9 ก.ค. 2020 เวลา 02:56 • ท่องเที่ยว
เกาะช้าง..... เชื่อสิ!! ที่ทุกคนไม่รู้
.......อยากรู้...... มา!! เด็กตราดจะเล่าให้ฟัง
"เกาะช้าง" ถ้ามีคนพูดชื่อนี้ขึ้นมา เชื่อว่าหลายๆท่านต้องรู้จัก เพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดตราด เป็นดินแดนหาดทรายที่ชาวต่างชาติและชาวไทยเรานิยมมาท่องเที่ยวพักผ่อน มีทั้งน้ำตก และชายหาด จุดดูปะการังสวยๆ และสัตว์ทะเล ที่สวยงามไม่แพ้เกาะมีชื่ออื่นๆในประเทศไทย
แต่ทุกท่านเคยสงสัยหรือไม่ว่า เกาะที่สวยงามแห่งนี้ ทำไมชื่อ "เกาะช้าง" เด็กตราดจะเราให้ฟังคะ
"ตำนานเกาะช้าง" ซึ่งมีลักษณะเป็นนิทานประจำถิ่นในจังหวัดตราด เล่าไว้ดังนี้
ในสมัยพระโพธิสัตว์มาสร้างตำหนักเลี้ยงช้างอยู่ที่เกาะแห่งหนึ่ง เดิมยังไม่ได้ชื่อเกาะช้าง มีช้างเชือกหนึ่งเป็นจ่าโขลง ชื่ออ้ายเพชรและมีสองตายายเป็นผู้เลี้ยง ตานั้นไม่ได้ระบุชื่อ แต่ยายมีชื่อว่า "ม่อม" อยู่มาวันอ้ายเพชรตกมันหนีเตลิดเข้าป่าไปและไปผสมกับช้างป่า จนเกิดลูกช้าง 3 เชือก
เมื่อพระโพธิสัตว์ทราบเรื่อง จึงสั่งให้สองตายายไปติดตามนำอ้ายเพชรกลับมา โดยให้ตาไปทางทิศเหนือส่วนยายไปตามทางทิศใต้ อ้ายเพชรหนีไปจนสุดเกาะทางด้านทิศเหนือ ก็ว่ายน้ำข้ามทะเลมาขึ้นฝั่งที่บ้านธรรมชาติ (อ่าวธรรมชาติ) ส่วนลูกช้างทั้ง 3 ตัว ยังว่ายน้ำไม่เป็นจึงจมน้ำตายกลายมาเป็นหิน 3 กองที่อยู่ตรงอ่าวคลองสน ชาวบ้านเรียกว่า "หินช้างสามลูก"
ในขณะที่อ้ายเพชรว่ายน้ำไปถึงกลางร่องทะเลลึก ก็ได้ถ่ายมูลไว้ กลายเป็นหินกองอยู่ตรงนั้น เรียกว่า "หินขี้ช้าง" ปัจจุบันมีกระโจมไฟ (ประภาคาร)บนกองหินนี้
ส่วนตาผู้เลี้ยงช้าง เห็นว่าตามไปไม่ทันแล้ว จึงเดินทางกลับ ปล่อยให้ยายม่อมตามจับแค่คนเดียว ยายม่อมว่ายน้ำตามจนไปขึ้นฝั่ง ก็เดินเลียบไปตามชายฝั่ง แต่ไม่กล้าเข้าไปในป่าเพราะกลัวสัตว์ป่าทำร้าย ยายเดินไปจนตกลงไปในโคลนทำให้โคลนดูดจนถอนตัวเองไม่ขึ้นและเสียชีวิตที่นั่น ร่างกายแกเป็นหิน ชาวบ้านเรียกว่าว่า "หินยายม่อม"
ต่อมาชาวบ้านจึงนิยมเรียกชื่อหมู่บ้านทางแถบนั้นว่า "บ้านยายม่อม" ส่วนงอบที่ยายม่อมที่สวมอยู่ได้หลุดลอยไปติดอยู่ตรงปลายแหลมและกลายเป็นหินตรงบริเวณที่ตั้งกระโจมไฟนี่เอง
เมื่อพระโพธิสัตว์ทราบเรื่องจากตาว่าอ้ายเพชรมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ จึงเข้าใจว่าอ้ายเพชรจะต้องข้ามกลับมายังเกาะอีก จึงให้ชาวบ้านคนเลี้ยงช้างช่วยทำคอกดักไวเกือบถึงท้ายเกาะด้านใต้ ชาวบ้านเรียกชื่อหมู่บ้านแถบนี้ว่า "บ้านคอก" และเกาะซึ่งเกิดลิ่มและสลักที่ทำคอกนั้นเรียกว่า "เกาะลิ่ม" "เกาะสลัก" หรือเรียกกันทั่วไปรวมๆว่า "บ้านสลักคอก"
ช้างอ้ายเพชรว่ายน้ำเลียบชายฝั่งมาจนถึงท้ายเกาะ คาดว่าพอว่ายน้ำไปได้ไม่ไกลนักก็ถ่ายมูลออกมาอีกกลายเป็น "หินกอง" มาจนทุกวันนี้ แต่เนื่องจากบริเวณนั้นลึกมากหินจึงไม่โผล่พ้นน้ำ และไม่ใช่เส้นทางเดินเรือ จึงไม่มีการทำประภาคารไว้ เมื่ออ้ายเพชรขึ้นเกาะแล้ว ก็ไม่ได้กลับเข้าคอก กลับเดินเลียบฝั่งอ้อมแหลมไปเข้าท้องอ่าวหน้านอก
พระโพธิสัตว์จึงสั่งให้เหล่าคนเลี้ยงช้างไปสะกัดให้กลับเข้าคอก ชาวบ้านจึงเรียกจุดที่ไปสะกัดช้างอ้ายเพชรตามภาษาชาวบ้านว่า "บ้านสลักเพชร" ( สลักหมายถึง สะกัด )
ช้างจ่าฝูง นามอ้ายเพชรนั้นคือสาเหตุความวุ่นวายในครั้งนั้นนั่นเอง พระโพธิสัตว์จึงได้ฝังอาถรรพณ์ไว้ตามเกาะต่างๆ เพื่อมิให้ช้างเข้าไปอยู่อาศัยอยู่อีกต่อไป นับแต่นั้นมาจึงไม่มีช้างอาศัยในเกาะอีกเลย
เกาะช้าง!! ช่างน่าจดจำทั้งเรื่องเล่าและสถานที่ และยังมีตำนานอีกมากมายของจังหวัดตราด ที่ยังไม่เคยได้ถ่ายทอดให้ผู้คนได้รับรู้ "เด็กตราดแวะมาเล่า" จะนำเสนอในครั้งต่อไป ติดตามกันน่ะค่ะ
ฝากแนะนำเพจ และกดติดตามด้วยน๊า!!
โฆษณา