3 ก.ค. 2020 เวลา 03:39 • กีฬา
สัญญาณฤดูกาลใหม่เริ่มต้นแล้ว กับ การกระหายชัยชนะและความท้าทาย
Manchester City 4 : 0 Liverpool
หลังได้แชมป์ลีกครั้งแรกภายใต้ชื่อพรีเมียร์ลีกของยอดทีมแห่งเกาะอังกฤษอย่างลิเวอร์พูล ทั้งๆที่ยังเหลือเกมให้เล่นอีกเจ็ดเกม นั่นทำให้ความกระหายของชัยชนะได้หมดลงหรือไม่ คำตอบคือ ยังแน่นอน แต่ด้วยแรงมุงมั่นในการเล่นที่ไม่มีผลอะไรแล้วสำหรับเกมที่เหลือจึงทำให้ทีมเริ่มที่จะผ่อนลง และประกอบกับทีมในลีกนั้นทุกทีมต่างมีแรงฮึดที่จะล้มแชมป์มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะคู่แข่งโดยตรงอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะมีแรงกระตุ้นเป็นพิเศษแน่นอน
การต้อนรับแชมป์เดินลงสนาม
ลิเวอร์พูลลงเล่นในฐานะทีมที่ได้แชมป์ไปแล้ว ส่วน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ลงเล่นเพื่อศักดิ์ศรีในถิ่นของตัวเอง ดังนั้นความกระหายในการเล่นจึงแตกต่างกันพอสมควร ซิตี้เน้นทุกจังหวะ ส่วนลิเวอร์พูลนั้นดูเหมือนจะเหม่อและขาดความแน่นอนในการเล่นซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาทำได้ดีมาตลอดฤดูกาล อย่างไรก็ตามนี่ก็เป็นเพียงความพ่ายแพ้นัดที่ 2 ของหงส์แดงเท่านั้นในลีกฤดูกาลนี้ และพวกเขาก็คว้าแชมป์ลีกสูงสุดแดนผู้ดีมาครองได้สำเร็จครั้งแรกในรอบ 30 ปีตามเป้าหมายที่ต้องการแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีเรื่องให้ต้องเสียใจ และนับวันรอชูถ้วยแชมป์อย่างเป็นทางการให้แฟนๆ ได้ฉลองกันอย่างสุดเหวี่ยงในอีกไม่กี่อึดใจ
และตามคาดการเจอกันในเมื่อคืน ก็เป็นทัพเรือใบไล่ถล่มทัพหงส์ถึง 4-0 ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมคิดไว้อยู่แล้วแต่มันไม่ได้คิดว่าจะห่างขนาดนี้ โดยรูปเกมและสถิติถือว่าใกล้เคียง ขาดเพียงแต่การจบสกอร์ของทั้งสองทีมที่แตกต่างกัน ซึ่งเรือใบสามารถทำได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด ลิเวอร์พูลลงเล่นในฐานะทีมที่ได้แชมป์ไปแล้ว ส่วน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ลงเล่นเพื่อศักดิ์ศรีในถิ่นของตัวเอง
ดังนั้นความกระหายในการเล่นจึงแตกต่างกันพอสมควร ซิตี้เน้นทุกจังหวะ ส่วนลิเวอร์พูลนั้นดูเหมือนจะเหม่อและขาดความแน่นอนในการเล่นซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาทำได้ดีมาตลอดฤดูกาล อย่างไรก็ตามนี่ก็เป็นเพียงความพ่ายแพ้นัดที่ 2 ของหงส์แดงเท่านั้นในลีกฤดูกาลนี้ และพวกเขาก็คว้าแชมป์ลีกสูงสุดแดนผู้ดีมาครองได้สำเร็จครั้งแรกในรอบ 30 ปีตามเป้าหมายที่ต้องการแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีเรื่องให้ต้องเสียใจ และนับวันรอชูถ้วยแชมป์อย่างเป็นทางการให้แฟนๆ ได้ฉลองกันอย่างสุดเหวี่ยงในอีกไม่กี่อึดใจ
ในความเห็นส่วนตัวแม้ว่าทีมลิเวอร์พลูทีมนี้จะยอดเยี่ยมแค่ไหน แต่สำหรับฤดูกาลหน้านั้นอย่างที่บอกไว้ในบทความที่แล้ว การเป็นแชมป์เป็นเรื่องยากแต่เราสามารถทำได้ แต่การยืนระยะ การป้องกันแชมป์และมาตรฐานในการเล่นให้คงที่นั้นเป็นเครื่องหมายคำถามว่าเราจะสามารถทำได้ดีแค่ไหน แน่นอนว่าทีมนี้ยังคงมีผู้เล่นอายุกำลังห้าวและใช้งานได้อีกสองสามปี แต่การที่จะยึดชุดเดิมตลอดนั้นเป็นเรื่องเสี่ยงเกินไปสำหรับการต่อสู้ครั้งใหม่ที่กำลังจะเริ่มต้น
สัญญาณเตือนจากคู่แข่งได้ส่งสัญญาณมาแล้วสำหรับเกมเมื่อคืน และนอกจากซิตี้แล้วยังต้องไม่ลืมว่าทีมที่ร่วมแจมคอยเสียงลุ้นแชมป์อย่าง แมนยูฯ เชลซี ก็กำลังสร้างทีมและกำลังดีวันดีคืนขึ้นทุกวัน พร้อมที่จะตามล่าแบบกัดไม่ปล่อยอยู่แล้ว ส่วนที่จะมองข้ามไม่ได้เลสเตอร์ ก็ยังคงอยู่ในท็อป 6 ไก่เดือดทองอย่างสเปอร์ และปืนใหญ่อาเซน่อลก็ไม่อาจมองข้ามได้แม้นในฤดูกาลนี้จะตกลงไปเยอะก็ตามแต่ด้วยศักดิ์ศรีการเป็นทีมใหญ่นั้นจะทำให้กลับมาในไม่ช้าแน่นอน
ฤดูกาลหน้าเราเพียงหวังว่าจะได้นักเตะคุณภาพที่สามารถเปลี่ยนและทดแทนตัวหลักได้ในระดับเดียวกัน เพื่อลดภาระของชุดนี้ที่กำศึกมาอย่างหนัก การสร้างทีมที่มีขนาดใหญ่ขึ้นกับบิ๊กดีลสักสองสามราย จะเป็นเรื่องที่น่าติดตาม บวกกับการดันเยาวชนของทีมขึ้นมาใช้งานมากขึ้นให้ได้รับประสบการณ์มากขึ้นจะเป็นเรื่องที่ดีมากๆ สำหรับการเตรียมตัวในฤดูกาลหฤโหดที่กำลังจะมาถึง
สำหรับเกมที่เหลือหากไม่ติดใจเรื่องการทำลายสถิติต่างๆแล้ว การพักผู้เล่นชุดหลักบ้างแล้วส่งนักเตะสำรองหรือเยาวชนมาผสมผสานได้สัมผัสเกมใหญ่บ้างจะเป็นการสร้างทีมที่ความมั่นใจให้กับนักเตะเหล่านั้น ที่ยังรอโอกาสเสมอมา หากเหลียวมองดูนักเตะเยาวชนจะมีอีกสามคนที่ต้องการอีก 5 เกมสำหรับการลงเล่น เพื่อการมีส่วนร่วมในการคว้าเหรียญแชมป์ของฤดูกาลนี้ เกมที่เหลือจึงเป็นโอกาสของพวกเขาหากบอลใหญ่จะใจดีมอบประสบการณ์ให้กับเขาเหล่านั้น
เคอร์ติส โจนส์, เนโก วิลเลี่ยมส์, ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์
แน่นอนว่า หลังเกมที่บุกมาแพ้ยับให้ซิตี้ “เราทำตัวเองให้ไม่เหมือนกับทีมที่เพิ่งคว้าแชมป์มา” และสัญญาณการต่อสู้ของฤดูการใหม่ได้เริ่มต้นแล้ว อยู่ที่ว่าการเตรียมทีมเพื่อป้องกันแชมป์ในปีหน้าจะพร้อมขนาดไหน
#thekop #liv #mancliv
Liverpool Stand by Kwanchai Teerasarp
โฆษณา