5 ก.ค. 2020 เวลา 13:38 • ปรัชญา
เกิดมาแต่ตัว ไม่กลัวความตาย ทิ้งลายมือไว้ ให้คนจดจำ
บทความนี้ในรอบ 20 วัน ที่ผมไม่มีเวลาเขียนอะไรเลย คงเป็นเพราะยุ่งกับการงานในการเขียนโครงการ ดูแลสังคม พัฒนาชุมชน เพื่อให้ทันก่อนหยุดยาว วันนี้เป็นโอกาสดีที่จะเขียนบทความเพื่อให้หลายคนหายคิดถึงกันครับ ผมมีเรื่องหลายอย่างที่อยากจะเขียน ยังคงคิดถึงทุกคนครับ
ช่วงนี้ต้องเรียนออนไลน์และทำกิจกรรมร่วมกับชุมชน มีการแจกของแก่ผู้ยากไร้ ผู้สูงอายุที่ได้รับผลกระทบจากโควิด เมื่อลูกหลานตกงาน อาชีพที่เคยทำเช่น ขายผัก รับจ้างทั่วไป ถูกทางรัฐให้หยุดจัดงานต่างๆ สิ่งที่เกิดคือความเดือดร้อน ลูกหลานที่ทำงานต่างประเทศต้องกลับมาโดยว่างงานตามกัน
วันนี้เป็นวันที่ดีวันอาสาฬหบูชา ผมเองหลังจากร่วมทำบุญเสร็จแล้ว ก็คงจะมีโอกาสที่ดีในการเขียนเรื่องราวดีๆ ที่เป็นกุศล การทำความดีจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่เราทั้งหลายควรที่จะเร่งทำเพื่อให้คนทั้งหลายได้ยกย่องในความดีของเราไม่ว่าจะต่อหน้า หรือลับหลัง ผมพยายามที่จะมองเหตุการณ์ให้มันดีที่สุด
ช่วงหลายวันมานี้เป็นผมได้ยินข่าวเกี่ยวกับเรื่องของการบริจาคของคุณฌอน บูรณะหิรัญ และกับกลุ่มที่ทำการเรี่ยไรหรือทำการบริจาคต่างๆ สิ่งหนึ่งที่เห็นคือมันเป็นช่องทางให้กับคนที่มีใจอกุศลได้หาผลประโยชน์จากตรงนั้น แต่ถ้าคนที่มีใจกุศลไม่ควรที่จะยุ่งกับเงินเหล่านี้ได้มาควรให้คนอื่นจัดการเพื่อความบริสุทธิ์ใจของเรา
วันนี้จึงอยากจะเขียนบทความที่เกี่ยวข้องกับการเสียสละ หรือจิตอาสา เพราะหลายคนมักจะมองข้ามเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้ อีกทั้งยังมองว่าไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมาเสียเวลา อีกทั้งยังมองว่าทำให้เหนื่อยทั้งกายและจิตใจ แต่ถ้าใครที่ทำได้จะมีความภูมิใจอย่างมาก แม้จะดูว่าทำให้ตนต้องเหน็ดเหนื่อยเสียทั้งทุนทรัพย์ และเวลาของตน
เมื่อหลายคนมีความคิดที่แตกต่างกันไป แต่สิ่งหนึ่งที่อยากจะนำมากล่าวถึง ให้เราได้รู้และเข้าใจว่า ชีวิตเราเกิดมาครั้งหนึ่งควรทิ่งลายมือไว้ให้ลูกหลานได้จดจำ ได้เห็นสิ่งที่เราทำ ดังเรื่องที่ว่า "เกิดมาแต่ตัว ไม่กลัวความตาย ทิ้งลายมือไว้ ให้คนจดจำ" เพราะมันเป็นเครื่องยืนยันคุณค่าชีวิตได้เป็นอย่างดี
1. เกิดมาแต่ตัว กล่าวคือ คนเราเกิดมาไม่มีอะไรติดตัวมาแต่เกิดส่วนมากมักจะได้จากครอบครัวที่พอมีฐานะพร้อมที่จะมอบให้ แต่คนที่ฐานะไม่ดีก็ต้องดิ้นรนต่อสู้ให้ได้มา เมื่อถึงเวลานั้นเราควรมีการแบ่งปันบ้างไม่ว่าจะแรงกาย หรือเงินที่พอช่วยได้ เพราะวันหนึ่งสุดท้ายตายไปก็ต้องไปแต่ตัว สิ่งที่หลงเหลือคือความดีทิ้งไว้ให้ลูกหลาย
ครั้งหนึ่งผมขึ้นรถไปได้นั่งคุยกับตาที่แกซื้อต้นมะพร้าวจะนำไปปลูก แกว่าจะเอาไปปลูกไว้เผื่อได้กินในอนาคต แล้วมีเด็กกลุ่มหนึ่งได้ยินพากันพูดว่า อายุปูนนี้แล้วจะปลูกทำไม ไม่รู้จะได้ใช้มั้ย ตาแกเลยตอบว่า ที่ปลูกนี้ไม่ใช่ให้ตนแต่ปลูกให้กับลูกหลาน ดีกว่าไม่มีอะไรให้ใคร คนเราทำดีอย่าหวังแต่จะได้อย่างเดียว
2. ไม่กลัวความตาย เมื่อใครก็ตามที่สร้างแต่คุณงามความดีไว้มากมาย ย่อมที่จะไม่คิดถึงความกลัวตาย เพราะการได้สร้างความดีไว้นั้นจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้จิตใจผู้นั้นมีความสุข ความสงบ และความบริสุทธิ์ พร้อมที่จะตายทุกเมื่อโดยไม่หวาดกลัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในชีวิต เพราะได้เตรียมพร้อมกับสิ่งนี้ไว้แล้ว
3. ทิ้งลายมือไว้ การพูดอย่างนี้คงไม่ผิดอย่างแน่นอนเพราะคุณลองพิจารณาดูตัวเองให้มากว่าครั้งหนึ่งเราได้ทำอะไรไว้ ทิ้งไว้ให้คนทั้งหลายได้ใช้ประโยชน์ สิ่งหนึ่งที่ผมเองมักจะทำคือการสร้างห้องน้ำ และศาลาไว้ให้คนทั่วไปได้ใช้สอย เพราะมองว่าการสร้างสิ่งเหล่านี้ถือมีประโยชน์อย่างมาก
เหตุที่ผมเองมักจะสร้างห้องน้ำและศาลา เพราะคนที่เขาผ่านมาเกิดเหน็ดเหนื่อย หรือฝนตกได้เข้าไปพัก เพื่อได้หลบแดดหลบฝน ส่วนห้องน้ำสำคัญมากเพราะคนที่ปวดท้องอุจจาระและปัสสาวะถือว่าทรมานอย่างมาก ถือว่าเราได้ปลดทุกข์ให้กับคนเหล่านั้น เราจะได้รับอานิสงส์ที่ได้ช่วยสร้างความสุขให้กับคนมากมาย
4. ให้คนจดจำ คำว่า ให้คนจดจำในที่นี้หมายถึงจดจำในสิ่งที่ดี เพราะการที่เราทำความดีย่อมจะเป็นที่จดจำของคน มีแต่คนพูดถึง ครั้งหนึ่งสิ่งที่ผมทำไว้ให้กับในหลายๆ พื้นที่ หลังจากที่เราได้จากออกไป พอกลับมาเยี่ยมเยือนก็ยังมีคนพูดถึง ในด้านคุณงามความดีที่เราสร้างไว้ แม้จะนานแสนนานแต่ก็ยังเห็นสิ่งที่เราสร้างไว้ให้คนเขาได้จดจำ
ดังนั้น การมีชีวิตอยู่ไปเพียงแค่เราจะใช้ชีวิตเท่านั้น หรือแสวงหาปัจจัยสี่ แต่เราควรสร้างคุณงามความดีด้วย อย่าให้เขาว่าได้ว่าโตเพราะกินข้าว เฒ่าเพราะเกิดนาน ดังที่กล่าวว่า "เปลวเทียนละลายแท่งยังให้แสงสว่าง คนเราตายไปควรทิ้งลายมือไว้"
ฝากกด like
ฝากกด share
ด้วยนะครับ
โฆษณา