มีประวัติชายคนหนึ่งที่เป็นทั้ง นักแสดง ดาราตลก และนักเขียนบทละครที่มีชื่อเสียงซึ่งเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จในวงการภาพยนตร์คนหนึ่งที่เมื่อได้ฟังเรื่องราวความสำเร็จที่มีคนถามเค้าว่า “เค้าทำมันได้อย่างไร” คำตอบได้ถูกเล่าจากวัยเด็กของเค้าว่า...
..
เมื่อตอนเด็กชายคนนี้ ทำงานที่สวนสนุกที่ทุกคนน่าจะรู้จักกันดี คือ สวนสนุกดิสนีแลนด์ ซึ่งเมื่อเด็กคนนี้ว่างจากการปฏิบัติภารกิจงานหลักเขามักจะอยู่แถวร้านแสดงมายากล เพราะเค้าสนใจการแสดงเป็นอย่างมาก จนเค้าย้ายมาทำงานร้านแสดงมายากกลซะเลย ... ระหว่างที่อยู่ร้านมายากลเค้าก็เรียนการเล่นกลต่างๆด้วย
…
และระหว่างเรียนมัทธยมเค้าก็ได้หาโอกาสเริ่มแสดงตามคลับ และโรงละครเล็กๆในเมือง ด้วยความยาวเพียงแค่ 5 นาทีต่อโชว์ เท่านั้น ซึ่งหากว่ากันตามจริงการแสดงของเค้าตอนนั้นก็ไม่ได้รับความสนใจมากนัก ... ซึ่งครั้งหนึ่งเค้าเคยเล่นตลกที่คลับโดยที่ไม่มีคนดูสักคนเดียวด้วยซ้ำ
..
โดยเค้าก็ยังคงทำสิ่งที่ตั่งใจและชอบโดยแสดงต่อไปเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี โดยสิ่งที่เปลี่ยนแปลงคือ โชว์ของเค้ายาวขึ้นจาก 5 นาที เป็น 10 นาที 15 นาที จนอยู่มาวันหนึ่งเค้าได้พาตัวเองเข้าไปแสดงเดี่ยวไมโครโฟนในรายการชื่อดังของอเมริกา ที่มีผลตอบรับที่ดีมาก โดยมีคนชอบเขามากในทุกครั้งที่เค้าขึ้นเวที พบว่าการปรากฎตัวของเค้ากว่า 27 ครั้งในรายการจะมียอดผู้ชมพุ่งขึ้นเป็นหลักล้านคน
..
เขาคนนั้นคือ Steve Martin ที่เริ่มต้นมาจากนักแสดงที่เคยเล่นในคลับที่ไม่มีคนดูแม้แต่คนเดียวมาก่อน จนกลายเป็นหนึ่งในนักแสดงที่มีผู้คนรู้จักมากที่สุดคนหนึ่งในโลก ... ซึ่งมีหลายคนถามเค้าว่าเค้าถึงความลับในความสำเร็จของเค้าคืออะไร
..
เค้าตอบว่า “เค้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นความลับหรือเปล่า แต่เค้าเริ่มจากการพยายามจากเรื่องเล็กๆทีละน้อย และลองไปเรื่อยๆจนสิ่งนั้นใหญ่ขึ้นเอง ... สำคัญที่อยากขีดเส้นใต้ 500 เส้นคือ ไม่หยุดทำและไม่หยุดค้นหา”
..
หากย้อนกลับมาเพื่อสะท้อนตัวเราเอง...
ซึ่งบางครั้งเราก็มัวแต่วุ่นอยู่กับการค้นหาวิธีการสูตรลับ หรือสูตรสำเร็จ โดยคิดว่าอะไรที่คนที่ประสบความสำเร็จเค้ารู้ แต่คนอื่นไม่รู้ ซึ่งที่จริงแล้วคนส่วนใหญ่นั้นรู้อยู่แล้วแค่ไม่ได้ลงมือเริ่มทำมันสักที
..
เพราะฉะนั้นแล้วทุกความสำเร็จเริ่มจากก้าวเล็กๆ ทีละก้าว ... จนเป็นการเดินทางที่ยิ่งใหญ่ .. ดังนั้นอย่ารอให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบก่อนที่จะได้เริ่มก้าวแรกของการเดินทางที่ยิ่งใหญ่ของเรากันนะครับ “Let Do it” เพราะทุกอย่างเริ่มที่ลงมือทำ