2 ก.ค. 2020 เวลา 10:38 • ธุรกิจ
ภาษีอะไรบ้าง ที่คนทำธุรกิจควรต้องรู้
สำหรับเรื่องของภาษีนั้น สิ่งที่นักธุรกิจควรต้องรู้และศึกษาทำความเข้าใจไว้บ้าง เพื่อที่จะช่วยให้ชำระภาษีได้อย่างถูกต้อง ซึ่งมี 5 ประเภทด้วยกัน ดังนี้ค่ะ
1) ภาษีเงินได้นิติบุคคล
ภาษีเงินได้นิติบุคคล เป็นภาษีอากรที่จัดเก็บจากเงินได้ของนิติบุคคล หรือกลุ่มคนที่ทำธุรกิจที่จดทะเบียนธุรกิจในรูปแบบของบริษัทฯ หรือห้างหุ้นส่วน โดยแบบแสดงภาษีเงินได้นิติบุคคลจะมีสองแบบ ได้แก่ แบบแสดงรายการ ภ.ง.ด.50 หรือภาษีเงินได้นิติบุคคลสิ้นปี เป็นภาษีสำหรับรอบบัญชีที่ต้องยื่นภายใน 150 วันหลังจากวันที่ปิดระบบบัญชี และแบบแสดงรายการ ภ.ง.ด.51 หรือภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปี ที่ต้องยื่นภายในสองเดือนหลังรอบบัญชีภาษีครึ่งปีค่ะ
 
2) ภาษีหัก ณ ที่จ่าย
เป็นเงินภาษีที่ผู้จ่ายเงินจะหักออกจากเงินที่จะจ่ายให้กับผู้รับ หรือพูดง่ายๆ คือ เป็นภาษีที่ถูกหักไว้ "ล่วงหน้า" โดยกฎหมายกำหนดให้ผู้ที่จ่ายเงินมีหน้าที่หักภาษีไว้เมื่อมีการจ่ายเงิน ตามอัตราภาษีที่กำหนด ซึ่งมีอัตราที่แตกต่างกันออกไป แล้วแต่ละประเภทของเงินได้ และผู้จ่ายเงินมีหน้าที่นำส่งภาษีที่หักไว้ให้กับกรมสรรพากร ส่วนผู้รับเงินก็จะได้รับหนังสือรับรองการหัก ณ ที่จ่าย จากผู้จ่ายเงิน เพื่อเป็นหลักฐานในการยื่นแบบภาษีกับสรรพากรว่าได้ชำระภาษีแล้ว ในรูปแบบของภาษีหัก ณ ที่จ่าย นั่นเองค่ะ
เราสามารถขอคืนภาษีประเภทนี้ได้ ถ้าคำนวณสรุปภาษีสิ้นปีแล้วปรากฎว่า ไม่มีภาษีต้องชำระ แต่ถ้าสรุปมีภาษีต้องชำระ ก็สามารถนำภาษีหัก ณ ที่จ่ายนี้ไปหักออก ภาษีที่ต้องชำระก็จะลดลงค่ะ
 
3) ภาษีมูลค่าเพิ่ม
ภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT เป็นการเก็บภาษีจากการขายสินค้า หรือการให้บริการ ทั้งภายในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศ
2
สำหรับภาษีมูลค่าเพิ่มนี้หลายคนจะรู้สึกว่ามันใกล้ตัว เพราะการที่เราซื้อของกินของใช้เราต้องจ่ายภาษีประเภทนี้โดยอัตโนมัติ ซึ่งภาษีนี้เป็นภาษีที่เก็บจากมูลค่าส่วนที่เพิ่มขึ้นจากราคาสินค้าหรือบริการ โดยผู้ที่มีหน้าที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม คือ ผู้ประกอบการ ผู้นำเข้า ผู้ผลิต ผู้ให้บริการ ฯลฯ ซึ่งต้องมีรายได้ต่อปีตั้งแต่ 1.8 ล้านบาทขึ้นไป ไม่ว่ากิจการนั้นจะเป็นบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลก็ตาม
 
4) ภาษีธุรกิจเฉพาะ
ภาษีธุรกิจเฉพาะ เป็นภาษีตามประมวลรัษฎากรประเภทหนึ่ง ที่จัดเก็บจากการประกอบกิจการเฉพาะอย่าง สำหรับภาษีประเภทนี้จะถูกจัดเก็บในธุรกิจที่เฉพาะเจาะจงตามชื่อ อันได้แก่ กิจการธนาคารพาณิชย์ โรงรับจำนำ อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้นค่ะ
3
สำหรับกิจการที่ให้บริการเป็นหลักที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ได้แก่
- การธนาคาร ตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์ หรือกฎหมายเฉพาะ
- การประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์
- การรับประกันชีวิต ตามกฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิต
- การรับจำนำ ตามกฎหมายว่าด้วยโรงรับจำนำ
- การประกอบกิจการโดยปกติเยี่ยงธนาคารพาณิชย์ เช่น การให้กู้ยืมเงินค้ำประกัน แลกเปลี่ยนเงินตรา ออก ซื้อ หรือขายตั๋วเงิน หรือรับส่งเงินไปต่างประเทศด้วยวิธีต่างๆ เป็นต้น
ในกรณีที่มีปัญหาว่า กิจการใดเป็นการประกอบกิจการโดยปกติเยี่ยงธนาคารพาณิชย์หรือไม่ อธิบดีกรมสรรพากรจะเสนอให้คณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากรพิจารณากำหนดขอบเขต และเงื่อนไขของการประกอบกิจการดังกล่าวนั้นก็ได้ และเมื่อคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากรได้วินิจฉัยแล้ว ให้ประกาศคำวินิจฉัยนั้นในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
 
5) อากรแสตมป์
เป็นภาษีที่อยู่ในรูปแบบของแสตมป์ คล้ายกับแสตมป์ติดซองจัดหมาายนี่ละค่ะ สามารถหาซื้อได้สำนักงานสรรพากรพื้นที่ และสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา สำนักงานที่ดิน สำนักงานขนส่งหรือหน่วยงานราชการอื่นๆ ที่มีเรื่องของการทำสัญญาค่ะ
สำหรับอากรแสตมป์นั้นดูเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่มาก แต่ก็จัดเป็นภาษีตามประมวลรัษฎากรอีกประเภทหนึ่งเช่นกัน จะเรียกเก็บเมื่อมีการทำตราสารระหว่างกัน 28 ลักษณะ ตามที่กำหนดไว้ในบัญชีอากรแสตมป์ โดยจะใช้การขีดฆ่าแสดงถึงการใช้แสตมป์ดังกล่าว
2
อย่างไรก็ตามเรื่องภาษีนั้นหากเราทำธุรกิจไม่เหมือนกันย่อมมีความแตกต่างกัน และตัวภาษีนั้นมีเรื่องราวที่มากกว่าที่ท่านอาจคิดไว้ คนทำธุรกิจที่ไม่แน่ใจว่าเราต้องเสียภาษีอย่างไร อาจจะติดต่อโดยตรงกับกรมสรรพากรเพื่อความสบายใจ จะได้มีเวลาทำธุรกิจอย่างสบายอกสบายใจ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดีขึ้นในอนาคตของท่านเองค่ะ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา