สุนัขของคุณเคยตกอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือไม่?
แล้วเจ้าของสุนัขควรทำอย่างไร เมื่อสุนัขเกิดเจ็บป่วยด้วยอาการที่มีโอกาสเสียชีวิตได้ หรือ “อาการฉุกเฉิน”
กาโตโระจะพาทุกท่านรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นกับสุนัข มาเรียนรู้วิธีจัดการกับอาการฉุกเฉินเบื้องต้นกันค่ะ
“อย่าลืมว่า อาการฉุกเฉิน คือ อาการที่เสี่ยงเสียชีวิตหรือพิการ มีความเจ็บปวดทรมาน และรอไม่ได้นะคะ ควรพาสุนัขส่งโรงพยาบาลสัตว์ให้เร็วที่สุด”
10 อาการฉุกเฉินที่ต้องพาสุนัขไปหาหมอแบบรอไม่ได้
1. เลือดไหลปริมาณมาก และไหลไม่หยุดนานกว่า 5 นาที
เหตุการณ์เลือดไหลไม่หยุด มักเกิดหลังจากอุบัติเหตุ เช่น รถชน ของมีคมบาด สุนัขกัดกัน หรือตกจากที่สูง แม้ว่าเราจะพยายามกดแผลเพื่อห้ามเลือดแล้ว แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าเลือดจะหยุดไหล อาจเป็นไปได้ว่า “เส้นเลือดขนาดใหญ่ฉีกขาด” บางครั้งอาจสังเกตเห็นเลือดพุ่งออกมาเป็นเส้น
อาการของสุนัข ซึมลง เหงือกซีด ดูไร้เรี่ยวแรง เพราะความดันเริ่มต่ำลง
คำแนะนำ หาผ้าสะอาดกดแผลเอาไว้ เพื่อให้เลือดไหลออกมาช้าที่สุด รีบนำสุนัขส่งโรงพยาบาลสัตว์
อีกเหตุการณ์ที่สังเกตยากกว่า คือ เลือดไหลภายในร่างกาย เราไม่สามารถเห็นบาดแผลได้เลย เช่น โดนรถชนแล้วมีเลือดออกในช่องท้องหรือช่องอก หรือ สุนัขกัดกัน มีแผลเพียงรอยเขี้ยวแต่ความเสียหายข้างใต้รอยเขี้ยว อาจรุนแรงกว่าที่คิด
กรณีนี้ หากเกิดอุบัติเหตุแล้วไม่แน่ใจว่าจะมีเลือดออกภายในร่างกายหรือไม่ ควรพาไปหาหมอนะคะ
2. สุนัขสำลักหรือหายใจลำบาก
“สุนัขสำลักน้ำหรืออาหาร” เป็นหนึ่งในอาการฉุกเฉิน เนื่องจากอาหารและน้ำที่ไหลลงไปในหลอดลมหรือปอด อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการอุดตันทางเดินหายใจ การอักเสบของปอดและหลอดลม ทำให้สุนัขหายใจลำบากและเสียชีวิตได้
“หายใจลำบาก” เกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การสำลัก การติดเชื้อทำให้ปอดหรือหลอดลมอักเสบ หอบหืด อาการแพ้ หรือสุนัขเกิดอาการหลอดลมตีบแคบ
“หลอดลมตีบ” หนึ่งในสาเหตุยอดฮิตของอาการหายใจลำบาก สุนัขที่มีความเสี่ยงมีดังนี้
- สุนัขพันธุ์เล็ก เช่น ปอมเมอเรเนียน พุดเดิ้ลและยอร์คเชียร์ เทอร์เรีย อาจพบว่าหลอดลมขนาดเล็กกว่าปกติมาตั้งแต่เกิด
- สุนัขแก่ หลอดลมไม่ได้แข็งแรงอีกต่อไป เนื่องจากความเสื่อมตามอายุ หลอดลมซึ่งเป็นกระดูกอ่อน เกิดการยุบตัว ทำให้หลอดลมตีบแคบกว่าปกติ
- สุนัขอ้วน มีการสะสมไขมันทั่วทั้งตัว ไขมันในช่องอกที่หนาขึ้นตามความอ้วน ทำให้เบียดหลอดลมจนตีบแคบได้ (ควรลดความอ้วน เพื่อสุขภาพที่ดีนะคะ 🐶)
อาการของสุนัข หายใจถี่ ๆ สั้น ๆ หายใจหอบ ลิ้นม่วง เหยียดคอหายใจพร้อมกับหน้าท้องที่ยุบลง เนื่องจากต้องพยายามที่จะหายใจเข้า
คำแนะนำ ปลอบให้สุนัขอยู่ในความสงบ ลดความตื่นเต้น และไม่กดรัดบริเวณอกและท้องของสุนัข รีบพาสุนัขส่งโรงพยาบาลสัตว์
หน้าตาสุนัขตอนมีอาการหายใจลำบาก คือ หอบ แลบลิ้นยาว หายใจถี่ ๆ
3. เลือดออกจากอวัยวะต่าง ๆ
เลือดไหลที่เจ้าของสังเกตเห็น อาจไม่ได้ดูเลือดโชก เหมือนกรณีแรก แต่เป็นลักษณะ เลือดหยด 🩸 หรือไหลอย่างช้า ออกมาจากอวัยวะต่าง ๆ เช่น ปาก จมูก อวัยวะเพศ เลือดปนออกมากับปัสสาวะหรืออุจจาระ เป็นต้น
สุนัขอาจจะยังไม่ซึม แต่อย่าเพิ่งนิ่งนอนใจ เพราะนี่เป็นความผิดปกติที่ส่งผลกระทบรุนแรงได้ ควรรีบหาสาเหตุและรักษาอย่างเร่งด่วน
คำแนะนำ พาสุนัขไปตรวจอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุของเลือดไหล
ตัวอย่างเหตุการณ์: สุนัขเลือดกำเดาไหล (อาการที่พบบ่อยมากในประเทศไทย) สาเหตุส่วนใหญ่มักเกิดจากการติดเชื้อพยาธิเม็ดเลือด บางครั้งพบเลือดกำเดาไหลแบบหยด ๆ หรืออาจเลือดไหลโชกได้เช่นกัน
คำแนะนำ ทำให้สุนัขอยู่ในความสงบ หาน้ำแข็งห่อผ้าประคบสันจมูก และรีบพาไปหาหมอ
4. สุนัขมีปัญหาอุจจาระไม่ออก ปัสสาวะไม่ออก หรือแสดงอาการเจ็บปวดขณะขับถ่าย
ปัญหาการขับถ่ายมีความสำคัญมาก และเป็นคำถามแรก ๆ ที่สัตวแพทย์จะถามเจ้าของเมื่อพาสุนัขไปหาหมอ ไม่ใช่แค่เพียง อึได้หรือไม่ ฉี่ได้มั้ย แต่อาจถามถึงลักษณะของอุจจาระหรือปัสสาวะ และความถี่ด้วย
“ข้อมูลเหล่านี้มีส่วนช่วยให้สัตวแพทย์วินิจฉัยได้อย่างถูกต้องและรวดเร็วมากขึ้น”
“อึไม่ออก เบ่งอึ ร้องขณะเบ่ง” มีหลากหลายสาเหตุ เช่น สุนัขท้องผูก สุนัขอึแข็งหรือมีกระดูกแข็งปนกับอึ ทำให้เจ็บปวดขณะเบ่ง หรือสุนัขแก่เพศผู้ ที่ยังไม่ทำหมัน อาจมีปัญหาต่อมลูกหมากโต ทำให้ปวดขณะขับถ่ายได้เช่นกัน
ทำไมอุจจาระไม่ออกถึงเป็นเรื่องฉุกเฉิน?
คำตอบ ถ้าอุจจาระเก่ายังไม่ถูกขับถ่ายออกไป สุนัขเกิดความเจ็บปวด ไม่สบายตัว และอาหารใหม่ที่กินเข้าไปก็อาจอาเจียนออกมา เพราะลำไส้ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ
“ปัสสาวะไม่ออก ปัสสาวะปนเลือด” สาเหตุที่ทำให้ปัสสาวะติดขัด เช่น นิ่ว กระเพาะปัสสาวะอักเสบ หรือสุนัขแก่ที่ต่อมลูกหมากโต จนเบียดท่อปัสสาวะได้
***ปัสสาวะไม่ออก ถือเป็นอาการฉุกเฉินแบบเร่งด่วน!!! เพราะหากสุนัขไม่ฉี่ออกมา จะเกิดเหตุการณ์ของเสียและแร่ธาตุส่วนเกินที่ควรถูกระบายออกไป ค้างอยู่ในร่างกาย อาจทำให้เสียชีวิตได้ภายใน 24 ชั่วโมง
อาการของสุนัข เจ้าของไม่เห็นอุจจาระหรือปัสสาวะของสุนัขเลย สุนัขกระวนกระวาย เกร็งท้อง ปวดท้อง พยายามเบ่งอุจจาระหรือปัสสาวะหลายครั้ง หรือร้องอย่างเจ็บปวดขณะพยายามขับถ่าย
คำแนะนำ รีบพาสุนัขไปหาหมอ
5. อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับดวงตา
ดวงตา เป็นอวัยวะชิ้นเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดและเส้นประสาท ดังนั้น เมื่อเกิดการบาดเจ็บที่ดวงตา สุนัขจะเจ็บปวดมากและอาจเกิดความเสียหายรุนแรงตามมาคือ ตาบอด
สุนัขสายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุกับดวงตาคือ สุนัขหน้าสั้น ตาโต เช่น ชิสุห์ เฟรนช์บูลด็อก หรือปั๊ก
เหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้น ดังนี้
- แผลที่กระจกตา
- ตาโปน
- ตาทะลัก
- บาดแผลบริเวณเบ้าตา อาจทำให้กล้ามเนื้อที่ยึดลูกตาฉีกขาด สุนัขเกิดตาทะลักออกมาได้
อาการของสุนัข สุนัขตาทะลัก มีแผลที่ดวงตา สุนัขตาอักเสบและหรี่ตาข้างที่เจ็บหรือดวงตาดูช้ำเป็นจ้ำเลือด
คำแนะนำ พยายามไม่ให้สุนัขเกาตาหรือเอาหน้าไถพื้นเนื่องจากความเจ็บปวด
“คอลล่า” อุปกรณ์ที่ดีที่สุดในการปกป้องดวงตาจากการเกาและไถหน้าของสุนัข
Note: แผลเล็ก ๆ ที่กระจกตา อย่าคิดว่ามันน่าจะหายเองนะคะ ถ้าไม่ทำการรักษาอาจเกิดการติดเชื้อรุนแรงจนสุนัขต้องสูญเสียดวงตาได้
ติดตามอ่าน อาการฉุกเฉินในสุนัข ภาค 2 ได้ เร็ว ๆ นี้
ถ้าใจร้อนอยากอ่านก่อน ไปอ่านฉบับเต็มตาม Link ได้เลยจ้า
🐕🐩🦮🐕🦺
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
