6 ก.ค. 2020 เวลา 12:18 • ดนตรี เพลง
“The Power of Love” จาก Huey Lewis and the News เพลงฮิตจากหนังไซไฟดัง "Back to the Future" 🕙
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ "Back to the Future" หนังไซไฟ คอมมิดี้ ยอดนิยมแห่งยุค 80s ได้ครบรอบ 35 ปีของการออกฉายเป็นครั้งแรกซึ่งเกิดขึ้นเมื่อปี 1985 เป็นกระแสในอินเตอร์เน็ตกันอยู่พอสมควรเลยทีเดียว
พูดถึงหนังเรื่องนี้ขึ้นมาทีไร มักจะทำให้ผมคิดถึงเพลงฮิตเก่า ๆ หลายเพลงตามมาด้วยทุกที อาจเป็นเพราะดนตรีเป็นองค์ประกอบสำคัญอย่างหนึ่งในเรื่องราวของหนังเรื่องนี้ เห็นได้ชัดเจนจากการที่ให้ตัวละคร Marty McFly พระเอกของเรื่อง เป็นเด็กวัยรุ่นที่หลงไหลในการเล่นกีต้าร์และดนตรีร็อคแอนด์โรล
เพลงที่เรียกได้ว่าโด่งดังคู่กันมากับหนังเลย เป็นผลงานของ Huey Lewis and the News และจัดว่าเป็นหนึ่งในเพลงที่ได้รับความนิยมสูงสุดแล้วของพวกเขาด้วย
เพลงแนวบลูส์ร็อค จังหวะคึกคักสนุกสนาน ที่เติมท่วงทำนองฟังทันสมัยจากเสียงซินธีไซเซอร์ลงไป ได้ออกมาเป็นเพลงที่มีสีสันในแบบดนตรีป๊อปยุค 80s ในชื่อ “The Power of Love”
ตอนที่ Huey Lewis ได้รับการเชื้อเชิญให้ไปทำเพลงประกอบหนังเรื่อง “Back to the Future” นั้น ถือเป็นช่วงขาขึ้นของเขาเลยก็ว่าได้ ผลงานเพลงของเขากำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในอเมริกา
ส่วน Robert Zemeckis ผู้กำกับของหนังเรื่องนี้ ก็อยากได้เพลงที่มีซาวน์ทันสมัยในแบบของ Huey Lewis มาใช้ในหนังของตัวเองมาก ถึงขนาดบอกว่า ไม่จำเป็นต้องแต่งเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับหนังเลยก็ได้
Huey Lewis จึงแต่งเพลง “The Power of Love” ขึ้นมาร่วมกับเพื่อนร่วมวงอีกสองคนคือ Johnny Colla และ Chris Hayes โดยเนื้อร้องของเพลงนั้น ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวในครอบครัวของเขาเอง
และในวันที่ 24 สิงหาคมปี 1985 เพลงนี้ก็สามารถขึ้นไปถึงอันดับหนึ่งบนชาร์ท Billboard Hot 100 ที่อเมริกาได้สำเร็จ
ต่อมาในปี 1986 เพลง “The Power of Love” ยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสก้าร์ในสาขา Best Original Song อีกด้วย แต่ต้องพ่ายแพ้ให้กับเพลง “Say You, Say Me” ของ Lionel Richie เพลงประกอบจากหนังเรื่อง “White Nights” หนังดราม่าแนวเต้นรำเนื้อหาดีที่ดูจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จนักในเรื่องของรายได้
ในบ้านเราเอง เพลงนี้ก็เป็นที่นิยมมิใช่น้อย เพราะหนังเรื่อง “Back to the Future” นั้นก็โด่งดังมากในบ้านเรา Michael J. Fox ผู้รับบท Marty McFly ก็แจ้งเกิดมาจากหนังเรื่องนี้นี่เอง
กลับมาฟังอีกที มีความรู้สึกเหมือนได้นั่งไทม์แมชชีนย้อนเวลากลับไปในวัยเยาว์จริง ๆ 🎹

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา