[The update] มีคนกล่าวว่า นอกจากภัยพิบัติตามธรรมชาติ และโรคระบาดแล้ว มีอีกสิ่งหนึ่งที่สามารถทำให้มนุษย์สูญพันธุ์ได้ นั่นก็คือ.. "สงคราม"

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

•

9 ก.ค. 2020 เวลา 11:10 • ไลฟ์สไตล์

มีคนกล่าวว่า นอกจากภัยพิบัติตามธรรมชาติ และโรคระบาดแล้ว มีอีกสิ่งหนึ่งที่สามารถทำให้มนุษย์สูญพันธุ์ได้ นั่นก็คือ..

"สงคราม"

ภาพพระราชวังหลวงแซนซิบาร์หลังจากสงครามยุติลงhttp://www.seychellesweekly.com/September%205,%202010/Pictures/top7_palce_Harem.jpg

สงครามสมัยก่อนนู้นสู้รบกันครั้งหนึ่งช่างกินเวลาแสนยาวนาน

บางครั้งกินเวลานานเป็นร้อยๆปี

หรืออย่างสงครามโลกทั้ง 2 ครั้ง ก็ใช้เวลาสู้รบและมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก

แต่มีสงครามอยู่ครั้งหนึ่งที่ถูกบันทึกไว้ว่าเป็น “สงครามครั้งที่สั้นที่สุดในโลก”

ก็สั้นขนาดที่ว่าใช้เวลาสู้รบกันแค่ 38 นาที

ถ้าเทียบกับฟุตบอลคือยังไม่จบครึ่งแรก สงครามก็รู้ผลแพ้-ชนะ ซะแล้ว!!

ซึ่งสงครามที่ว่านี้ก็คือ สงครามแองโกล-แซนซิบาร์

เป็นสงครามระหว่าง จักรวรรดิอังกฤษกับรัฐสุลต่านแซนซิบาร์ เมื่อปี 1896

ต้นเหตุของสงครามเกิดจากเหตุการณ์ที่ สุลต่านองค์ปัจจุบันเกิดสวรรคตกะทันหัน

ผู้คนต่างสงสัยในว่าอาจจะถูกวางยาพิษจากลูกพี่ลูกน้อง ที่ชื่อว่า “คาลิด บิน บาร์กาช”

เพราะ “คาลิด บิน บาร์กาช” ประกาศให้ตัวเองขึ้นเป็นสุลต่านพระองค์ใหม่ทันทีหลังจากที่สุลต่านองค์ก่อนสวรรคต

แต่..คนที่จะขึ้นเป็นสุลต่านของแซนซิบาร์ได้นั้น ต้องได้รับการอนุญาตจากกงสุลสหราชอาณาจักรเสียก่อน

เนื่องเพราะในขณะนั้น แซนซิบาร์เป็นรัฐในอารักขาของจักรวรรดิอังกฤษอยู่

ซึ่งทางอังกฤษได้สนับสนุนให้ “ฮามัด บิน มุฮาเม็ด” ขึ้นครองราชย์แทนสุลต่านองค์ก่อน ไม่ใช่ “คาลิด บิน บาร์กาช”

ทางอังกฤษจึงยื่นคำขาดให้ สุลต่าน “คาลิด บิน บาร์กาช” สละราชสมบัติ ก่อนเวลา 9:00 ของวันที่ 27 สิงหาคม 1896

และหากไม่ทำตามตำขาด ก็จะเข้าโจมตีพระราชวังทันที

ซึ่งก็แน่นอน “คาลิด บิน บาร์กาช” ปฏิเสธที่จะทำตามพร้อมกับขังตัวเองอยู่ในพระราชวัง

ภาพพระราชวังหลวงแซนซิบาร์ http://historycollection.com/wp-content/uploads/2017/01/The-Great-War-Blog-Zanzibar-Royal-Palace-in-1893.jpg

ขุมกำลังทั้ง 2 ฝ่าย

ทางฝ่าย “คาลิด บิน บาร์กาช” มีทหารอยู่ในมือประมาณ 3,000 นาย มีปืนใหญ่และปืนกล 3-4 กระบอก

ส่วนทางฝ่ายอังกฤษ มีเรือรบ 5 ลำ และทหารประมาณ 1,000 นาย

เมื่อถึงเวลาที่กำหนด และทางสุลต่านพระองค์ใหม่ไม่ยอมปฏิบัติตาม

ทางอังกฤษจึงได้เริ่มระดมยิงปืนใหญ่เข้าไปในพระราชวัง ตั้งแต่เวลา 09:02

เสียงปืนสิ้นสุดลงที่เวลา 09:40 เมื่อธงของสุลต่านหักลง ถือเป็นการสิ้นสุดสงคราม

โดยใช้เวลาไปเพียง 38 นาที

ทหารเรือชาวอังกฤษถ่ายรูปกับปืนใหญ่ ด้านหลังเป็นพระราชวังแซนซิบาร์ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก (ภาพจาก wikipedia.org)

ผลของสงครามก็คือ….

ฝ่ายสุลต่านถูกจมเรือหลวงไป 1 ลำ ส่วนพระราชวังก็พังพินาศไปทั้งหลัง

มีทหารเสียชีวิตประมาณ 500 นาย

ฝ่ายอังกฤษมีทหารได้รับบาดเจ็บเพียง 1 นายเท่านั้น

ซึ่งหลังจากสงครามจบลง อังกฤษก็ได้แต่งตั้ง “ฮามัด บิน มุฮาเม็ด” ขึ้นครองราชย์ตามความต้องการของตัวเองได้สำเร็จ

ส่วนตัวของ “คาลิด บิน บาร์กาช” คาดว่าน่าจะลี้ภัยไปใช้ชีวิตอยู่แอฟริกาตะวันออก ซึ่งในขณะนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเยอรมนีจนเสียชีวิต

ขอบคุณข้อมูลจาก

โฆษณา