9 ก.ค. 2020 เวลา 06:35 • สุขภาพ
จะเกิดรัยขึ้นเมื่ิอดื่มน้ำว่านหางจระเข้
ประโยชน์ของน้ำว่านหางจระเข้
1. เป็นยาระบาย
สำหรับคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารและการทำงานของลำไส้ น้ำว่านหางจระเข้ซึ่งมีสรรพคุณเป็นยาระบายจะช่วยบรรเทาความผิดปกติที่เกิดจากระบบเหล่านี้ได้ โดยสารอาหารในว่านหางจระเข้จะช่วยปรับสมดุลแบคทีเรียในลำไส้ ทำให้การย่อยอาหารและการขับถ่ายของเราดีขึ้น
2. แก้ท้องอืด
การศึกษาจากนักวิทยาศาสตร์ชาวอิหร่าน เผยว่า น้ำว่านหางจระเข้มีส่วนช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ในกลุ่มผู้ป่วยโรคลำไส้แปรปรวนได้ดี อีกทั้งส่วนวุ้นของว่านหางจระเข้ ยังจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้ลำไส้ แก้ปัญหาท้องผูกในผู้ป่วยโรคลำไส้แปรปรวนได้
ซึ่งเมื่อระบบขับถ่ายของคนไข้เริ่มดีขึ้น อาการท้องอืด แน่นท้องที่เกิดเพราะลำไส้แปรปรวนก็จะลดน้อยลงตามลำดับ
3. บรรเทาอาการกรดไหลย้อน
น้ำว่านหางจระเข้ สามารถช่วยบรรเทาอาการแสบร้อนกลางอก เพราะกรดไหลย้อนได้ด้วยนะครับ เนื่องจากว่านหางจระเข้มีฤทธิ์เย็น และวุ้นของว่านหางจระเข้ ก็มีส่วนช่วยจัดการกรดเกินในกระเพาะอาหารเราได้ด้วย ดังนั้นคนที่เป็นโรคกรดไหลย้อน จะลองดื่มน้ำว่านหางจระเข้เพื่อบรรเทาอาการแทนยาบ้างก็ได้
4. ล้างพิษ
สรรพคุณเด่นของว่านหางจระเข้ ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือสรรพคุณด้านล้างพิษ โดยมีการศึกษาจากหลายประเทศ ที่เห็นพ้องต้องกันว่า ตัววุ้นของว่านหางจระเข้คืออาวุธสำคัญที่ช่วยพาเอาสิ่งตกค้างหรือสารพิษที่ลอยนวลอยู่ตามลำไส้ออกไปจากร่างกายเรา
และวุ้นว่านหางจระเข้ ยังช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบลำไส้ ให้มีประสิทธิภาพขึ้น นอกจากนี้ โพแทสเซียม ที่มีอยู่ในว่านหางจระเข้ยังดีต่อการทำงานของตับและไต ซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญที่ช่วยในการคัดกรอง และกำจัดสารพิษในร่างกายอีกด้วยล่ะ
5. ช่วยลดน้ำตาลในเลือด
มีการศึกษาที่พบว่า น้ำว่านหางจระเข้สามารถใช้เป็นตัวช่วยลดระดับกลูโคส ในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งมีปริมาณน้ำตาลในเลือดเกิน 200 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยนักวิจัยได้อธิบายเหตุผลว่า ในว่านหางจระเข้มีแร่ธาตุที่ดีต่อเลือดอยู่หลายชนิด ทั้งโครเมียม แมกนีเซียม สังกะสี และแมงกานีส ซึ่งแร่ธาตุเหล่านี้จะช่วยควบคุมอินซูลินในเลือดได้ดี ทว่าการจะนำน้ำว่านหางจระเข้มาใช้เป็นยาลดน้ำตาลในเลือด อย่างจริงจังคงต้องทำการวิจัยกันต่อไปอีกในอนาคต
6. ช่วยลดคอเลสเตอรอล ดีต่อหัวใจ
ผลการศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่า เมื่อให้อาสาสมัครที่มีปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือดสูง ดื่มน้ำว่านหางจระเข้ติดต่อกัน 12 สัปดาห์ พบว่า ปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือดของอาสาสมัครทุกคนลดลงราว 15%
อีกทั้งผลการศึกษาจากประเทศอิหร่านยังพบด้วยว่า สารในว่านหางจระเข้มีสรรพคุณช่วยป้องกันภาวะไขมันเกาะจับเส้นเลือด ได้ในระดับหนึ่ง ส่งผลให้ไขมันในกระแสเลือดลดน้อยลงด้วย ซึ่งเมื่อเป็นอย่างนี้ เลือดก็จะสูบฉีดเข้าสู่หัวใจได้อย่างเป็นปกติดี ไม่มีอะไรมาขวางให้เสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจนั่นเอง
แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อควรระวังในการดื่มน้ำว่านหางจระเข้ที่ควรต้องใส่ใจด้วยนะครับ
ข้อควรระวังในการดื่มน้ำว่านหางจระเข้
ไม่ควรดื่มน้ำว่านหางจระเข้มากเกินไป เพราะอาจจะทำให้ท้องเสียได้ เนื่องจากการได้รับ
สารอะโลอิน (aloin) ที่มากเกินกว่าร่างกายจะรับไหวนั่นเอง
 
          - ผู้ที่มีอาการแพ้หัวหอม กระเทียม หรือเกสรทิวลิป อาจมีอาการแพ้ว่านหางจระเข้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงไว้ก่อนดีกว่า
- ไม่ควรดื่มน้ำว่านหางจระเข้ขณะที่เป็นประจำเดือน หรือขณะที่ตั้งครรภ์
- ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำว่านหางจระเข้หากมีปัญหาด้านสุขภาพ เช่น ริดสีดวงทวาร หรือมีการเสื่อมสภาพของตับและน้ำดี
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
โฆษณา