24 มิ.ย. 2020 เวลา 12:12 • ความคิดเห็น
หนึ่งสัญญาณที่แปลกประหลาดของปัญหาในbanking sector
SovereignMan
One weird sign of trouble in the banking sector
เพียงไม่กี่ชั่วอายุคนที่คนส่วนใหญ่ยังใช้เวลาของพวกเขาทั้งชีวิตห่างไม่กี่ไมล์จากบ้านเกิดของพวกเขา
พวกเขาเติบโต
อาศัย ทำงานและเกษียณตัวเอง
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้อยู่ในที่เดียวกัน
และนั่นคือเรื่องปกติ
การเดินทางและการย้ายถิ่นฐานไม่ได้เป็นเรื่องธรรมดา (เป็นเรื่องที่พิเศษ) จนกระทั่งหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
เเละเหตุผลหลักของการย้ายที่อยู่คือการไปทำงาน
และยังคงเป็นเช่นนั้นมานานหลายทศวรรษ
ผู้คนมักจะเลือกที่อยู่อาศัยเพราะใกล้กับสถานที่ทำงาน
แต่จริงๆแล้วมันเป็นรูปแบบที่ล้าสมัยไปเเล้ว
และผมก็ได้เขียนเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้มาหลายปีเเล้ว
ศตวรรษที่ 21 ไม่ว่าพวกคุณจะรู้หรือไม่ก็ตาม
ผู้คนนับไม่ถ้วนมีความยืดหยุ่นในการใช้ชีวิตมากขึ้น
ทุกๆที่ที่พวกเขาอยู่สามารถทำงานได้
หลายคนอาจนึกภาพไม่ออก
จนกระทั่งเกิดเหตุ Covid ขึ้น
ผู้คนหลายสิบล้านคนถูกบังคับให้ทำงานจากที่บ้าน
ผมจะไม่แปลกใจเลย หลายคนเกลียดหรือไม่ชอบสิ่งนี้
พวกเขาต้องการไปพบปะผู้คน
พวกเขาไม่ชอบการอยู่ทีบ้าน
เเต่หลายคนก็ชอบการทำงานเเบบนี้
ไม่ต้องเดินทาง อยู่กับครอบครัว
ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น
ทนายความคนหนึ่งของผม
มีสำนักงานอยู่กลางเมือง Manhattan
แต่เขาอาศัยอยู่ใน Connecticut
เขาบอกว่าการทำงานจากที่บ้าน
ช่วยเขาประหยัดเวลาได้กว่า 2 ชั่วโมง
เเละยังมีคนอีกหลายล้านที่เป็นเหมือนกับทนายคนนี้
ถ้าพวกเขาสามารถนั่งทำงานจากที่บ้านได้
ทำไมต้องเดินทางไปทำงานในเมืองที่ห่างไกลอีกหล่ะ
Covid จะกลายเป็นเป็นตัวจุดประกายของ megatrend
ในด้านประชากรศาสตร์เลย นั่นคือการย้ายถิ่นครั้งใหญ่
เป็นการย้ายออกจากตัวเมืองใหญ่ที่มีค่าครองชีพสูง
ค่าใช้จ่ายด้านภาษีสูง เช่น New York
ไปสู่เมืองที่มีค่าครองชีพต่ำกว่าหรือแม้ไปต่างประเทศ
ทำไมต้องวุ่นกับการจัดการเรื่องภาษี
สังคม เเละค่าใช้จ่ายต่างๆมากมายใน Manhattan
เมื่อคุณสามารถจ่ายค่าใช้จ่าย
พวกนี้ได้เพียงเเค่ครึ่งเดียว
และอยู่บนชายหาดใน Clearwater, Florida
แล้วสิ่งนี้ก็จะเป็นไปทั่วโลก
จะมีคนที่ออกจาก London เพื่อกลับไปที่ชนบท
หนีจากเมืองใหญ่ที่ค่าใช้จ่ายเเสนเเพง
ไปใช้ชีวิตเเละทำงานอยู่ที่ Bali
ด้วยแนวโน้มการโยกย้ายครั้งใหญ่นี้
ผมเเละทีมจึงพยายามหา real estateที่ undervalued
ทั้งในและนอกสหรัฐ ภายในสหรัฐอเมริกา Texas เป็นหนึ่งในตัวเลือกนั้น
There’s no state income tax ค่าครองชีพใน Texasนั้นต่ำกว่า
ในรัฐอื่นๆ และมีพื้นที่เปิดกว้างมากมาย
คนที่ทำงานใน Silicon Valley
อาจจะขายบ้านใน California, เพื่อมาซื้อบ้านที่ Texas
(ซึ่งเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีที่โดดเด่นอีกแห่ง)
พวกเขาสามารถประหยัดเงินได้ถึง 30% และยังมีค่าครองชีพที่ถูกกว่ามาก
(และยังมีในต่างประเทศอีกมากที่ถูกกว่านี้)
Austin, Texas
ดังนั้น Texas จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ผมกำลังมองหาอสังหาริมทรัพย์ที่ยังต่ำกว่ามูลค่า
ในขณะที่เทรนด์การย้ายที่อยู่กำลังจะเริ่มขึ้น
อาคารที่อยู่อาศัยจำนวนมากก็กำลังมีปัญหาใน housing market
ผู้คนจำนวนมากต้องตกงานหรือสูญเสียธุรกิจของพวกเขา บังคับให้พวกเขาเลิกกิจการ
และขายอสังหาริมทรัพย์ในราคาถูก
ซึ่งหมายความว่ามีโอกาสที่จะซื้ออสังหาริมทรัพย์เหล่านี้ในราคาที่ถูก ในขณะที่มี upside
จำนวนมากในระยะยาว
ทีมของผมและตัวผมได้พบทรัพย์สินหนึ่งใน Texas
มันเป็นที่ดิน ขนาด 20,000 ตารางฟุตบนพื้นที่กว่า 3 เอเคอร์ตั้งอยู่บนทะเลสาบ Travis อันงดงามราว
เดินทางเพียงเเค่ 40 นาทีจาก Austin
ราคาประเมินของทรัพสินชิ้นนี้มีมูลค่ามากกว่า $ 12 ล้าน และแม้แต่ในภาวะเศรษฐกิจเเบบนี้มันก็ควรมีมูลค่าอย่างน้อย 6 ล้านเหรียญ
แต่ทรัพย์สินถูกประมูลออกไปพร้อมกับการประมูลเพียงแค่ $ 3.25 ล้านเท่านั้น
เเละระหว่างที่ผมกำลังหาทรัพย์เหล่านี้ ผมก็พบเรื่องที่น่าสนใจที่เกี่ยวกับแบ้งค์
เรื่องของการจำนองบ้านในสหรัฐส่วนใหญ่จะอยู่ในกฏของ "conforming loan"
ซึ่งถูกกำหนดโดยหน่วยงานของรัฐบาลกลาง เช่น Fannie Mae และ Freddie Mac
ถ้าคุณยังไม่เคยรู้จักสองบริษัทนี้
ทั้งสองเป็นบริษัทเอกชนที่ถูกหนุนหลังโดยรัฐบาลกลาง
ทั้งสองมีหน้าที่ซื้อสัญญาจำนองจากธนาคารทั่วสหรัฐ
เพื่อช่วยให้กลุ่มธนาคารมีเงินที่จะรับจำนองบ้านได้
conforming loan
For example สัญญาที่มันจะต้องมีจำนวนต่ำกว่ายอดเงินจำนวนที่กำหนด
ซึ่งพวกเขาก็รู้ตัวเลขของราคาอยู่เเล้ว
สำหรับคนส่วนใหญ่ในประเทศวงเงินสินเชื่อสูงสุดคือ $ 510,400
แต่สำหรับบางเมืองอาจมีวงเงินที่สูงกว่า เช่นใน Los Angeles คือยอด $765,600
และยังมีกฏข้ออื่น ๆ อยู่อีก เเต่จุดสำคัญคือ กลุ่มธนาคารสามารถขายสัญญาจำนอง
เหล่านี้ให้กับสองบริษัทนี้ได้ นั่นหมายความว่าพวกเขาไม่ต้องรับความเสี่ยงเลย
สิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ธนาคารต้องนั่งบนสัญญาจำนองเป็นเวลา 30 ปีเต็ม
และสร้างรายได้จากการรับดอกเบี้ยเท่านั้น
ทุกวันนี้ เหล่าธนาคารกลับกลายเป็นเหมือนนายหน้าที่ไม่จำเป็น
รับจำนองบ้านจากลูกค้าแล้วก็เกือบจะทันที
ขายมันให้กับรัฐบาล
แทนที่จะสร้างรายได้จากดอกเบี้ย
ก็กลายมาเป็นเรียกเก็บค่าธรรมเนียมต่างๆในการกู้ยืมเเทน
การจำนองที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน conforming loan
กลุ่มธนาคารต้องรับมันมาในบัญชีของตน
เเละนี่คือสิ่งที่พวกเขากลัว
God forbid they actually have to do real bank business!
นี่เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อตลาดการกู้ยืมจริงๆที่ธนาคารเหล่านี้กลัว
น่าจะเป็นเรื่องปกติของธุรกิจธนาคาร เเต่เพียงเพราะมันไม่ปลอดภัย
เพราะไม่มีรัฐมารับซื้อไปต่อ
ซึ่งนั่นทำให้ผมได้เห็นมุมมองที่น่าสนใจ
A ธนาคารไม่ได้มองเศรษฐกิจในตอนนี้ดีมากนัก(เเทบจะเเย่ด้วยซ้ำ)
และพวกเขาไม่ต้องการรับความเสี่ยงใหม่ในตอนนี้..
B พวกเขาไม่ได้อยู่ในสถานะที่ทำได้ ธนาคารส่วนใหญ่กำลังนั่งอยู่บนภูเขาของ
การสูญเสีย สินเชื่อนับล้านกำลังจะหายไป
ผู้คนนับล้านได้ข้ามการชำระเงินกู้เนื่องจากผลกระทบของ Covid ดังนั้นธนาคารเหล่านี้จึงไม่สามารถรับความเสี่ยงใหม่ได้อีก เเละเเน่นอน งบดุลของพวกเขา
อยู่ในจุดที่ย่ำเเย่อยู่แล้ว..
ตอนนี้บังได้สร้างซีรีส์อัลบั้มของบทความไว้เเล้ว
สำหรับคนที่สนใจสามารถติดตามอ่าน
ย้อนหลังได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้เลยนะครับ
ถ้าตลาดหุ้นกำลังจะถล่ม
เราอยู่ในจุดที่ต่ำสุดเเล้วหรือยัง ?

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา