3 ก.ค. 2020 เวลา 09:02 • การศึกษา
ไม่กี่วันก่อนที่ผมจะเขียนเรื่องนี้เกิดเหตุการณ์ภูเขาไฟ เมราปี (merapi) ในอินโดนีเซียได้ประทุขึ้นตามรายงานข่าวกล่าวว่ามีเถ้าภูเขาไฟพุ่งขึ้นสูงถึง 6000 เมตร ซึ่งใกล้เคียงกับระดับสูงที่ทำการบินก็เลยจะมาเล่าให้ฟังถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับเครื่องบินหากบินเข้าไปในพื้นที่ของเถ้าภูเขาไฟ
อย่างแรกเลยที่คงจะเดากันได้เลยคือสนามบินในบริเวณใกล้ๆกับภูเขาไฟที่ปะทุและทิศทางของเถ้าภูเขาไฟมีทิศทางเข้าหาสนามบิน สนามบินจะต้องปิดอย่างไม่มีทางเลือก ในอดีตเคยมีเหตุการณ์ภูเขาไฟในไอแลนด์ปะทุขึ้นทำให้เกิดความวุ่นวายของการบินในยุโยป เพราะไม่สามารถทำการบินได้มี ผดส ตกค้างนับพัน
ต่อมาคือถ้าทำการบินแน่นอนว่าทัศนวิสัยของนักบินจะแย่มากที่แย่กว่านั้นคือเถ้าภูเขาไฟอาจจะเข้าไปอุดตันท่อ pitot tube ซึ่งเอาไว้ใช้วัด airspeed เครื่องบินอาจจะเกิดอาการร่วงหล่น (stall) ได้
สิ่งที่สำคัญที่สุดของเครื่องบิน คือ เครื่องยนต์หากเครื่องยนต์เสียหายไม่สามารถทำงานได้ก็คงจะอันตรายมากโดยเถ้าภูเขาไฟอาจจะละลายจากกระบวนการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ และ อาจจะไปอุดตันหัวฉีดน้ำมัน ทำให้อากาศไหลไม่ปกติ
นำไปสู่การสูญเสียแรงขับ (thrust) และ ยังทำให้ turbine blades มีการสึกกร่อนทำให้ performance ของเครื่องยนต์ลดลง
เถ้าภูเขาไฟอาจเข้าไปทำให้อากาศในเครื่องบินแย่ขึ้นและอาจจะไปทำให้สัญญาณไฟไหม้ทำงานอีกด้วย
ด้วยความที่ในเถ้าภูเขาไฟนั้นมีส่วนประกอบหลายอย่างโดยทั่วไปประกอบด้วยซิลิกา 40% - 60% แร่ธาตุ และอนุภาคหินละเอียด เถ้าภูเขาไฟเป็นสารกัดกร่อนตามธรรมชาติและอาจทำให้เกิดการสึกหรอกับชิ้นส่วนของเครื่องบิน เช่น landing light อีกด้วย
โฆษณา