“ลุงป้อม” แม่ทัพพรรคใหญ่ป้ายแดง.. พลังใจเกินร้อยจากคนพิเศษ!
ลุงป้อม - พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ
พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หนึ่งในตำนานสุภาพบุรุษเซนต์คาเบรียล
เพราะจบจากโรงเรียนชายล้วน ก่อนโบยบินเข้าเตรียมทหาร รุ่นที่ 6
จปร. รุ่นที่17
และไม่ลังเลใจเข้าโรงเรียนเสนาธิการทหารบก จนสร้างประวัติศาสตร์
หน้าใหม่ให้วงการสีเขียว
ชีวิตรับราชการทหารที่ฝังรากลึกอยู่โซนแถบจังหวัดภาคตะวันออก
กลายเป็น “พี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์”
ก้าวขึ้นเบอร์หนึ่งแห่งกองทัพบก ปูทางให้สายบูรพาพยัคฆ์ไหลขยับสู่
ตำแหน่ง ผบ.ทบ. ถึง 3 นาย หนึ่งในนั้นมี “ลุงตู่” พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ผันตัวเองเข้าสู่วงการเมืองสมัย “รัฐบาลพี่มาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
รับบทรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
แจ้งเกิดอีกครั้งยุค“รัฐบาล คสช.” ดูแลด้านความมั่นคง เป็นรองนายกรัฐมนตรี
ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
หลังเลือกตั้งครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ พรรคพลังประชารัฐรวบรวม
เสียงข้างมาก เลือกนายกรัฐมนตรีและตั้ง “รัฐบาลลุงตู่” สำเร็จ ก็ขอเป็น
เฉพาะรองนายกรัฐมนตรี ดูแลด้านความมั่นคง
“ตลอดชีวิตทำงานไม่เคยหยุด เป็นรองนายกฯ มา 7 ปี เป็นรัฐบาล 8 ปี
ดูความมั่นคงตลอด”
ตอนนี้ “ลุงป้อม” เป็นแม่ทัพใหญ่วัย 75 ขวบ (พ.ศ.2488)
นั่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) คนใหม่เป็นที่เรียบร้อย
ดูงานการเมืองเต็มตัว ค้ำบัลลังก์เสถียรภาพให้ “รัฐบาลลุงตู่”
“ท่านนายกฯ บริหารประเทศไป”
ไม่ทันขาดคำถูกคอการเมืองตั้งคำถาม โดยสังเกตอาการของ “พี่น้อง 3 ป”
ประกอบด้วย “ลุงตู่-ลุงป้อม – ลุงป๊อก พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา” วงแตก
แยกทางกัน
คำถามเดียวกันนี้ถูกปล่อยออกมาเป็นระยะตั้งแต่ “รัฐบาล คสช.” ถึง
“รัฐบาลลุงตู่” บนสายสัมพันธ์กว่า 40 ปี มีสุขรวมเสพ มีทุกข์ต้าน
มีปัญหาร่วมแก้.. โอบรั้งมิตรภาพเหนือคำบรรยาย
“ผม ประยุทธ์ ไม่มีแตกกัน อยู่ด้วยกันตั้งแต่เด็ก ผมเป็นร้อยเอก
ประยุทธ์เป็นร้อยตรี เป็นลูกน้องผมทั้งนั้นแหละ มารายงานตัวผม
แล้วนอนอยู่บ้านเดียวกัน กินอยู่มาด้วยกัน ทำงานด้วยกันมาตลอด”
“ผม ท่านนายกฯ ป๊อก คุยเรื่องงานตอนเช้าเกือบทุกครั้งก่อนเข้าประชุมครม.ชุดใหญ่”
แม้โดยตำแหน่งทางการเมืองของ “ลุงตู่” เป็นผู้บังคับบัญชาของ “ลุงป้อม”
แต่ความเคารพรัก ความไว้วางใจ ความนอบน้อมที่แสดงออกต่อ
พี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์ยังเสมอต้นเสมอปลาย
กลายเป็นภาพคู่หูดูโอ้สายการเมือง! พี่คู่คิด มิตรคู่ใจ
“ผมออกพร้อมนายกฯ ทำงานร่วมมือร่วมใจกัน ไม่ทิ้งกัน พูดอย่างไรเป็นอย่างนั้น”
บทบาทหนักขึ้นแน่นับจากนี้เป็นต้นไป.. ย่าง 76 ยังฟิตปั๋ง!! (11 สิงหาคม 2488)
ทุกวันนี้พยายามดูแล “สุขภาพ” อย่างสม่ำเสมอ
ว่ายน้ำ สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ครั้งละครึ่งชั่วโมง ไม่มีปัญหาสุขภาพ
มีแต่ขานิดหน่อยที่ไม่ค่อยดี เดินไม่ค่อยถนัด อายุเยอะแล้ว
กิจกรรมยามว่างใช้เวลาชื่นชม “ธรรมชาติอยู่ที่บ้าน” ปลูกต้นไม้ ตัดแต่งต้นไม้
ปกติวันเสาร์ – อาทิตย์ ชอบออกไปเดิน “ห้างสรรพสินค้า” แต่สถานการณ์
ไวรัสโควิด-19 ทำให้ไม่ได้ไปเลย
“รักการทำอาหาร” เมนูต้ม ผัด แกง ทอดทำได้ทุกอย่าง
แต่ “ครัวลุงป้อม” ขึ้นชื่อ 2 เมนูซิกเนเจอร์ (Signature) คือ ผัดซีอิ๊ว และขาหมู
เป็นสูตรลับตำรับ คิดเอง ปรุงเอง นักเลงพอ!
“สูตรผัดซีอิ๊ว ผมคิดเอง ไม่ได้ไปลอกเลียนใครมา ปรุงรสชาติเอง สมัยเป็นทหาร
อยู่ลาว 3 ปี ทำกับข้าวกินเอง ทำขาหมูเอง เลี้ยงลูกน้องสิบกว่าคน ตั้งแต่ยศร้อยตรี
ร้อยโท พันตรีจนเป็นนายพล”
ด้วยภาระงานที่เพิ่มขึ้น ทำให้ “ลุงป้อม” หยุดหว่านเสนห์ปลายจวัก
เว้นมีคนพิเศษ.. มาเยี่ยมถึงเรือนชาน ก็ยินดีลงครัวปรุงรสด้วยตัวเอง
โดยเฉพาะเมื่อหลาน ๆ เหลน ๆ เรียกร้องเมนูประจำ อย่างผัดซีอิ๊วกับข้าวผัด
ถึงขั้นลงมือจัดเต็ม เสิร์ฟความอร่อยให้เด็ก ๆ ทันที..
แถมเป็นลาภปากของทุกคนในบ้านได้อิ่มอร่อยทั่วหน้า
เสียงเรียกและรอยยิ้มของหลาน ๆ เหลน ๆ ที่ได้กินของอร่อยสมใจ
ถือเป็นความสุขกลายเป็นพลังใจบริสุทธิ์ ส่งต่อให้ “ลุงป้อม” จริงแท้แน่นอน!
“ครัวลุงป้อม สูตรลับ ตำรับรัก ปรุงครบรสด้วยใจ” ^_^ ^_^
Credit.. ^_^ ^_^ Who..@ChillDay ฉบับที่ 9
“ลุงป้อม แม่ทัพพรรคใหญ่ป้ายแดง.. พลังใจเกินร้อยจากคนพิเศษ!”
ประจำวันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2563
ลิขิตอักษรและชักภาพ : หลานยายสัมฤทธิ์ ศิษย์ตาสาคร ฮรี่ ๆ ๆ
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
