26 มิ.ย. 2020 เวลา 11:26 • ประวัติศาสตร์
• สำรวจระบบแรงงาน สวัสดิการ กลไกการควบคุมแรงงาน จากบันทึกแคมป์คนงานผู้สร้างสามมหาพีระมิดแห่งกีซา
กลับมาที่อารยธรรมอียิปต์กันอีกแล้ว ครั้งก่อนพูดถึงโลกหลังความตายกันไปแล้ว ครั้งนี้ชวนทุกคนไปสำรวจมหาพีระมิดแห่งกีซากันบ้างครับ
พูดถึงอียิปต์ทีไร ภาพในจินตนาการหลายคนคงเป็นทะเลทรายกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา มีพีระมิดน้อยใหญ่เรียงรายอยู่เต็มไปหมด
พีระมิดแห่งอียิปต์ดูเหมือนเป็นสิ่งก่อสร้างที่สะท้อนความเจริญก้าวหน้าทางเรขาคณิตแบบเต็มสูบ สวนทางกับการใช้งานที่ดันไปเกี่ยวข้องกับเรื่องศาสนาและโลกหลังความตายเป็นสำคัญ
อย่างที่เรารู้กันดีว่าพีระมิดสร้างขึ้นเพื่อเป็นสุสานและสถานที่เก็บรักษาร่างของฟาโรห์และราชินี เรื่องความยิ่งใหญ่จนกลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกคงมีหลายคนพูดถึงกันไปแล้ว
ครั้งนี้จึงอยากเล่าถึงเบื้องหลังของการสร้างพีระมิด ซึ่งเป็นอีกมุมที่หลายคนไม่ค่อยรู้ บางครั้งอาจเข้าใจผิดเรื่องการใช้แรงงานทาสด้วยซ้ำไป
เพราะฉะนั้นจะพาทุกคนซอกแซกไปตามแคมป์คนงาน ไปดูกันว่าเส้นทางกว่าจะเป็นพีระมิดสูงใหญ่งดงามนั้นต้องผ่านอะไรกันมาบ้าง
สามมหาพีระมิดกีซาในปี 1932 [Public Domain]
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกันเสียใหม่ หลายคนอาจคิดว่าผู้ที่ถูกเกณฑ์มาสร้างพีระมิดเป็นแรงงานทาส ความจริงแล้วเป็นความเข้าใจผิดกันมาโดยตลอดเลยครับ
แรงงานก่อสร้างพีระมิดไม่ใช่ทาสอย่างแน่นอน แต่เป็นชาวบ้านธรรมดาที่มีฐานะยากจนนี่เอง แต่ที่ต้องมาทำงานก่อสร้างเนื่องจากทางการอียิปต์มีสวัสดิการหยิบยื่นให้
เรียกว่าเป็นโอกาสล้ำค่าที่พวกเขาจะได้เรียนรู้ทักษะฝีมือ เพื่อจะต่อยอดไปทำงานยังแหล่งอื่น ๆ ดังนั้นจึงขอย้ำว่าแรงงานเหล่านี้เป็นชาวบ้านที่เข้ามาทำงานด้วยความสมัครใจนั่นเอง
เรื่องนี้ถูกเปิดเผยในบทความที่ใช้ในการศึกษาโบราณคดีอียิปต์ อ้างอิงจากการขุดพบสถานที่คล้ายแคมป์คนงานบริเวณพีระมิดกีซา ในปี 1988
ภาพจำลอง Worker Village บริเวณสามมหาพีระมิดแห่งกีซา [Cr.Researchgate]
หากคิดว่าแคมป์คนงานอียิปต์จะคับแคบเหมือนไซต์ก่อสร้างบ้านเรา บอกเลยว่าคิดผิดถนัดครับ เพราะอย่างที่บอกว่าการก่อสร้างพีระมิดเป็นงานที่ยิ่งใหญ่อลังการ
การสร้างพีระมิดต้องระดมแรงงานหลายพันชีวิตมาอาศัยอยู่รวมกันเป็นเวลานานหลายเดือน แคมป์คนงานก่อสร้างพีระมิดกีซ่าจึงมีเนื้อที่มากกว่า 50 ไร่ เสมือนเป็นเมืองขนาดย่อมเยาว์เลยก็ว่าได้
มีการแบ่งสัดส่วนที่อยู่อาศัยเอาไว้อย่างเป็นระบบระเบียบ ทั้งส่วนของแรงงานที่มีฝีมือ ส่วนของแรงงานฝึกหัด ส่วนของผู้คุมคนงาน และส่วนของเจ้าหน้าที่ของทางการอียิปต์
จากหลักฐานดังกล่าวทำให้เราได้เห็นถึงวิถีชีวิตของคนงานที่ไม่มีใครนำมาบอกเล่ากันมากนัก แต่นับว่าเป็นพัฒนาการทางสังคมของคนโบราณที่น่าสนใจมากเลยทีเดียวครับ
แรงงานที่สมัครใจเข้ามาก่อสร้างพีระมิดจะได้รับสวัสดิการที่เหมาะสม พวกแรงงานจะได้กินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ทุกวัน
ภาพจำลองโรงอบขนมปังของอียิปต์ [Public Domain]
อาหารดีที่แรงงานได้กิน มีทั้ง ขนมปังทรงกรวยที่เรียกว่า ทา (Ta) ธัญพืชอย่างข้าวสาลี ข้าวบาร์เล่ย์และถั่ว มีเบียร์ให้ดื่มหลังเสร็จสิ้นภาระงานในแต่ละวันด้วยนะครับ
นอกจากนี้ยังมีเนื้อสัตว์จำพวกเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อแพะ ถูกนำมาปรุงเป็นอาหารหลากหลายประเภท ต้ม ผัด แกง ทอด สลับสับเปลี่ยนไปแต่ละวัน
มีเนื้อปลาที่ชาวประมงจับได้จากแม่น้ำไนล์ ไม่ว่าจะเป็นปลาดุก ปลานิล ปลาเพิร์ช ปลาปักเป้า ซึ่งมีกรรมวิธีการปรุงเฉพาะตัวโดยรีดต่อมพิษออกก่อนนำมาทำอาหาร รายละเอียดจะนำมาเล่าในครั้งต่อไปนะครับ
บางวันมีผลไม้จำพวกมะเดื่อ องุ่น อินทผาลัม เป็นอาหารว่าง ทุกอย่างทางการอียิปต์จัดหามาเลี้ยงคนงานให้ได้กินกันอย่างอิ่มหนำสำราญ เรียกว่าเป็นสวัสดิการที่คนยากจนไม่เคยมีโอกาสได้พบเจอมาก่อน
โมเดลจำลองกรรมวิธีทำเบียร์ของอียิปต์ [Cr.Ancient.eu]
สวัสดิการที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ การฝึกทักษะให้แรงงานไร้ฝีมือ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเด็กหนุ่มวัยรุ่นที่พ่อแม่ส่งให้มาทำงาน พวกคนงานที่มีฝีมืออยู่แล้วจะสอนงานให้เด็กใหม่จนเชี่ยวชาญ
นอกจากนี้หากมีคนงานที่เจ็บป่วยล้มตายจากการก่อสร้าง ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดา จากการขุดพบซากกระดูกที่พิสูจน์ว่าเป็นโครงกระดูกของคนที่ตายจากการทำงานหนัก
ทางการอียิปต์จะจัดการกับศพเหล่านี้อย่างมีเกียรติ มีการทำพิธีปลงศพที่แตกต่างจากคนทั่วไป เห็นได้จากการพบเครื่องเซ่นที่ถูกฝังอยู่ในหลุมศพ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับชาวบ้านธรรมดาที่มีฐานะยากจน
ในสังคมอียิปต์ที่มีความเชื่อเรื่องโลกหลังความตายอย่างเข้มข้นตามที่เคยเล่าไปในบทความแรก เพราะหากเป็นคนธรรมดาสามัญไม่มีเงินพอที่จะซื้อคัมภีร์ท่องยมโลก ก็จะกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อนตามความเชื่อนั่นเองครับ
พวกเขาเชื่อว่าการที่ศพถูกจัดการไปตามพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ จะทำให้วิญญาณได้ไปอยู่ในทุ่งต้นกกแดนสวรรค์ และไปเกิดในที่ที่เหมาะสมในโลกหน้าอีกด้วย
ภาพวาดจำลองบรรยากาศการสร้างพีระมิด [Public Domain]
ความจริงแล้วเรื่องราวจากแคมป์คนงานอียิปต์ยังมีรายละเอียดอีกเยอะมากครับ หลักฐานหลายชิ้นยังระบุถึงวิธีทำขนมปังทรงกรวย สูตรอาหารต่าง ๆ และลักษณะของครัวในแคมป์คนงาน
กิจกรรมการทำอาหารที่ระดมแม่ครัวมาหลายสิบชีวิต หากให้จินตนาการก็คงเป็นบรรยากาศห้องครัวที่คึกคัก แม่ครัวผัดข้าวกันไป แรงงานก็ตอกตะปูไป ผู้คุมก็คอยตรวจตราว่ามีการบาดเจ็บหรือล้มป่วยไปบ้าง ต้องคอยหาแรงงานใหม่มาเติมเต็มทดแทนกันจนกว่าพีระมิดจะเสร็จสมบูรณ์
น่าเสียดายที่ตำราเรียนไม่ค่อยบอกเล่าเรื่องราวเหล่านี้ให้เรารู้มากนัก ทั้งที่ในความเป็นจริง พีระมิดหรือสิ่งก่อสร้างแต่ละแห่งนั้นยิ่งใหญ่อลังการได้ด้วยหยาดเหงื่อแรงงานของคนยากจนหลายพันชีวิตทีเดียว
ทั้งหมดก็เป็นโบราณคดีอียิปต์เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่นำมาเล่าในบทความนี้ เช่นเคยนะครับ ถ้าชอบฝากกดไลค์ กดแชร์ กดติดตามเพื่อเป็นกำลังใจ แล้วพบกันใหม่ครั้งหน้าครับ
ข้อมูลอ้างอิง
- Bloxam, E. 2011. Forgotten People and Places: New Perspectives on the Social Context of Ancient Stone Quarrying in Egypt. General Anthropology.
- Kaufman, C. 2005. Cooking in Ancient Civilization. The Greenwood Press.
โฆษณา