11 ก.ค. 2020 เวลา 02:12 • ปรัชญา
ผมกับพ่อ...
เราเชียร์นักการเมืองคนละพรรค
ตอนเลือกตั้ง เขาก็หาพรรคที่เขาชอบ
ผมก็กา พรรคที่ผมชอบ
ผมกับแม่
เรากินก๋วยเตี๋ยวคนละรส
ผมกินเผ็ด แม่กินเปรี้ยว
ร้านก๋วยเตี๋ยวที่แม่บอกอร่อย
ผมบอก หมาไม่แดก
ผมกับน้อง
เราใช้โทรศัพท์คนละยี่ห้อ
และมีสไตล์การใช้ชีวิตต่างกัน
ฟ้ากับเหว ผมดื่มเหล้าสูบบุหรี่
น้องผมไม่เอาทั้งสองอย่าง
การพักผ่อนของผม คือการไปเที่ยวอาบอบนวด
น้องผมไปเป็นหน่วยกู้ภัยช่วยเหลือคนอื่น
ผมกับเมีย
ผมชอบดูหนังซุปเปอร์ฮีโร่
หนังแอคชั่น เมียผมชอบดูซีรี่ย์เกาหลี
แม้กระทั่ง พ่อแม่ลูก พี่น้อง
สายเลือดเดียวกัน ยังคิดไม่เหมือนกัน
ยังชอบ ยังใช้ชีวิต ไม่เหมือนกันเลย
นับประสาอะไรกับ...คนอื่น
ที่โตมาคนละที่กับเรา ถูกเลี้ยงดู
มาคนละแบบกับเรา จะให้เขา
คิดเหมือนเราทุกคน...เป็นไปไม่ได้
ในบางเรื่อง
เราอาจคิดถูกก็ได้ คิดผิดก็ได้
โลกปัจจุบัน
มีแต่คน ออกมาถกเถียงกัน
ออกมา วิพากษ์วิจารณ์กัน
ที่คนเรามันทุกข์กันอยู่ทุกวันนี้
เพราะคิดแค่เพียง มุมของตัวเอง
คิดแต่ว่าตัวเองถูก
คนที่น่าสงสารที่สุด คือคนที่คิดว่า
ตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางของจักรวาล
นี่แหละ คือสาเหตุ
ที่ผม ไม่ออกไปนั่งเถียงกับใคร
ตามเพจดราม่า ประเด็นดราม่าต่างๆ
เถียงชนะก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา
เสียเวลาทำมาหากิน
เสียเวลาคิดเรื่องอนาคต
นั่งเถียง นั่งด่า กับคนที่เราไม่เคยเห็นหน้า
กับคนที่ไม่รู้จักเราดีพอ
บ้าหรือเปล่า...?!!
หน้าก็ไม่เคยเห็น
รู้จักก็ไม่รู้จัก ไปนั่งเถียงเพื่อ?
เดี๋ยวนี้
ใครไม่เห็นด้วยกับผม
ใครคิดต่างจากผม ผมปล่อยผ่านเลย
เสียเวลาไร้สาระ
และสำหรับคนบางคน
เราควรปล่อย ให้คอมเมนท์ของเขา
สะท้อนสติปัญญาของเขาเอง
คนบางคน ควรปล่อยให้เขา
อยู่อย่างเดิมอย่างนั้นแหละดีแล้ว
ไม่มีใครคิดเหมือนเราทั้งโลกหรอก
ถ้าชอบเหมือนกันหมด
โลกนี้คงมีเสื้อสีเดียว โทรศัพท์ยี่ห้อเดียว
มีผัวมีเมียคนเดียวกันไปแล้ว
นี่แหละความจริงของโลก
เราต้องยอมรับความจริงให้ได้
และอยู่กับมันให้ได้
Cr สิริทัศน์ สมเสงี่ยม
โฆษณา