28 มิ.ย. 2020 เวลา 01:22 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
เรื่องของสีผิว … ทำไมคนมีสีผิวต่างกัน?
เคยสงสัยไหมครับว่าทำไมสีผิวของมนุษย์เรา จึงหลากหลายเช่นนี้
มีทั้งสี ขาว เหลือง น้ำตาล ดำ และ สีระหว่างกลางอีกมากมาย?
ทำไมมนุษย์จึงวิวัฒนาการมามีสีผิวที่ต่างกันมากมายเช่นนี้?
จะเข้าใจเรื่องนี้ เราก็คงต้องย้อนเวลากลับไปเมื่อ ประมาณสัก 60,000 ปีที่แล้วครับ
ที่ต้องประมาณ 60,000 ปีเพราะช่วงเวลานั้น เป็นช่วงเวลาที่บรรพบรุษของมนุษย์ เดินทางออกจากทวีปแอฟริกาเป็นครั้งแรก
และแน่นอนว่าบรรพบุรุษของพวกเรา ที่เดินทางออกมาในวันนั้น …. มีผิวดำ
3
ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?
จะเข้าใจ เราก็คงต้องย้อนเวลากลับไปอีกครั้ง ….
กลับไปก่อนที่บรรพบุรุษของเราจะเป็น โฮโม เซเปียนส์
บรรพบุรุษวานรของเรามีคนรุงรังเต็มตัวไม่ต่างไปจากลิงสายพันธุ์อื่นๆทั่วโลก
ถ้าเราไปแหวกขนของบรรพบุรุษมนุษย์วานรดู
เราจะพบว่าผิวของบรรพบุรุษมนุษย์วานรนั้นจะมีสีขาวคล้ายกับที่พบในสีผิวของ กอริลล่าหรือชิมแปนซีในปัจจุบัน คือมีผิวขาวภายใต้ขนสีดำ (ซึ่งช่วยบังแดด)
1
ต่อมาเมื่อบรรพบุรุษมนุษย์วานรวิวัฒนาการมาเป็นมนุษย์แบบคุณและผมเมื่อ 200,000 ปีที่แล้ว
เราก็กลายมาเป็นลิงไม่มีขน เนื้อตัวเกลี้ยงเกลา
(ถึงตรงนี้ หลายท่านอาจจะสงสัยว่า อะไรทำให้เรากลายเป็นลิงไม่มีขน?
ทำไมเรายังมีขน บนหัว รักแร้ บริเวณขาหนีบ และรอบรูก้น?
ถ้าสนใจคอมเมนต์ไว้ได้ครับ)
สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาหลังจากที่ขนตามตัวหลุดหายไปคือ
บรรพบุรุษเราต้อง เผชิญกับแสงแดดอันแรงกล้าของแอฟริกา
1
ปัญหาคือ แสงแดดสามารถส่องเข้าไปใต้ผิวหนังเราและทำลายกรดโฟลิกที่ไหลเวียนอยู่ในเลือดเราได้
กรดโฟลิกเป็นสารอาหารหรือวิตามินชนิดหนึ่ง ที่จำเป็นสำหรับการแบ่งตัวของเซลล์
(จึงสำคัญสำหรับ การเติบโต ซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่างๆ)
อวัยวะที่ต้องแบ่งตัวมากเช่น ไขกระดูกที่มีหน้าที่ผลิตเม็ดเลือดแดง จึงต้องการกรดโฟลิกมาก
เช่นเดียวกัน ทารกที่เติบโตในท้องแม่ก็ต้องการสารอาหารตัวนี้มาก
หมอจึงนิยมให้กินโฟลิกเสริม ระหว่างตั้งครรภ์
ดังนั้นเมื่อบรรพบรุษของผิวขาวของเราโดนแสงแดดมากๆก็เสี่ยงที่จะขาดกรดโฟลิก
ซึ่งมีผลให้เม็ดเลือดแดงไม่สมบูรณ์ ทารกก็เสี่ยงที่จะไม่แข็งแรงได้ง่าย
จึงเกิดการคัดเลือก (natural selection) ที่ทำให้คนผิวคล้ำกว่าได้เปรียบในการส่งต่อพันธุกรรม
เมื่อเวลาผ่านไปนานพอ ผิวของมนุษย์จึงค่อยๆคล้ำขึ้นเรื่อยๆจนผิวสีดำกลายเป็น สีผิวปกติของประชากรไป
นั่นคือเหตุการณ์เมื่อ 200,000 ปีที่แล้ว
ต่อมาเมื่อ 60,000 ปีที่แล้ว....
เมื่อมนุษย์เดินทางออกจากแอฟริกา และกระจายย้ายถิ่นไปยังที่ต่างๆทั่วโลก
มนุษยก็เจอปัญหาของแสงแดดของแต่ละท้องที่อีกครั้ง
เมื่อมนุษย์ผิวดำเดินทางเข้าไปในทวีปยุโรปซึ่งมีแสงแดดน้อย
ก็เกิดความไม่เข้ากันของสีผิวและสิ่งแวดล้อม
1
คราวนี้ไม่ใช่เรื่องของโฟลิก แต่เป็นเรื่องของ วิตามินดี
เรื่องราวมันมีอยู่ว่า ร่างกายของมนุษย์เรามีกลไก ที่จะใช้แสง UV ในการเปลี่ยน คอเลสเตอรอลใต้ผิวหนัง ให้กลายเป็นวิตามินดี
เมื่อผิวสีดำ ทำหน้าที่กรองแสง UV ดีเกินไป (ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่ค่อยมีแดด) ทำให้เสี่ยงที่จะเกิดการขาดวิตามินดี
ผลเสียที่เกิดจากการขาดวิตามินดีนั้นมีมากมาย (จนเล่าไม่ไหว)
แต่ที่น่าจะเด่นชัดที่สุดสำหรับคนยุคนั้นคือ กระดูกไม่แข็งแรง กระดูกผิดรูป (ที่เรียกว่าโรค rickets)
สำหรับคนที่มีวิถีชีวิตแบบล่าสัตว์หาของป่า การมีกระดูกไม่แข็งแรงมีผลเสียอย่างมาก
คงไม่ต่างไปจากการให้คนอายุร้อยกว่าปี ไปวิ่งมาราธอน กระโดดไกล และเล่นอเมริกันฟุตบอล
นอกไปจากนั้นปัญหาใหญ่ของ ricket อีกอย่างคือ การผิดรูปของกระดูกเชิงกราน
ซึ่งถ้าเป็นในผู้หญิงจะทำให้มีปัญหาในการคลอดลูก คือคลอดยาก เสี่ยงต่อการเสียชีวิตของทั้งแม่และลูก
1
ดังนั้น ในสิ่งแวดล้อมที่แดดน้อย หรือคนต้องห่อหุ้มตัวเองเพื่อป้องกันความหนาวหลายเดือนในหนึ่งปี
คนที่ผิวขาวกว่า จึงมีแนวโน้มที่จะสุขภาพดีกว่า มีชีวิตรอดมากกว่า และมีลูกมากกว่า
นานๆไป คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่แดดน้อยจึงมีจำนวนของคนผิวขาวมากขึ้นเรื่อยๆ
จนผิวสีขาวกลายเป็นสีผิวปกติของคนยุโรป
คนบริเวณอื่นๆของโลก เราก็พบการเปลี่ยนแปลง ของสีผิวในทำนองเดียวกัน คือ
ที่ไหนแดดจัด ก็จะเกิดการคัดเลือกคนผิวสีเข้ม
ที่ไหนแดดน้อย ก็จะเกิดการคัดเลือกคนผิวสีอ่อน
ดังนั้นไม่ว่าจะสีผิวดำหรือขาว ทั้งหมดก็เป็นไปเพราะสีผิวนั้นเหมาะกับสิ่งแวดล้อมที่อาศัยอยู่
แต่มีข้อยกเว้นอยู่หนึ่งที่
ชนเผ่าอินูอิท (หรือชาวเอสกิโม) เป็นคนที่อาศัยอยู่ในที่มี UV น้อยมากๆคือ ไม่มีแสงแดดเลยปีนึงหลายเดือน
เพราะพวกเขาอาศัยอยู่บริเวณรอบๆขั้วโลกเหนือ
แต่สีผิวเขากลับออกคล้ำๆหน่อย
มันเป็นไปได้อย่างไร?
คำอธิบายมันอยู่ที่อาหารที่พวกเขากินกัน
ด้วยความที่อาศัยอยู่รอบๆขั้วโลกเหนือ อาหารที่กินจึงเต็มไปด้วยปลาและไขมันของแมวน้ำ
ซึ่งปลามันๆ (นึกถึงน้ำมันตับปลา) และไขมันสัตว์เหล่านี้ อุดมไปด้วยวิตามินดี
ทำให้คนเหล่านี้แม้ว่าจะขาดแสงแดดในหลายเดือนต่อปี (บวกกับใส่ชุดหนามาก) แต่พวกเขาก็ไม่ขาดวิตามินดี
จากที่คุยกันมาทั้งหมด จะเห็นว่าเรื่องของสีผิว
มันเป็นเรื่องของการปรับตัวให้เหมาะกับสภาพแวดล้อม
เป็นเรื่องของสุขภาพ
เป็นประวัตการเดินทางย้ายถิ่นของเผ่าพันธุ์มนุษยที่ถูกบันทึกไว้ในสีผิวของคนแต่ละท้องถิ่น
แต่คิดดูแล้วก็แปลกดี
เรื่องของสีผิวนั้น เริ่มต้นมาจาก โฟลิกและวิตามินดี
ถ้าเรานำคนๆนึงมาคั้นหรือสกัดโฟลิกและวิตามินดีออกมา
จะพบว่าในร่างกายคนๆนึงนั้น จะมีโฟลิกและวิตามินดีรวมกันไม่ถึงหนึ่งช้อนชาเสียด้วยซ้ำ
แต่สารเคมีจำนวนน้อยนิดสองตัวนี้
กลับมีผลต่อประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติมากมายเหลือเกิน ...
ถ้าอยากให้ไลน์แจ้งเตื่อนเมื่อผมโพตส์บทความใหม่ ก็สามารถแอดไลน์ได้โดยการคลิกที่นี่เลยครับ https://lin.ee/3ZtoH06 หรือ
add Line :@chatchapol
(ปิดท้ายด้วยโฆษณา)
ถ้าชอบวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับร่างกายแบบนี้
แนะนำอ่านเพิ่มเติมได้จากหนังสือ Bestseller ของผมชื่อ เรื่องเล่าจากร่างกายและ 500 ล้านปีของความรักครับ
สามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้จากลิงก์ด้านล่างครับ
อ่านบทความแนวประวัติศาสตร์ได้ที่
คลิปวีดีโอเกี่ยวกับประวัติศาสตร์
โฆษณา