“Abdul Karim” มหาดเล็กและมิตรแท้ของ “พระราชินีวิกตอเรีย (Queen Victoria)” ผู้ที่ราชสำนักอังกฤษต้องการจะกำจัดทิ้ง
“Abdul Karim” เป็นมหาดเล็กชาวอินเดียของ “พระราชินีวิกตอเรีย (Queen Victoria)”
แต่เรื่องราวของเขามีความน่าสนใจ
ก่อนหน้าที่พระราชินีวิกตอเรียจะได้ทรงพบกับ Karim
มหาดเล็กที่ใกล้ชิดของพระองค์คือ “John Brown”
Brown นั้นใกล้ชิดสนิทสนมกับพระราชินีวิกตอเรียมากจนเป็นที่ซุบซิบนินทาไปทั่วราชสำนักถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่
John Brown
ต่อมา เมื่อ Brown เสียชีวิตในปีค.ศ.1883 (พ.ศ.2426) พระราชินีวิกตอเรียก็ต้องทรงเหงา โดดเดี่ยวอีกครั้ง ก่อนที่อีกสี่ปีต่อมา พระองค์จะทรงได้พบกับมหาดเล็กคนใหม่จากอินเดีย
“Abdul Karim” เป็นเสมียนเรือนจำในประเทศอินเดียซึ่งถูกส่งมาในงานพระราชพิธีฉลองครบรอบการครองราชย์ปีที่ 50 ของพระราชินีวิกตอเรีย โดยก่อนหน้านั้น พระราชินีวิกตอเรียซึ่งมีความสนพระทัยในเรื่องราวของประเทศอินเดีย ได้มีรับสั่งให้หาผู้ช่วยชาวอินเดียมาให้พระองค์
Karim เป็นผู้ถูกเลือก ซึ่งเขาก็ไม่รู้เลยว่าต้องทำอะไรบ้าง ก่อนไป เขาก็ได้เรียนภาษาอังกฤษเพียงเล็กน้อยเพื่อเตรียมตัว
เมื่อพระราชินีวิกตอเรียได้พบกับ Karim พระองค์ก็ทรงให้ความสนพระทัยในมหาดเล็กผู้นี้มาก โดยพระองค์ตรัสว่า Karim นั้นสูงและหล่อ อีกทั้งยังมีนิสัยที่ถูกพระทัยพระองค์ ไม่จู้จี้ และพระองค์ก็ทรงเริ่มเรียนภาษาอินเดียจากเขา
ภายในเวลาไม่นาน Karim ก็เป็นผู้ที่ปรุงข้าวแกงกะหรี่ถวายพระองค์ และพระองค์ยังมักจะมีรับสั่งให้ Karim เข้ามาถวายงานในห้องของพระองค์ โดยพระองค์จะมีรับสั่งให้ Karim เล่าเรื่องราวของประเทศอินเดียถวาย นอกจากนั้นพระองค์ยังมีรับสั่งให้ย้าย Karim เข้าพักในห้องที่หรูหราที่สุดของปราสาทอีกด้วย
พระราชินีวิกตอเรียนั้นทรงสำราญพระทัยที่มี Karim เป็นมหาดเล็ก ในขณะที่ Karim กลับรู้สึกอึดอัด เนื่องจากเขาต้องพูดภาษาต่างชาติและยังต้องเป็นคนรับใช้ ในขณะตอนที่อยู่อินเดียนั้น เขามีเกียรติศักดิ์ศรีไม่ต่างจากคนอื่นๆ เขาจึงคิดจะกลับอินเดีย
เมื่อพระราชินีวิกตอเรียทรงทราบ พระองค์ก็ทรงขุ่นพระทัย พระองค์จึงหวังจะรั้ง Karim ไว้ด้วยการพระราชทานเกียรติยศศักดิ์ศรีให้เต็มที่ ทรงมอบยศ “Munshi” ซึ่งแปลว่า “อาจารย์” ให้เขา และยังให้เขาอยู่ในระดับเดียวกับขุนนาง
เมื่อเป็นอย่างนี้ Karim จึงยอมอยู่ต่อ แต่ดูเหมือนนอกจากพระราชินีวิกตอเรียแล้ว ข้าราชสำนักคนอื่นๆ ล้วนแต่ไม่ต้องการ Karim
Karim นั้นได้รับเกียรติยิ่งกว่าใครๆ เขาใกล้ชิดพระราชินีวิกตอเรียยิ่งกว่าบรรดาพระราชบุตรของพระองค์เองซะอีก ที่นั่งในโอเปร่าและโต๊ะอาหารเขาก็ได้ที่นั่งดีที่สุด อีกทั้งยังได้สิทธิพิเศษอีกมากมาย
อีกอย่าง การที่พระราชินีแห่งอังกฤษต้องมาคอยเอาอกเอาใจชายอินเดียที่มีชาติกำเนิดต่ำกว่ามาก ก็ทำให้หลายคนอึดอัดใจ พระราชินีวิกตอเรียทรงเคยถึงขนาดปัดหมอนให้เขาและเคยทำแผลให้เขาอีกด้วย และยังพระราชทานเงินบำนาญให้พ่อของ Karim และเลื่อนตำแหน่งเพื่อนๆ ของเขาอีกด้วย
ทั้งเหล่าขุนนาง พระราชบุตรของพระราชินีวิกตอเรีย ทุกคนต่างเกลียด Karim แต่ไม่สามารถทำอะไรได้
Karim มีที่คุ้มกันสำคัญคือพระราชินีวิกตอเรีย แต่แล้ว เมื่อพระราชินีวิกตอเรียสวรรคตในปีค.ศ.1901 (พ.ศ.2444) ความลำบากจึงตกอยู่ที่เขาเต็มๆ
พระราชพิธีพระบรมศพของพระราชินีวิกตอเรีย
เมื่อพระราชินีวิกตอเรียสวรรคต พระประมุของค์ใหม่ คือ “สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 แห่งสหราชอาณาจักร (Edward VII)” ได้มีรับสั่งให้ Karim นำรูปทุกรูป จดหมายทุกฉบับที่พระราชินีวิกตอเรียเคยพระราชทานให้เขา นำมาส่งมอบ โดยจดหมายเหล่านั้น พระราชินีวิกตอเรียมักจะเขียนลงท้ายว่า “เพื่อนที่สนิทที่สุดของเธอ” “เพื่อนแท้ของเธอ” และ “แม่ที่รักของเธอ”
จากนั้น Karim ก็ถูกบังคับให้มองภาพและจดหมายเหล่านั้นถูกเผาไปต่อหน้าต่อตาและถูกเนรเทศกลับอินเดีย พร้อมกับทางการอังกฤษ ที่พยายามจะเขียนประวัติศาสตร์ว่าเขาเป็นคนต่ำช้าที่หวังจะเกาะพระราชินีเพื่ออำนาจ
Karim กลับไปอินเดียอย่างคนที่ไม่เหลืออะไร และได้มีภรรยา สร้างครอบครัวอยู่ที่อินเดีย ทิ้งไว้เพียงเรื่องเล่ามหาดเล็กผู้เป็นที่โปรดปรานของพระราชินีวิกตอเรีย และเป็นผู้ที่ทำให้ราชสำนักอังกฤษวุ่นวาย ขุ่นเคืองใจที่สุดคนหนึ่ง
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
