หากย้อนเวลากลับไป 10 วันทำการก่อนหน้า ตลาดหุ้นไทยหรือ SET Index ปิดที่ 1352 จุด เทียบกับ SET Index ล่าสุด (03/07/63) ปิดที่ 1,372 จุด นับเป็นการเปลี่ยนแปลงปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.47% แต่กลับมีหุ้นตัวหนึ่ง ได้มีการวิ่งออกจากฐานราคา 5.30 บาท เบรกขึ้นทำจุด all time high ใหม่ จนสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น 155% ในระยะเวลาเพียง 10 วันทำการเท่านั้น
แต่อนาคตอันใกล้นี้ ทางบริษัทได้มีการนำเข้าเทคโนโลยี unreal engine และ visual production ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่พึ่งถูกใช้ถ่ายทำซีรี่ย์เรื่องใหม่ของ Star Wars: The Mandalorian มาเป็นส่วนต่อยอดในการรับงานบริการเพิ่มในส่วน production มาเติมเต็มในขั้นตอนการถ่ายทำชิ้นงานให้กับลูกค้ามากยื่งขึ้น
นอกเหนือจากงานโฆษณา ภาพยนต์และภาพยนต์แอนิเมชั่นแล้ว YGG ยังเป็นผู้ผลิตเกม โดยปี 2560 YGG ได้สร้างกระแสให้กับวงการเกมไทย ที่ทำให้เกมฝีมือคนไทยไปติดอันดับเกมขายดีบน PC Game platform อย่าง “Steam” ขายดีติดหน้าแรกในตลาดเอเชีย 2 อาทิตย์ติด ทำให้เกมคนไทยกลายเป็นที่รู้จักแบบสากลด้วยความหลอน ภายใต้เกมที่ชื่อ “Home Sweet Home” หลังจากนั้น YGG ยังได้ปรับ home sweet home ขึ้นไปยังเครื่องเล่น play station4 play station VR และ Xbox อีกด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น ด้วยกระแสความน่ากลัวของ Home Sweet Home ภาคแรก ทำให้เกิดความสนใจจากนักลงทุนจีน เข้ามาจ้าง YGG ทำภาคต่อ Episode II เพื่อไปทำการตลาดในจีน และเกมใหม่อย่าง “Number 6” อีกด้วย แต่งานนี้ YGG เป็นแค่ผู้สร้างเพียงเท่านั้น ไม่ได้รับรู้รายได้จากการขายเกมแบบภาคแรกนะครับ
ด้วยไอเดียที่ไม่หยุดนิ่ง YGG ผุดไอเดียการสร้าง Home Sweet Home Suvival: HSHS เกมภาคใหม่ในโหมดของการเล่นแบบ multiplayer บนคอนเซ็ปภาพของเกมที่ให้อารมณ์ย้อนยุคไปในสมัยหนังสือผีเล่ม 5 บาท โดยแนวเกมมีลักษณะคล้ายกับ dead by daylight หรือ identity v
1
คาดว่าจะปล่อยออกมาให้เล่นกันในช่วงไตรมาสนี้ ซึ่งจะออกมาในเวอร์ชั่น PC ก่อน และน่าจะมีเวอร์ชั่น Mobile ตามมาทีหลัง ส่วนด้านการสร้างรายได้จาก HSHS นั้น YGG ตั้งโมเดลการทำรายได้ผ่านการขายชุดปรับแต่งตัวละคร รวมถึงเอฟเฟ็กต่างๆที่สร้างความสวยงามให้กับผู้เล่น และการขาย ad ลงไปในฉากของเกม แบะทางทีมงานเองก็เตรียมที่จะผลักดัน HSHS ให้เป็น esport แบบจริงจัง