4 ก.ค. 2020 เวลา 17:41 • ท่องเที่ยว
แนะนำการเดินทางโอซาก้าวันที่ 3 ตอนที่ 3(จบ)
Umeda Sky Tower และ หอคอย Tsutenkaku Tower ต่อด้วยคลิปบินกลับไทย
อูเมดะสกาย ทาวเวอร์ เป็นตึกระฟ้าในย่านอูเมดะ นครโอซาก้า จังหวัดโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ออกแบบโดย ฮิโระชิ ฮะระ ดำเนินการก่อสร้างโดยทาเกนากะ แล้วเสร็จในปี 1993 มีความสูงทั้งสิ้น 40 ชั้น 173 เมตร เป็นอันดับที่ 12 ของนครโอซาก้า ถือเป็นอาคารที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญแห่งหนึ่งของนครโอซาก้า
ต่อจากตอนที่แล้วที่เราไปขึ้นชิงช้า Hep Five เราก็เดินเข้ามาในตึกอูเมดะเซ็นทรัล ( Umeda Central)เราก็เดินออกมาด้านหลังตึก
เดินข้ามถนนมาจะมีทางเชื่อมเดินไปตามทางแล้วลอดอุโมงค์ใต้ถนนโผล่ขึ้นไปถึงตึกเลย
ให้เข้าไปทางตึกแรกขึ้นไปชั้น3
เลยร้านขายยาและเครื่องสำอางไปก็จะเห็นป้ายทางเข้า พอเข้ามาก็จะเป็นทางเชื่อมเดินไปขึ้นลิฟท์ที่ตึก 2 ขึ้นไปที่ชั้น 35 แล้วเดินเลี้ยวซ้ายขึ้นบันไดเลื่อนข้ามไปอาคาร 1ที่ชั้น 39(บันไดเลื่อนข้ามระหว่างอาคารที่อยู่สูงที่สุด)
ขึ้นมาถึงจะเจอกับพนักงานตรวจบัตรสวยๆก็ยื่น บัตร OAP ให้แสกนเลยขึ้นฟรี(ปกติ 1,500 เยน)
เดินขึ้นมาที่ชั้น40 จะมีห้องนิทรรศการความเป็นมาของตึก Umeda Sky Building และขายอาหารเครื่องดื่ม ขึ้นมาเดินถ่ายรูปชั้นดาดฟ้าชมพระอาทิตย์ตก แต่.... วันนี้เมฆเยอะมองไม่เห็นพระอาทิตย์ตก อดดูเลย
เมฆปกคลุมเยอะมาก พระอาทิตย์ตกอยู่ไหนหว่า
ดูภาพยกชั้น39-41 ขึ้นทั้งเซต
ลงมาจากตึกก็เลยมาถ่ายรูปคู่กับส่วนทางเชื่อมของตึก Umeda Sky Building
เดินกลับมาที่สถานีอูเมดะ (M16) มาลงที่สถานี
ชินอิมามิยะ (M22)เพื่อมาหาซื้อขนมของฝากที่ร้านดองกิโอเต้
ด้านล่างร้านดองกิจะเป็นร้านตู้สล็อต(ปาจิงโกะ)อันนี้เฉพาะอายุเกิน18เท่านั้นจากดองกิเราก็เดินต่อเพื่อที่จะไปหอคอยซึเท็งคาคุ
หอคอยซึเทนคาคุ
(Tsutenkaku Tower) เป็นหอคอยซึ่งเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของจังหวัดโอซาก้า โดยตั้งอยู่ในย่านชินเซไก (Shinsekai) หอคอยถูกสร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1912 เพื่อฉลองความสำเร็จในการจัดงานเอ็กซ์โป (National Industrial Exposition) ครั้งที่ 5 ที่จัดในปี ค.ศ. 1903 ซึ่งเป็นการจัดงานเทศกาลที่ประสบความสำเร็จที่สุดครั้งหนึ่ง ของเมืองโอซาก้า แต่ต่อมาในปี ค.ศ. 1943 หอคอยแห่งนี้ถูกไฟไหม้ และถูกรื้อโครงสร้างของเหล็ก จนผ่านมาถึงปี ค.ศ. 1956 จึงได้มีการสร้างหอคอยแห่งนี้ขึ้นมาใหม่ ทำให้แต่เดิมที่หอคอยมีความสูงเพียง 64 เมตร ได้กลายมาเป็นหอคอยขนาดใหญ่ และมีความสูงกว่า 108 เมตร และเป็นจุดชมวิวยอดนิยมของโอซาก้า ย่านชินเซไกเป็นย่านที่นิยมกินของทอดกันร้านส่วนใหญ่จะเป็นร้านของทอด ร้านค้าส่วนใหญ่ในย่านนี้จะมีตุ๊กตา เทพบิลลิเค่น อยู่หน้าร้าน เชื่อกันว่าเทพบิลลิเค่นเป็นเทพแห่งโชคลาภ นักท่องเที่ยวส่วนมากนิยมไปลูบเท้าเทพบิลลิเค่นเพื่อให้มีโชคลาภ
สำหรับหอคอยซึเทนคาคุ เราก็สามารถใช้บัตร OAP เข้าได้ฟรีเหมือนเดิม ด้านในก็จะมีการเก็บประวัติของการ์ตูนของโอซาก้าเรื่องคินนิกุแมน และขนมที่มีต้นกำเนิดจากโอซาก้าคือกูลิโกะ
ด้านบนก็จะเป็นจุดชมวิวของโอซาก้า
ออกจากหอคอยซึเทนคาคุเราก็เดินกลับไปขึ้นรถไฟสายสีแดงกลับไปสถานีนัมบะโดยใช้บัตรOAP แล้วนั่งสายนันไคกลับที่พักแต่เราต้องใช้บัตรไอโกกะแตะผ่านประตูเพราะรถไฟส่ยนันไคจะเป็นสายนอกเขตของบัตร OAP(Osaka Amazing Pass )อย่าเผลอใช้บัตร KTP(Kansai True Pass) เด็ดขาดเพราะเราต้องใช้ขึ้นรถไฟไปสนามบินในอีกวัน
วันนี้เที่ยวหลายที่รู้สึกเหนื่อยมากเลยไม่ได้ไปร้านอาหาร ซื้ออาหารกล่องในร้านลอว์สันหน้าโรงแรมขึ้นไปกินในห้องเพราะต้องกลับมาเก็บกระเป๋าเตรียมกลับประเทศไทย ก็มาแนะนำเพื่อนๆเพื่อที่เราไปเที่ยวเองจะได้ไม่หลงและไม่ต้องไปง้อทัวร์ขอให้โชคดีในการเดินทางนะครับทุกคน
ชมคลิปการแนะนำการเดินทางที่ลิ้งด้านล่างนะคร้บ
บทความก่อนหน้า
แนะนำการเดินทางเตรียมตัวอย่างไรไปเที่ยวโอซาก้า
แนะนำแพลนเที่ยวโอซาก้า วันแรก
แนะนำการเดินทางวันที่2
แนะนำการเดินทางโอซาก้าวันที่ 3 ตอนที่ 1 Osaka House And Living และ ปราสาทโอซาก้า
แนะนำการเดินทางโอซาก้าวันที่ 3 ตอนที่ 2
OSAKA SUIJYO BUS AQUA-LINER และ ชิงช้าชมวิวเมืองโอซาก้า ชิงช้าสวรรค์ HEP FIVE
แนะนำการเดินทางโอซาก้าวันที่ 3 ตอนที่ 3(จบ)
Umeda Sky Tower และ หอคอย Tsutenkaku Tower
โฆษณา