7 ก.ค. 2020 เวลา 02:00 • ประวัติศาสตร์
“Yaroslavl” เมืองที่ท่วมไปด้วยเลือด เนื่องจากพวกมองโกล
พวกมองโกลได้บุกเมือง Yaroslavl ในรัสเซียเมื่อปีค.ศ.1238 (พ.ศ.1781) และแทบไม่มีใครรอดชีวิต ชาวเมืองนับร้อยต้องสังเวยชีวิตให้กับมองโกล
ภายหลังจากฆ่าชาวเมือง ทหารมองโกลก็ได้ทำการฝังศพอย่างลวกๆ ไม่มีการทำเครื่องหมายว่าใครเป็นใคร แต่ในเวลาต่อมา นักวิจัยก็ได้ทำการตรวจสอบหนึ่งในหลุมศพของเหยื่อ
จากการตรวจสอบหนึ่งในหลุมศพนั้น พบว่ามีอยู่หลุมหนึ่งที่ฝังศพสามศพ เป็นร่างของหญิงผู้หนึ่งกับลูกสาวและหลานชาย โดยศพที่อายุมากที่สุดนั้นมีอายุไม่น้อยกว่า 55 ปีขณะเสียชีวิต ส่วนอีกศพมีอายุระหว่าง 30-40 และที่อายุน้อยที่สุดนั้น มีอายุไม่ถึง 20 ปี
ศพทั้งสามนี้ถูกฝังไว้ในหลุมหนึ่งจากจำนวนเก้าหลุม และทั้งหมดรวมกันมีศพอยู่มากกว่า 300 ศพ
สำหรับทัพมองโกลที่บุกมานั้น ได้มีผู้นำคือ “Batu Khan” ผู้เป็นหลานของ “Genghis Khan” และได้ทำการทำลายทุกอย่างในเมือง เผาจนราบคาบ แต่ก็มีหลักฐานหลงเหลือที่บ่งชี้ว่าเมืองนี้น่าจะเป็นเมืองรุ่งเรืองเมืองหนึ่ง
ศพที่พบนี้เป็นหลักฐานแสดงถึงความโหดร้ายของมองโกล และ Batu Khan ก็ได้ทำการยึดครองพื้นที่ต่างๆ ในรัสเซีย
ภายในเวลาเพียงห้าปี Batu Khan ก็ได้ฆ่าประชาชนรัสเซียกว่าเจ็ดเปอร์เซ็นต์ อีกทั้งเมื่อเจ้าชายรัสเซียปฏิเสธที่จะอ่อนน้อมต่อมองโกล Batu Khan ก็จัดการเผาเมือง โดยที่เจ้าชายและคนอื่นๆ ยังติดอยู่ในเมือง
นอกจากนั้น จากการศึกษาศพที่พบเพิ่มเติม มีความเป็นไปได้ว่าเมื่อถูกฆ่าแล้ว ศพเหล่านี้ยังไม่ถูกฝังในทันที แต่ถูกทิ้งไว้กลางแจ้งเป็นเวลาหลายเดือน ก่อนจะถูกฝัง
นักประวัติศาสตร์ได้กล่าวถึงเมือง Yaroslavl ว่า เป็นเมืองที่ท่วมไปด้วยเลือด แสดงถึงความโหดร้ายที่เมืองนี้ได้รับ
โฆษณา