26 มิ.ย. 2020 เวลา 04:56 • ท่องเที่ยว
เที่ยวปันสุข-เราไปเที่ยวกัน ลับแต่ไม่ลับ
อย่างที่เรารู้กันดีว่ารัฐบาลอัดฉีดงบกระตุ้นการท่องเที่ยว ทีนี้เรามาดูกันว่าในฐานะคนชอบเที่ยวอย่างเราจะได้ประโยชน์อะไร จากโครงการ ซึ่งจะเป็นในมุมหนึ่งที่อาจจะแตกต่างไปจากที่เคยอ่านๆ ใน web อื่น และจะขอเล่าแบบใจความสรุปเท่าที่ได้มานะ...
กล่าวคือ ภาครัฐจะสนับสนุน โดยรายละเอียดคือ
1. ค่าตั๋วเครื่องบินสูงสุดเป็นจำนวน 1000 บาท ต่อ 1 คน นั้นแปลว่าคุณจะจองกี่ขาต่อทริปก็ให้แค่ 1000 บาทก โดยการจองตั๋วในโครงการนี้ ต้องมีเลข booking จองโรงแรมแล้วถึงจะได้ส่วนลดนะครับ...ระวังกันดีๆ ตอนจอง
2. ค่าที่พักต่อ 1 ทริป สูงสุด 3000 บาท หมายถึง จะจองกี่คืน หรือ กี่วัน รัฐก็ช่วยแค่ 3000 บาท ไม่ได้หมายถึง ช่วย 40% ของยอดค่าห้องนะครับ!!!
3. เงินค่าใช้จ่ายระหว่างเที่ยวซึ่งจะโอนเข้า application กระเป๋าตัง ที่เคยใช้ๆกันในโครงการ ชิมช๊อปใช้ โดยจะมีโอนเข้าให้ 600 บาท ต่อวัน ช่วงประมาณ 17:00 น. ( เวลายังไม่เฟริมแน่นอน แต่อันนี้เป็นประมาณการ) ซึ่งจะโอนเขๆ้าให้ทุกวัน ตลอดระยะเวลาที่เราจองทริปไป ( นับตามจำนวนวันที่ booking โรงแรมไป) โดยจะเริ่มโอนให้วันแรก คือวันที่เราไปถึงโรงแรมที่เราจองและ check-in ตัวเองผ่าน “ไทยชนะ” ก่อนนะ ถึงจะได้เงินส่วนนี้ โดยยอดสูงสุดในงานที่ยกตัวอย่างคือ 3600 บาท โดยคำนวณจากการที่เราไปเที่ยว 6 วัน 5 คืน และเงิน 600 บาท นี้เราสามารถซื้อได้ทุกอย่างภายในร้านโครงการที่รับชำระด้วย application กระเป๋าตังค์ รวมถึงของฝากภายในร้านนั้นๆด้วย.....และในระหว่างทริปเงินสะสมใช้ในวันต่อไปได้....โปรด highlights ไว้เลยว่า “ จบทริปใช้ไม่หมดริบคืน” นะจ๊ะ
มาถึงเรื่องการลงทะเบียน การคาดการณ์อาจจะไม่หนาแน่นเท่าโครงการชิมช๊อปใช้ เพราะนักท่องเที่ยวจะไม่ได้ส่วนลดมาฟรีๆ ก่อน แต่จะได้เมื่อทำการจองทุกอย่างทั้งหมด และ ชำระเงิน ซึ่งเราจะชำระในส่วนที่เหลือหลังจากหักส่วนลดแล้ว
เพราะฉะนั้นถ้าใครมีแผนท่องเที่ยวในประเทศปีนี้ถือว่าเป็นโอกาสอันดี และ โครงการนี้สามารถใช้ได้แค่ กค ถึง ธ.ค.2563 นี้เท่านั้น
ข้อสำคัญที่ควรโน๊ตเก็บไว้ คือ
1. การไปเที่ยวเองในอนาคตการเข้าอุทยานต่างๆ อาจจะต้องจองล่วงหน้า กำหนดการเริ่ม และ เลิกใช้ยังไม่แน่ชัด แต่มาแน่
2. การท่องเที่ยวภายในประเทศจะเป็นเชิงอนุรักษ์มากขึ้น...ข้อนี้สนับสนุนทั้งสองมือแลย
3. การท่องเที่ยวในอนาคตเราอาจจะต้องมี passport สุขภาพกัน แล้ว เพื่อป้องกันความเสี่ยง กล่าวคือ ถ้า passport ใครขึ้นสถานะสีแดง อาจจะไม่ได้ออกจากบ้าน หรือ ถ้าฝืนออกอาจจะถูกจับได้ และกลุ่มเสี่ยงมากสุดอาจจะเป็นผู้สูงอายุ
#เที่ยวเองนักเเลงพอ
#วางแผนการเงินก่อนเที่ยวไม่เสียวสันหลัง
#หาเองเที่ยวเองหลงเองวนๆไป
โฆษณา