1 ก.ค. 2020 เวลา 13:54 • ไลฟ์สไตล์
คำสั่งเสียสุดท้าย ของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช....
เพื่อนำมาเป็นประโยชน์ในการดำเนินชีวิตของตัวเรา
จักรพรรดิอเล็กซานเดอร์มหาราช เป็นกษัตริย์หนุ่ม ผู้รุกรบชนะไปครึ่งค่อนโลก
1
แต่ ก่อนจะสิ้นพระชนม์…ได้สั่งให้นายทหารคนสนิทเข้าเฝ้า…โดยรับสั่งให้ทำการ 3 ข้อ หลังพระองค์สิ้นพระชนม์ คือ...
3
1. ในงานศพของข้าฯ ขอให้นายแพทย์เป็นผู้แบกโลงศพ
2. ขอให้นำเอาทรัพย์สมบัติในส่วนของข้าฯ ที่ไปตีชิงมาได้ทั้งหมด จากบ้านน้อยเมืองใหญ่ หว่านโปรยไปตลอดเส้นทาง…ที่แห่ศพข้าฯไปยังหลุมฝังศพ
1
3. ขอให้เอามือของข้าฯ โผล่ออกมานอกโลงทั้งสองข้างในอิริยาบถแบมือ
1
เมื่อนายทหารคนสนิท ได้ยินดังนั้น ก็สงสัยเป็นธรรมดา จึงทูลถามถึงเหตุผล พระองค์ก็ทรงอธิบายว่า...
1
• ประการแรก…ที่ข้าฯขอให้แพทย์…เป็นผู้แบกโลงศพของข้าฯนั้น …ก็เพราะข้าฯต้องการจะบอกอนุชนรุ่นหลังว่า
"สุขภาพเป็นสิ่งที่เราจะต้องดูแลเอง …ต่อให้มีหมอเทวดา…เป็นหมอประจำตัว …สุดท้ายก็ไม่มีหมอคนไหน…ยื้อชีวิตของเราไว้ได้"
ดังนั้น...โปรดอย่าวางใจว่า…มีหมอที่ดีที่สุดอยู่ใกล้มือ …การดูแลสุขภาพเป็นเรื่องของเราทุกคน …เราจะต้องลุกขึ้นมา…ตระหนักรู้ ว่า…เราต้องดูแลอย่างดีที่สุดในสุขภาพของเรา…กินอาหารที่เป็นยาได้…ก็ควรทำ จะได้ไม่ต้องกินยาแทนอาหาร ก่อนที่จะถึงมือหมอ
(ท่านทราบไหมว่า …ตอนที่พระองค์สิ้นพระชนม์ นั้น…พระองค์ มีพระชันษาแค่ 33 เท่านั้น... เพราะมัวแต่รบทัพจับศึก ไม่ได้ดูแลสุขภาพ เก่งแค่ไหน…ก็อายุไม่ยืน)
2
• ประการที่สอง……ที่ข้าฯให้หว่านโปรยทรัพย์สินประดามี…ในส่วนของข้าฯ ที่ไปตีเอามาได้…จากบ้านน้อยเมืองใหญ่ครึ่งค่อนโลกนั้น… ก็เพื่อจะเตือนคนที่อยู่ข้างหลังว่า
"ทรัพย์สินทั้งหมดนั้น …สุดท้าย…ก็ไม่มีชิ้นใด…ที่เราจะนำไปสู่ปรโลกได้…ต้องส่งคืนโลกหมด… สรรพสิ่ง และ ของใช้ต่างๆ…อย่าเข้าใจว่าเป็นของเราตลอดไป"
ฉะนั้น... หาเท่าที่จำเป็นจะต้องใช้ …อย่าครอบครองมากมาย…จนใช้ 100 ปี ก็ใช้ไม่หมด…เพราะวันหนึ่ง…ในที่สุด…ก็ต้องทิ้งสิ่งเหล่านี้ไปทั้งหมด
1
อย่าทำตัว…เป็นพวกบ้าหอบฟาง …หาเงินหาทองมาสะสม …เสมือนหนึ่งตัวเองจะมีอายุ…อยู่กินอยู่ใช้ไป…ถึง 10,000 ปี …ทั้ง ๆ ที่ในความจริง …มนุษย์เราทั้งหลาย…อายุเฉลี่ยเต็มที่…ก็แค่ 100 ปีเท่านั้น
เราจึงไม่ควรจะหมกมุ่น …ไม่ควรจะมัวเมา …เมามัน…ตกเป็นทาสของ `ยศ-ทรัพย์-อำนาจ´ จนหลงลืมแก่นสาร…ที่แท้จริงของชีวิต
• ประการที่สาม…ที่ให้เอามือของข้าฯแบออกไปนอกโลงศพนั้น…ก็เพื่อที่จะบอกว่า...เมื่อตอนที่เราเกิดมานั้น …เราร้องไห้จ้า…และกำมือแน่น …เสมือน…หมายมั่นปั่นมือว่า…ข้าฯจะครอบครองทุกสิ่งทุกอย่าง …กำโน่น กำนี่ …สารพัดที่จะกำ ยศก็กำ …ทรัพย์ก็กำ …อำนาจก็กำ …ไม่ว่า กิน กาม เกียรติ ก็กำ…เรากำทุกสิ่ง …ครอบงำเอาไว้ทั้งหมดทั้งสิ้น
แต่ท้ายที่สุด... แม้แต่แต่ลมหายใจ…ซึ่งบางเบาที่สุด…และ…แทบไม่กินพื้นที่ …แต่ ก็ไม่มีใครกำเอาไว้ได้ …สุดท้ายก็ต้องแบ …ต้องปล่อย
ฉะนั้น... เมื่อยังมีชีวิตอยู่ …แทนที่จะกำจนแน่น …จงแบ่งปันกันซะ …ให้ซะ …แล้วบุญกุศล…จากการแบ่งปันกันนั้น…จะเป็นอริยทรัพย์…ที่จะเป็นสมบัติติดตัวเราไปสู่ปรโลกได้
ทุกคนที่เกิดมาแล้ว…ในที่สุดก็ต้องตาย …เหตุฉะไหน …ถึงไปเอาเปรียบ คนที่ด้อยกว่า ทางฐานะ ทางเศรษฐกิจ หรือ…อาชีพการงาน
ดังนั้น... ก่อนที่เราจะตาย…ทรัพย์สินในส่วนของตัวเรา…ที่เราไม่เคยนำมาแปรรูป …ไม่เคย `เปลี่ยนทุน…เป็นธรรม´เลย ทรัพย์สินเหล่านั้น…ในที่สุด…ก็จะสูญเปล่า…เหมือนทรัพย์ที่ถูกไฟไหม้…
1
เราควรมีเมตตา เอื้ออาทร ทําดีต่อกัน ละเว้นการคิด/พูด/ทำ ในสิ่งที่ชั่ว กระทําแต่ความดี กระทำแต่ สิ่งที่ดีๆต่อกัน และ ทําจิตใจให้ผ่องใส…จักเป็นการดีกว่าแน่ๆ
ผมชอบบทความนี้ เลยเอามาแบ่งปันให้ได้อ่านกันครับ
ไม่ทราบ..แหล่งที่มา..แต่ขอขอบคุณมาก ๆ ครับ
โฆษณา