Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
MAKE MONEY EVERYDAY
•
ติดตาม
28 มิ.ย. 2020 เวลา 01:46 • ธุรกิจ
ลงทุนทั้งที ต้องมีตัวช่วย...!!!
วันนี้ผมก็จะมานำเสนออีกหนึ่ง Indicator
ที่เป็นที่นิยม ในการช่วยตัดสินใจ
เพื่อการสนับสนุน และลงมือ ซื้อ หรือขาย
Indicator ที่จะกล่าวถึงก็คือ EMA
EMA หรือ (Exponential Moving Average)
มาจากเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่
เป็นการคำนวนค่าเฉลี่ยที่เราสนใจ
โดยใช้ข้อมูลราคาย้อนหลังตามที่เรากำหนด
ลักษณะของ EMA
-เส้นกราฟของ EMA จะเรียบง่าย
หรือ smooth กว่า กราฟราคา
-ทิศทางการเคลื่อนที่
จะมีทิศทางเดียวกันกับกราฟราคาเสมอ
เช่น ถ้าทิศทางของกราฟราคา เป็นทิศทางขาขึ้น
เส้น EMA ก็จะมีลักษณะชันขึ้นเช่นเดียวกัน
ตัวอย่าง การใช้งาน EMA
เราจะเลือกเส้น EMA มา 2 เส้น
ควบคู่กับกราฟของราคา
ดพื่อดูว่า EMA สนับสนุนการ ซื้อขาย หรือไม่
เช่น เลือก เส้นระยะสั้น EMA 10
และเส้นระยะยาว EMA 50
หาก EMA ระยะสั้น (EMA 10)
อยู่เหนือ EMA ระยะยาว (EMA 50)
ถือว่า เส้น EMA สนับสนุนการซื้อหุ้น เป็นต้น
ที่มาของเส้น EMA
เส้น EMA 10 วัน มาจากการคิดราคาเฉลี่ย
ย้อนหลัง 10 วันทำการ หรือ 2 สัปดาห์นั่นเอง
เส้น EMA 50 วัน มาจากจากคิดราคาเฉลี่ย
ย้อนหลัง 50 วันทำการ หรือประมาณ 2 เดือนนั่นเอง
แนวทางการใช้งาน เส้น EMA
ขั้นแรก ให้เพื่อนๆ กำหนดค่า หรือ Paramiter ของเส้น EMA จากราคาย้อนหลัง (ตามสไตล์การเทรด)
เช่น ถ้าเพื่อนๆ ต้องการถือหุ้นเป็นระยะเวลาสั้นๆ ก็เลือกค่า EMA ย้อนหลังสั้นๆ
หากต้องการถือยาว ก็ให้เพิ่ม การตั้งค่า EMA ที่นานขึ้นตามลำดับ
หลังจากตั้งค่าที่เราต้องการแล้ว ขั้นตอนต่อไป คือ
การพิจารณากราฟราคา และ เส้น EMA ดังนี้
1. กราฟราคา อยู่เหนือเส้น EMA : แนวโน้มขาขึ้น
2. เส้น EMA ระยะสั้น : แนวโน้มขาขึ้น
อยู่เหนือเส้น EMA ระยะยาว
3. เส้น EMA มีความชันเฉียงขึ้น : แนวโน้มขาขึ้น
สรุปได้ว่า มีโอกาสสูง ที่ราคาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
จึงควรหา "จังหวะการเข้าซื้อ" จะทำให้เรามีโอกาสในการทำกำไร มากกว่าการขาดทุนนั่นเอง
แต่..........................!!!
เมื่อกราฟราคา และเส้น EMA มีลักษณะดังกล่าว
ไม่ได้แปลว่าเราสามารถ ลงมือซื้อ ขายได้ทันที
สิ่งที่ต้องทำต่อไป คือการวิเคราะห์เทคนิคประเภทอื่น เช่น การวิเคราห์แนวรับ แนวต้าน
หรือการวิเคราะห์ การฟแท่งเทียน เป็นต้น
" ราคา คือ ข้อมูลที่แท้จริง ที่เกิดจาการซื้อขาย
Indicator เป็นสิ่งที่ได้จากการคำนวณ
ดังนั้น เราจึงควรให้กราฟราคาเป็นพระเอก
ส่วน Indicator เป็นพระรอง "
หวังว่าเพื่อนๆ จะได้ประโยชน์จากบทความนี้นะครับ
ขอให้เพื่อนๆ มีความสุข และประสบความสำเร็จ
กับการลงทุน
แล้วพบกันบทความถัดไปครับ.😁😁😁
4 บันทึก
4
4
3
4
4
4
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย