1. หยุดเปรียบเทียบ สำคัญที่สุดคือคุณต้องหยุดเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นก่อนเป็นอันดับแรก เพราะการทำอย่างนั้นมีแต่จะทำให้คุณรู้สึกแย่ลงไปกว่าเดิม โฟกัสที่การพัฒนาตัวเองให้ดีก่อนจะดีกว่าครับ
2. นึกข้อดีของตัวเองให้ออก ทุกคนล้วนมีคุณค่า และความดีงามในตัวเอง ลองเลือกมาสัก 10 ข้อ แล้วจดบันทึกให้เป็นลายลักษณ์อักษร เพราะในยามท้อแท้ การหวนกลับมาอ่านสิ่งดีๆเหล่านี้ ก็สามารถที่จะช่วยเรียกขวัญกำลังใจกลับคืนมาได้เช่นกัน
3. ชื่นชมตัวเองตามโอกาส ง่ายๆ ก็กระจกเงาเลยครับ ลองพูดชื่นชมตัวเองบ้างเมื่อทำงานสำเร็จ ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ กำลังจากตัวเองนี่ล่ะครับสำคัญที่สุด
4. ให้อภัยตัวเองยามผิดพลาด ต้องไม่ซ้ำเติมตัวเอง ควรให้อภัยตัวเอง เปลี่ยนความผิดพลาดนั้นให้เป็นบทเรียนที่ดี จากนั้นจึงมุ่งมั่นพัฒนาตนเองต่อไปเพื่อให้ถึงจุดหมาย
5. ยิ้มสู้ทุกสิ่ง สมองจะหลั่งสาร ‘เอ็นโดรฟิน’ หรือ ‘สารแห่งความสุข’ ออกมา แน่นอนว่านอกจากจะทำให้เราอารมณ์เบิกบาน แจ่มใส ยังเรียกขวัญกำลังใจมาให้อีกด้วย ทีนี้จะสถานการณ์ไหนเข้ามาก็ไม่หวาดหวั่น
6. เอาชนะทุกความกลัว หลายครั้งที่ความกลัว กลายเป็นอุปสรรคสำคัญ ที่ทำให้คุณเสียโอกาสดีๆ ที่เข้ามาในชีวิตอย่างง่ายดาย ขจัดทุกความกลัวออกไปจากใจครับ หลายสิ่งดีๆ ในชีวิตรออยู่
7. ทำสิ่งพิเศษในแต่ละวัน เริ่มจากเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่น ออกกำลังกาย เดินเล่นในสวน รับประทานอาหารที่ชอบ ฟังเพลงโปรด อ่านหนังสือ ปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ ฯลฯ เหล่านี้ล้วนเป็นกิจกรรมที่ทำให้คุณมีความสุขได้อย่างง่ายๆ และเปรียบเสมือนการชาร์จแบตเตอรี่ เพิ่มพลังชีวิตให้ตัวเองพร้อมเดินหน้าต่อไปอย่างมีความสุข
8. ตั้งเป้าหมายในชีวิต อาจเริ่มต้นทำเรื่องง่ายๆ ให้สำเร็จก่อน เพราะเมื่อทำเสร็จ คุณจะได้มีกำลังใจที่จะเดินหน้าทำงานชิ้นใหญ่ต่อไปในอนาคต
9. เชื่อมั่นในผลของการทำความดี แม้บางครั้ง เราจะเห็นคนทำชั่วได้ดีมากมายจนชาชิน ก็ขอให้อย่าได้ท้อใจ แต่ขอให้เชื่อมั่นในเรื่องของการทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ต่อไป อย่างน้อยก็เห็นได้ชัดว่าเวลาทำดีนั้นเราก็รู้สึกมีความสุข ขณะเดียวกันจะรู้สึกกังวล กลัวคนอื่นจะรู้ หรือเรียกง่ายๆ ว่าเกิดความทุกข์เมื่อเริ่มทำความชั่ว แสดงให้เห็นชัดเจนเลยว่า “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” นั้นเป็นเรื่องจริง