Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
คลังความรู้ by SpokeDark
•
ติดตาม
7 ก.ค. 2020 เวลา 10:00 • ประวัติศาสตร์
เหลือแต่ตำนาน! จักรวรรดิควาเรซเมียร์ อาณานิคมที่เคยรุ่งเรืองแห่งเอเชียกลาง ที่ล่ม
สลายด้วยน้ำมือของมองโกล
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
ควาเรซเมียร์ หรือราชวงศ์ควาเรซเมียน (Khwarazmian Dynasty) เป็นอาณาจักรของชาวเปอร์เซียที่นับถือศาสนาอิสลามนิกายสุหนี่ เป็นอาณาจักรที่ปกครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของเอเชียกลาง (อัฟกานิสถานและอิหร่านในปัจจุบัน) ในช่วง ค.ศ.1077 – 1231 และเคยตกเป็นรัฐในอารักขาของพวกเซลจุกเติร์กและการา-คิตาน ของชนเผ่าเหลียว และภายหลังพวกเขาก็ปลดแอกตัวเองออกมาเป็นรัฐอิสระ ก่อนถูกพวกมองโกลรุกรานจนล่มสลายไปในศตวรรษที่ 13
WIKIPEDIA CC SAYF AL-VAHIDI
จุดเริ่มต้นของอาณาจักรควาเรซเมียร์มีที่มาค่อนข้างคลุมเครือ นักประวัติศาสตร์ลงความเห็นว่าอาณาจักรแห่งนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิกาสนาวิยะห์ ที่เคยรุ่งเรืองมาก่อนหน้า ต่อมาภายหลังได้กลายเป็นรัฐในอารักขาของเซลจุกเติร์กและการา-คิตาน ตามลำดับ ก่อนที่จะกลายมาเป็นรัฐอิสระ และกลายเป็นจักรวรรดิที่ทรงอำนาจที่สุดในเวลาต่อมา กล่าวกันว่าในช่วงที่รุ่งเรืองที่สุดของจักรวรรดิควาเรซเมียร์ มีดินแดนทอดยาวตั้งแต่ทะเลสาบแคสเปียนถึงตอนเหนือของหุบเขาฮินดูกูช และมีประชากรราว 5 ล้านคน เลยทีเดียว
และด้วยความเจริญรุ่งเรืองนี้เอง ที่เชื้อเชิญให้ศัตรูอย่างเจงกีสข่าน เข้ามาท้าทายอำนาจของจักรวรรดิควาเรซเมียร์ว่าพวกเขาแน่สักแค่ไหน ในปี ค.ศ.1218 เจงกีสข่านส่งทูตมาติดต่อการค้ากับเมืองโอทรา ผู้ครองเมืองสงสัยว่าทูตคนนี้อาจเป็นสายลับของเจงกีสข่าน จึงสั่งให้ประหารชีวิตเสีย เจงกีสข่านพอทราบเรื่องจึงเรียกร้องให้ส่งตัวเจ้าเมืองโอทรามาที่จักรวรรดิมองโกลเพื่อรับโทษพร้อมกับเรียกค่าเสียหาย
2
WIKIPEDIA CC ARAB LEAGUE
ชาห์ โมฮัมหมัดที่ 2 แห่งจักรวรรดิควาเรซเมียร์พอทราบเรื่องก็ทรงตอบปฏิเสธ จนทำให้เจงกีสข่านใช้เรื่องนี้เป็นเหตุในการก่อสงคราม ด้วยการส่งทหารหลายแสนคน รุกรานจักรวรรดิควาเรซเมียร์จากหลายทิศทางเพื่อเป็นการล้างแค้น ในการรบครั้งนั้น กองทัพมองโกลเข่นฆ่าผู้คนและทำลายเมืองของจักรวรรดิควาเรซเมียร์อย่างโหดร้ายทารุณ ซึ่งก็เป็นไปตามมาตรฐานของนักรบมองโกลอยู่แล้ว กล่าวกันว่าสงครามครั้งนั้นไม่ต่างจากการสังหารหมู่ที่โหดเหี้ยมที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ เพราะทหารมองโกลขึ้นชื่อเรื่องความโหดเหี้ยมและสังหารทุกคนที่เป็นศัตรูโดยไม่มีการยกเว้น
WIKIPEDIA CC ATILIN
นอกจากนี้กองทัพมองโกลทำลายหลักฐานทางโบราณคดีและจดหมายเหตุต่าง ๆ ที่ล้ำค่าของจักรวรรดิควาเรซเมียร์จนแทบไม่หลงเหลือหลักฐานใด ๆ ไว้อ้างอิงในยุคหลัง แน่นอนว่านี่คือบทลงโทษสำหรับผู้ปกครองคนใดก็ตาม ที่คิดท้าทายอำนาจของเจงกีสข่าน ชาวควาเรซเมียร์ที่รอดชีวิตก็หนีไปตั้งหลักทางตอนเหนือของประเทศอิรักและทำอาชีพเป็นทหารรับจ้างให้ชาวมุสลิมด้วยกัน ส่วนที่โชคร้ายก็ถูกพวกมองโกลจับไปเป็นเชลย และหลอมรวมเชื้อชาติกับพวกมองโกลเจ้าถิ่นจนกลายเป็นชนเผ่ามองโกลตระกูลซาร์ตูลในภายหลัง
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
WIKIPEDIA CC ARCHIE_TP
3 บันทึก
13
1
4
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ประวัติศาสตร์ I
3
13
1
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย