Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
คลังความรู้ by SpokeDark
•
ติดตาม
1 ก.ค. 2020 เวลา 03:00 • ประวัติศาสตร์
(ว่าที่) ผู้นำนาซีคนต่อไป! เกร็ดสาระน่ารู้ของ 'แฮร์มัน เกอริง' จอมพลผู้ถูกฮิตเลอร์วางตัวเป็นทายาททางการเมือง
WIKIPEDIA PD
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
แฮร์มัน เกอริง คือจอมพลแห่งกองทัพอากาศของเยอรมนีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาคือหนึ่งในผู้มีบทบาทสำคัญในพรรคนาซี และเป็นผู้สร้างแสนยานุภาพกองทัพอากาศของเยอรมนีให้มีความแข็งแกร่ง หลังจากนาซีเยอรมันพ่ายแพ้ในสงคราม จอมพลเกอริงถูกตัดสินประหารชีวิตในการพิจารณาคดีที่เนิร์นแบร์ก แต่เขาเลือกจบชีวิตด้วยตนเองด้วยการกลืนไซยาไนต์ก่อนการประหารชีวิตเพียงไม่กี่ชั่วโมง โดยก่อนที่เขาจะตาย เขาได้ตะโกนออกมาว่า ‘ไฮล์ ฮิตเลอร์’ เพื่อแสดงความเคารพอย่างสูงต่อผู้นำของเขา
ยังมีอีกหลายแง่มุมที่น่าสนใจเกี่ยวกับจอมพลอากาศคนนี้ ที่กล่าวได้ว่าจอมพลเกอริง คือคนสำคัญของกองทัพอากาศเยอรมนีอย่างแท้จริง
WIKIPEDIA PD
1. ในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เกอริงล้มป่วยด้วยโรคไขข้อและเข้ารับการรักษาพยาบาล เขาเป็นเพื่อนกับ บรูโน ลอร์เซอร์ สุดยอดนักบินรบของกองทัพอากาศเยอรมนีในขณะนั้น ที่ได้แนะนำให้เกอริงย้ายไปสังกัดหน่วยกองทัพอากาศเยอรมนี (Luftstreitkräfte) เกอริงปฏิเสธ แต่เขาก็เข้าร่วมภารกิจกับลอร์เซอร์ จนทำให้เขาถูกลงโทษจำคุกทหารเป็นเวลา 3 สัปดาห์ แต่เขาก็สามารถพ้นผิดด้วยความช่วยเหลือจากลอร์เซอร์ ที่ภายหลังได้ช่วยให้เขากลายเป็นนักบินรบที่เก่งกาจคนหนึ่งของเยอรมนีได้สำเร็จ
2. หลังจากสุดยอดเสืออากาศอย่าง มันเฟร็ด ฟอน ริชท์โฮเฟิน เจ้าของฉายา ‘Red Baron’ เสียชีวิต เกอริงได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้บัญชาการฝูงบิน ‘Jagdgeschwader 1’ ในวันสุดท้ายของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เกอริงได้รับคำสั่งให้ส่งมอบเครื่องบินของฝูงบินดังกล่าวให้ฝ่ายสัมพันธมิตร แต่เขาปฏิเสธ และนักบินของเขาได้ทำลายเครื่องบินรบเหล่านี้เพื่อไม่ให้ตกไปอยู่ในมือของฝ่ายสัมพันธมิตร
1
3. เกอริงเข้าร่วมพรรคนาซีในปี ค.ศ.1923 ด้วยความศรัทธาในตัว อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ และทำให้ทั้งคู่สนิทสนมและให้ความเคารพนับถือกันเป็นอย่างมาก ฮิตเลอร์ประทับใจในตัวเกอริง จึงมอบหมายให้เขาเป็นผู้บัญชาการของหน่วยเอสอา (Stuamabteilung) หรือกองกำลังกึ่งทหารเดิมของพรรคนาซีในยุคแรก
WIKIPEDIA PD
4. ด้วยความใกล้ชิดสนิทสนมกับฮิตเลอร์ เลยทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในแกนนำกบฏโรงเบียร์ (Beer Hall Putsch) ที่จบลงด้วยความล้มเหลว จนทำให้ฮิตเลอร์ถูกจับกุมตัวและต้องโทษจำคุก ส่วนเกอริงเองก็ได้รับบาดเจ็บ และช่วงเวลานี้เองที่ทำให้เขาติดมอร์ฟีนอย่างหนัก
5. จอมพลเกอริงได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยแห่งปรัสเซียในปี ค.ศ.1933 และเขาได้ก่อตั้งหน่วยตำรวจลับเกสตาโป (Gestapo) โดยมี ไฮน์ริช ฮิมม์เลอร์ เป็นหัวหน้าตำรวจลับ ซึ่งมีภารกิจดูแลความมั่นคงของประเทศ
1
6. ในช่วงแรกของสงครามโลกครั้งที่สอง นาซีเยอรมันประสบความสำเร็จในทุกสมรภูมิ ไม่ว่าจะเป็นการรบในโปแลนด์, เบลเยียม, เนเธอร์แลนด์ และฝรั่งเศส จอมพลเกอริงได้รับความไว้วางใจให้เป็นรองผู้บัญชาการที่มีอำนาจในการสั่งการรองจากฮิตเลอร์ และถูกวางตัวไว้เป็นทายาททางการเมืองของฮิตเลอร์อีกด้วย เหลือเพียงแค่การยึดครองเกาะอังกฤษเท่านั้น แล้วแผนการยึดครองทวีปยุโรปของนาซีเยอรมันก็จะกลายเป็นความจริง
WIKIPEDIA PD
7. ความพยายามในการรุกรานเกาะอังกฤษของฝ่ายนาซีเยอรมันไม่ประสบความสำเร็จ และนั่นคือจุดเริ่มต้นแห่งหายนะของนาซีเยอรมัน โดยเฉพาะจอมพลเกอริง ที่ล้มเหลวในการส่งกำลังบำรุงให้กองทัพนาซีเยอรมันในการรบที่สตาลินกราด จนนำมาสู่ความพ่ายแพ้ ซ้ำร้าย จอมพลเกอริงยังล้มเหลวในการวางแผนป้องกันทางอากาศเพื่อไม่ให้เครื่องบินทิ้งระเบิดฝ่ายสัมพันธมิตรมาโจมตีโรงงานอุตสาหกรรมในแผ่นดินเยอรมนีได้ ภายหลังเขาจึงถูกฮิตเลอร์ลดบทบาททางการเมืองลงไป
8. ในช่วงท้ายของสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อฝ่ายนาซีเยอรมันใกล้จะพ่ายแพ้ กล่าวกันว่าเกอริงใช้เวลาไปกับการเสพมอร์ฟีน และใช้ชีวิตหรูหราฟุ่มเฟือย เขาให้ความสนใจในงานศิลปะเป็นอย่างมาก โดยทำงานกับองค์กรที่ถูกจัดตั้งมาเพื่อปล้นงานศิลปะที่มีค่าของชาวยิวและหอสมุดทั่วยุโรปมาเป็นของตนเอง แล้วอ้างว่าเขาคือผู้อุปภัมภ์งานศิลปะ
WIKIPEDIA PD
9. ในช่วงปลายเดือนเมษายน ค.ศ.1945 ฮิตเลอร์ได้ประกาศต่อคณะรัฐมนตรีและนายพลของเขาว่าเขาจะขออยู่ที่กรุงเบอร์ลินจวบจนวาระสุดท้าย ด้วยความเข้าใจที่ผิดพลาดที่คิดว่าฮิตเลอร์จะสละตำแหน่ง เกอริงจึงอ้างสิทธิความเป็นทายาททางการเมืองของฮิตเลอร์ และประกาศว่าตนเองจะเป็นผู้นำคนใหม่ของเยอรมนี ภายหลังเมื่อฮิตเลอร์ทราบข่าว จึงสั่งจับกุมจอมพลเกอริงในข้อหากบฏและปลดเขาออกจากตำแหน่งทุกตำแหน่งทันที
10. จอมพลเกอริงถูกจับกุมตัวโดยฝ่ายสัมพันธมิตร และนำตัวเขาไปพิจารณาคดีที่เนิร์นแบร์ก จอมพลเกอริงแสดงท่าทีแข็งกร้าวต่อคณะผู้พิพากษาเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาคือผู้นำของเยอรมนีที่แท้จริง และสุดท้ายเขาก็ถูกตัดสินประหารชัวิต แต่ก่อนถึงเวลาประหารชีวิตเพียงไม่กี่ชั่วโมง จอมพลเกอริงก็เลือกปลิดชีพตัวเองด้วยไซยาไนด์ ในวันที่ 25 ตุลาคม ค.ศ. 1946
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
3 บันทึก
12
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ประวัติศาสตร์ I
บุคคลในประวัติศาสตร์โลก
3
12
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย