ได้ประโยชน์ไปอี๊กกกก
พักก๊อนนนน🤪
4. อ่านสลับ : เลือกหนังสือมาสัก 2-3 เล่มอ่านสลับกัน จบบทแล้วเปลี่ยนเล่ม จบตอนแล้วเปลี่ยนเล่ม วิธีนี้อาจจะเหมาะและไม่เหมาะกับบางคน เพราะอาจรู้สึกสับสนได้
การอ่านแบบนี้จะทำให้ตัดสลับอารมณ์อ่านแล้วไม่เบื่อลองดูก่อน ถ้าไม่ชอบหรือไม่เหมาะกับเราก็ลองเปลี่ยนวิธีอื่นได้ค่ะ
5. อ่านจากเล่มที่ชอบหรือบางที่สุดก่อน : ถือเป็นหลักจิตวิทยานะคะถ้าเราเริ่มจากเล่มที่ชอบหรือง่ายก่อน เมื่ออ่านจบเราก็จะภูมิใจพร้อมที่จะหยิบเล่มต่อๆไปมาอ่าน คือ Momentum ในการอ่านนั่นเองค่ะ ข้อมูลข้อนี้วินดาอ่านจาก www.nopadolstory.com วินดาชอบฟัง ศาสตราจาย์ ดร.นภดล ร่มโพธิ์ ย่อยหนังสือให้ฟังในเพจ Nopadol's Story (BD) ค่ะ แนะนำทุกคนไปฟังนะคะเป็นเรื่องราวหนังสือความรู้ทางธุรกิจ การพัฒนาตัวเอง และแรงบันดาลใจ ฟังง่ายได้ความรู้ค่ะ
6. วิธีสุดท้ายที่วินดาว่าเป็น Idea ที่ดีเลยคือชวนเพื่อนอ่าน หรือแลกหนังสือกันอ่านค่ะ อ่านจบก็มาคุยกัน มาแลกเปลี่ยนมุมมองในหนังสือ นอกจากอ่านจบแล้วยังได้มุมมองที่อาจจะเหมือนหรือต่างจากเราให้เห็นด้วย น่าสนุกเลยค่ะ
ทั้งหมดนี้เป็นวิธีที่วินดาคิดว่าน่าสนใจและมีประโยชน์กับเหล่าสาวก ก อ ง ด อ ง ถ้าอ่านแล้วชอบหรือจุดประกายจะทลายกองดองลองเอาไปใช้กันดูนะคะ หรือถ้าใครมีวิธีอื่นๆแนะนำก็ยินดีเลยค่ะ
“ความสุขจากการได้ซื้อ ได้อ่านหนังสือเล่มเป็นอะไรที่เข้าวงการนี้แล้วออกยากนะคะ”🥳📚
🤗พรุ่งนี้ วินดา ติดภารกิจเสมือนเข้าป่า คงไม่ได้เข้า BD บ่อยๆสัก 2 วันนะคะ แต่สัญญาว่าวันศุกร์นี้จะมา เล่านิทานEp.2 ให้ฟังตอนค่ำๆประมาณหนึ่งทุ่มนะคะ
แล้วพบกันใหม่ค่ะ👋🏻
#windasharing
โฆษณา