#VAR Charging ระบบส่งไฟฟ้าแรงสูงเกิดขึ้นได้อย่างไร? และทำไม #แรงดันปลายสายส่งที่ไม่มีโหลดจึงมีค่าที่สูง?
เมื่อก่อนตอนเรียนผมก็ยังสงสัยมันเกิดขึ้นได้อย่างไร และจินตนาการไม่ออก พอได้มทำงานจริง ได้เห็นปรากฎการณ์แบบที่เรียน เลยจะนำมาเล่าให้เพื่อนๆได้รู้เป็นแนวทางเพื่อศึกษาต่อ หรือให้เข้าใจในทฤษฎีมากขึ้น
ในระบบส่งที่มีสายส่งระยะทางยาวๆ เมื่อเราจ่ายไฟผ่านส่งส่ง โดยปลายสายส่งยังไม่มีการนำโหลดเข้า เราจะพบว่าแรงดันไฟฟ้าที่ต้นทางจะมีค่าที่ต่ำกว่าค่าแรงดันที่ปลายทาง และค่าอีกค่าหนึ่งที่เราเห็นที่ต้นทางคือค่า VAR มีค่าสูงมากตามความยาวสายส่งและขนาดแรงดันไฟฟ้าในระบบนั้นๆ ในขณะที่ค่า MW จะมีค่าเพียงเล็กน้อย เพราะยังไม่มีกระแสโหลดนั้นเอง ที่กล่าวมานี้เราจะเห็นมีของอย่างมีค่า VAR เกิดขึ้น ซึ่งค่านี้เกิดจากค่า CAPACITIVE REACTANCE (Xc) ในสายส่งนั้นเอง
แล้วค่า XC เกิดมาได้อย่างไร อธิบายอย่างสั้นๆ คือ เกิดมาจากค่า Capacitance ที่เกิดจากความต่างศักย์ระหว่างสายตัวนำไฟฟ้า และมีอากาศเป็นสารตัวกลาง (ตามหลักการของ Capacitor) และเสมือนต่อขนานกันไปตลอดความยาวสายส่ง ยิ่งยาวมากจะมีค่ามีขึ้น และเมื่อมีค่ามากค่ากระแสจาก Capacitor ก็มีค่าสูงเช่นเดียวกัน ค่ากระแส Ic เกิดมาจากการเปลี่ยนแปลงของแรงดันต่อช่วงเวลาและค่าผลรวม C ของสายส่ง จะมีค่าที่เรียกว่า charging volt-ampere หรือที่เราเรียกว่า #Var charging ในสายส่ง
และคำถามที่ว่าแรงดันปลายส่งที่สูงกว่าต้นทางเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ในสายส่งนอกจากค่า Xc ที่เกิดขึ้นแล้วยังมีค่า XL ที่เกิดมาจากลวดสายส่ง ถึงมีค่าน้อยแต่มีเมื่อความยาวมากก็จะมีค่ามากตามไปด้วย เหมือนต่ออนุกรมกันตลอดความยาวสายส่ง และจากทฤษฎี ของแรงดันที่เกิดขึ้นจาก XL มาจากการเปลี่ยนแปลงของกระแสที่ไหลผ่านขดลวดต่อเวลา ซึ่งกระแสตอนไม่มีโหลด ก้คือกระแสของ IC นั้นเอง ทำให้เกิดแรงดันที่จุดต่างๆเพิ่มขึ้นตามความยาวสายส่ง แรงดันที่จุดปลายสายจะมีค่าสูงสุด ( เกิด Ferranti Effect ในสายส่ง)
#ระบบส่งไฟฟ้าและการควบคุมการจ่ายไฟ #VAR Charging ระบบส่งไฟฟ้าแรงสูง
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
