28 มิ.ย. 2020 เวลา 04:16 • เกม
ซีรีส์เกมตลับ Super 66 in 1 - 07 Tetris
วันนี้ถึงคิวของเกมปริศนาที่ชื่อว่า Tetris เป็นเกมต่อบล็อกที่หล่นลงมาจากด้านบนที่ยังได้รับความนิยมมาจนถึงทุกวันนี้
สำหรับชื่อเกม Tetris ออกเสียงว่า เตตริส เกมนี้ออกแบบโดยอะเลคเซย์ ปายีตนอฟ (Alexey Pajitnov) นักออกแบบเกมชาวรัสเซียในปี 1984 (สมัยนั้นยังเป็นสหภาพโซเวียต) สำหรับชื่อเกมนี้ได้นำมาจากภาษากรีกคือ tetra (เตตระ) แปลว่า 4 เนื่องจากบล็อกแต่ละตัวที่ปรากฏในเกมนี้ประกอบไปด้วย 4 ชิ้นส่วน ให้เป็นรูปร่างที่ต่างกัน ผู้เล่นจะต้องหาวิธีต่อบล็อกแต่ละแบบที่หล่นลงมาให้ลงล็อกพอดีในแต่ละแถว
เกม Tetris เป็นเกมที่นำมาพัฒนาต่อในหลาย ๆ เวอร์ชัน แต่ในเวอร์ชันที่อยู่ในเกมตลับนี้พัฒนาในปี 1987 มีภาพกราฟิกมหาวิหารเซนต์บาซิลอยู่ที่หน้าแรกของเกม ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญของประเทศรัสเซีย ทำให้เราทราบได้ทันทีว่าผู้ผลิตเกมนี้เป็นชาวรัสเซีย
หน้าแรกของเกม
เกม Tetris ออกแบบหน้าจอแรกของเกมแตกต่างจากเกมอื่น เนื่องจากการเลือกเข้าสู่เกมของ Tetris จะมีตัวเลือกหลายชั้น ผิดกับเกมทั่ว ๆ ไปที่เลือกแค่ 1 หรือ 2 player หรือ Game A B C แต่สำหรับ Tetris แล้ว มีตัวเลือกที่หลายตัวและหลายชั้นเลยทีเดียว เริ่มตั้งแต่การเลือกรูปแบบการเล่น คือ
1 player (เล่นคนเดียว)
2 player (เล่นแข่งกันกับผู้เล่นอีกคน แบบแบ่งครึ่งหน้าจอซ้าย-ขวา)
Cooperative (เล่นพร้อมกันกับผู้เล่นอีกคนในหน้าจอเดียว)
Versus Computer (เล่นแข่งกับคอมพิวเตอร์แบบแบ่งครึ่งหน้าจอซ้าย-ขวา)
With Computer (เล่นพร้อมกันกับคอมพิวเตอร์ในหน้าจอเดียว)
เมื่อเลือกรูปแบบการเล่นได้แล้ว ต่อไปที่เราต้องเลือกคือระดับการเล่น จะมีตั้งแต่ 0-9 แต่ละระดับจะมีสีแสดงระดับอยู่ เราสามารถเริ่มจากระดับ 0 หรือระดับอื่น ๆ ตามความต้องการ ยิ่งระดับสูงขึ้น บล็อกจะหล่นลงมาเร็วขึ้น ทำให้เรามีเวลาตัดสินใจเรียงบล็อกน้อยลง ดังนั้น ถ้ายังไม่เคยเล่นเกมนี้มาก่อน แนะนำว่าให้เลือกระดับ 0 ก่อน เพื่อทำความคุ้นเคยกับวิธีการเล่นในเกมก่อน และค่อย ๆ ไต่ระดับสูง ๆ ในระหว่างการเล่นเกม
จากนั้น เกมจะให้เราเลือกว่าจะเริ่มต้นเกมโดยมีบล็อกต่อให้แล้วในระดับใด ตั้งแต่ 0,3,6,9,12 ถ้าเลือกเป็น 0 หน้าจอเกมจะว่างเปล่า ให้เราเริ่มต่อบล็อกบนพื้นได้เลย ถ้าเลือกระดับ 12 จะมีบล็อกที่ต่ออยู่แล้ว 12 แถว เป็นระดับที่สูงจนกะระยะต่อบล็อกใหม่แทบไม่ทัน แนะนำว่าให้เลือกระดับ 3 เพื่อมีฐานบล็อกสำหรับตัวต่อบางตัวที่ไม่สามารถวางแนวระนาบกับพื้นได้ และเป็นระดับที่ไม่สูงมากจนเกินไป
สุดท้ายคือการเลือกเพลงประกอบเกม เราสามารถเลือก Silence (ไม่มีเพลงประกอบ มีแต่เสียงเอฟเฟกต์ประกอบการเล่น) หรือเลือกเพลงที่มีใน List ได้แก่ Loginska, Bradinsky, Karinka, Troika ซึ่งเพลงเหล่านี้เป็นเพลงพื้นบ้านของรัสเซีย ทำให้เกมนี้มีกลิ่นอายของความเป็นรัสเซียมากขึ้น
การเลือกเพลงประกอบฉากได้ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ในยุคนั้นเลยทีเดียว เพราะปกติแล้วเกมทั่ว ๆ ไปจะมีเพลงประกอบเดิม ๆ ซ้ำไปมา ไม่มีตัวเลือกปิดเพลง ซึ่งเพลงในเกม Tetris เสียงจะค่อนข้างแหลมและวนซ้ำไปมา แต่พอมาฟังเวอร์ชันเปียโนแล้วเสียงกำลังดีเลย
ขอบคุณเพลงประกอบเกม Tetris เวอร์ชันเปียโน จาก NataEight IFy
เมื่อเลือกทุกอย่างครบแล้ว ทีนี้เราจะได้เริ่มเล่นเกมกันเสียที สำหรับการเล่น Tetris ในทุกแบบ จะต้องหมุนทิศทางของตัวบล็อกที่กำลังหล่นลงมา ให้พอดีกับช่องว่างของฐานบล็อกด้านล่าง ระหว่างนี้ ให้เราสังเกตตัวบล็อกตัวต่อไปที่ด้านบนตรงคำว่า Next เพื่อให้เราตัดสินใจในการจัดวางตัวบล็อกให้ลงล็อกง่ายขึ้น
ถ้าเราสามารถจัดเรียงบล็อกจนไม่มีช่องว่าง แถวนั้นจะถูกตัดไปและเราจะได้คะแนน เราสามารถตัดได้สูงสุด 4 แถว เมื่อตัดแถวครบทุก ๆ 30 แถว จะมีนักแสดงออกมาเต้นรำเฉลิมฉลองความสำเร็จของเรา เพลงยาวมาก ถ้าไม่ต้องการรับชมสามารถกดข้ามได้ เราจะได้เลื่อนระดับถัดไป
เทคนิคที่ทำให้ตัดแถวได้ 4 แถวคือใช้ตัวบล็อกยาวบิดให้เป็นแนวตั้ง ทีนี้แหละเราจะกองบล็อกไว้สูง ๆ เว้นช่องว่าง 1 ช่องสำหรับบล็อกยาว 1 ตัวเพื่อที่จะตัดแถวได้ 4 แถว แต่บางทีบล็อกที่เราต้องการมันก็ไม่ยอมหล่นลงมาเสียที ทำให้แถวสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนเกือบถึงด้านบน เป็นอันจบเกม
วันนี้ลองเล่นทุกแบบทั้งแบบเดี่ยวแบบคู่ เพื่อให้ได้ภาพการเล่นมาครบทุกแบบเลยทีเดียว (ลงทุนสุด ๆ)
1 player
ผู้เล่น 1 คนจะเล่นในหน้าจอซ้ายมือ ส่วนขวามือเป็นสถิติของตัวบล็อกที่หล่นลงมา ในครั้งนี้เลือกการเล่นระดับ 0 ฐานบล็อกระดับ 3 ซึ่งการเล่นนี้เราไม่ต้องแข่งกับใคร จึงไม่ต้องรีบร้อนมากนัก หากจบเกมสามารถเริ่มต้นใหม่ได้โดยไม่ต้องรอใคร
เล่นแบบ 1 player
2 player
ผู้เล่น 2 คนจะต้องต่อบล็อกในหน้าจอของตนเอง โดยใช้หลักการเล่นเดียวกับ 1 player สังเกตว่าหน้าจอของผู้เล่นทั้ง 2 คนจะเริ่มต้นด้วยบล็อกแบบเดียวกัน และมีระดับการเล่นแบบเดียวกันทั้งคู่ ซึ่งถือว่าเป็นการแข่งขันที่ยุติธรรม สำหรับคนที่อยากประลองฝีมือในการเล่น แต่ถ้าใครจบเกมก่อน จะยังไม่สามารถเลิกเล่นได้ ต้องรอให้อีกคนจบเกมด้วย จึงจะเริ่มเกมใหม่ได้
2 player
Cooperative
ผู้เล่น 2 คนจะต้องมาแข่งกันในหน้าจอเดียว คือ ต้องแย่งกันต่อบล็อกเคลียร์แถวเพื่อให้ได้จำนวนแถว ถ้าใครตัดแถวได้ครบจำนวนก่อนกัน จะทำให้อีกคนต้องเลื่อนระดับไปด้วย เพราะอยู่ในหน้าจอเดียวกัน ความยากของการเล่นแบบ Cooperetive คือ เราอาจจะโดนเพื่อนชุบมือเปิบแถวที่เราอุตส่าห์สร้างมาอย่างดีก็ได้ ส่วนการเล่นอื่น ๆ ก็เหมือนกับการเล่นแบบด้านบนที่ผ่านมา แน่นอนว่า หากคนใดคนหนึ่งปล่อยให้แถวสูงขึ้นเรื่อย ๆ จะต้องจบเกมด้วยกันทั้งคู่
Cooperative
Versus Computer
การเล่นแบบนี้คล้ายกับ 2 player แต่ผู้เล่นอีกคนจะถูกควบคุมโดยระบบคอมพิวเตอร์ (คล้าย AI ในสมัยนี้) แน่นอนว่ายากกว่าเล่นกับคนอยู่แล้ว ซึ่งคอมพิวเตอร์จะค่อย ๆ ต่อบล็อกไปอย่างช้า ๆ เนื่องจากมีระบบคิดคำนวณมาอย่างดี ในขณะที่เรานั้น เน้นไวเข้าว่า บล็อกตกลงมามีช่องว่างตรงไหนรีบปล่อยลงไปวางทันที บางทีก็เว้นช่องไว้เยอะ ๆ เผื่อบล็อกยาว ด้วยความโลภมากอยากได้ 4 แถว ซึ่งการเล่นแบบนี้ทำให้เราเลื่อนระดับไวกว่าคอมพิวเตอร์จริง แต่จบเกมไวกว่าเห็น ๆ และไม่พอ เราจะต้องรอให้คอมพิวเตอร์จบเกมด้วยเช่นกัน จึงจะเริ่มเกมใหม่ได้
Versus Computer
With Computer
การเล่นแบบสุดท้ายนี้คล้ายกับ Cooperative แต่ผู้เล่นอีกคนของเราคือคอมพิวเตอร์ เราจะต้องแย่งกับคอมพิวเตอร์ในการหาที่เอาบล็อกของเราลงเพื่อตัดแถวให้ได้มากที่สุด แต่สิ่งที่ทำให้ With Computer แตกต่างจาก Cooperative คือ คอมพิวเตอร์จะไปอย่างช้า ๆ ทำให้เราสามารถตัดหน้าลงบล็อกในจุดที่ต้องการได้ แต่ความช้าของคอมพิวเตอร์นั้นทำให้เราจะโดนชุบมือเปิบได้เช่นกัน หากเราต่อบล็อกได้แถวที่ต้องการแล้ว และคอมพิวเตอร์ดันมีบล็อกที่สามารถตัดแถวได้พอดี แต่แน่นอนว่า เราจะต้องจบเกมพร้อมกันถ้าแถวสูงขึ้นจนต่อไม่ได้แล้ว
With Computer
ในปัจจุบันเกม Tetris ถูกนำมาพัฒนาใหม่ในรูปแบบที่หลากหลาย แต่ยังรักษาวิธีการเล่นและเอกลักษณ์ของตัวบล็อกแบบเดิม ที่แม้ไม่บอกชื่อเกม ก็รู้ว่านี่คือเกม Tetris ถ้าใครอยากลองเล่นเกม Tetris เวอร์ชันดั้งเดิม สามารถเล่นได้ที่ link ด้านล่าง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา