เสลา ตะแบก อินทนิล ต้นไม้งาม
วันนี้อยากพามารู้จักไม้อีกพันธุ์หนึ่งที่น่าปลูกเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะให้ดอกสวยงามแล้ว ยังเป็นไม้มีราคาที่สามารถนำไปค้ำประกันได้ แม้ว่าเราจะพบอยู่มากมายริมทางหลวงแต่วันนี้ เสสา ตะแบกและอินทนิลไม่ใช่ไม้ดาษดื่นทั่วไปอีกแล้ว ต้นไม้ทั้งสามชนิดนั้นเป็นไม้ในวงศ์เดียวกัน ลักษณะดอกก็มีความคล้ายคลึงกัน จนยากที่จะแยกออกว่าเป็นดอกอะไร จนบางครั้งเรียกสับสนปะปนกันไปหมด
ต้นแรกคือต้นเสลา อ่านว่าสะ-เหลา เป็นไม้ยืนต้นสูงใหญ่ประมาณ 15-30 เมตร เปลือกลำต้นสีเทาเข้มเกือบดำ ผิวขรุขระ มีรอยแตกเป็นร่องตื้นๆ ตามยาว ปลายกิ่งย้อยลู่ลงต่ำแผ่นใบค่อนข้างหนามีขนนุ่มทั้งสองด้าน แต่หลังใบจะค่อนข้างสาก ดอกออกเป็นช่อตามง่ามใบและปลายกิ่งมีหลายสี เช่นสีม่วงม่วงอมแดง และขาว ออกดอกเดือนธันวาคม-มีนาคม เวลาเสลาจะออกดอกจะทิ้งใบทั้งต้น เราจึงได้เห็นความสวยงามเวลาดอกบานทั้งต้นของเวลาความสวยงามไม่แพ้พญาเสือโคร่งเลยทีเดียว แต่ที่ดีกว่าคือปลูกที่ไหนก็ออกดอกได้ทั่วประเทศ
ตะแบก ต้นตะแบกนั้นเป็นไม้ต้นผลัดใบสูง 15-20 เมตรเปลือกลำต้นเรียบเป็นมันสีเทาอ่อนมีรอยเป็นวงสีขาวรอบต้นคล้ายเปลือกต้นฝรั่งปลายใบมีติ่งแหลมเล็กใบอ่อนสีแดงใบแก่เกลี้ยงไม่มีขน ลักษณะใบมัน ดอกออกเป็นช่อที่ปลายกิ่งโค้งชูเหนือเรือนยอด ดอกบานวันแรกสีม่วงอมชมพู ต่อมาเปลี่ยนเป็นสีขาว ออกดอกเดือนกรกฎาคม-กันยายน โตช้า
อินทนิล เป็นไม้ต้นผลัดใบ สูง 10 – 25 เมตร เปลือกลำต้นสีเทาหรือสีน้ำตาลอ่อน ผิวค่อนข้างเรียบ อาจตกสะเก็ดเป็นแผ่นบางๆ บ้างเล็กน้อย ปลายใบแหลแผ่นใบค่อนข้างหนาเป็นมันทั้งสองด้านไม่มีขน ดอกออกเป็นช่อตั้งที่ปลายกิ่ง ดอกสีม่วงสด ม่วงอมชมพูหรือชมพู และสีจะซีดจางลง เมื่อดอกโรยออกดอกเดือนมีนาคม-มิถุนายน
ทั้งสามต้นชอบแดดเต็มวัน ทนแล้งได้ดี ถ้าดูดอกแล้วแยกไม่ออกว่าดอกอะไรก็ให้สังเกตที่ลำต้นและใบแทน เสลาลำต้นสีเข้มเกือบดำ ผิวขรุขระ มีร่องแตกตามยาว ส่วนตะแบกจะมีลำต้นสีเทาอ่อน มีรอยเป็นวงสีขาว ถ้าดูที่ใบเสลาจะมีขนหลังใบสาก ส่วนตะแบกใบจะเล็กกว่าไม่มีขน สำหรับอินทนิลนั้นดูจากดอกก็พอจะรู้เพราะช่อดอกจะตั้งชูขึ้น เป็นข้อสังเกตง่ายๆให้พอแยกได้นะคะ หวังว่าคงเป็นประโยชน์ได้บ้าง
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
