11 ก.ค. 2020 เวลา 11:00 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
#รีวิวหนังแตกๆ "ผมหาเงินได้คืนล่ะ 100 ล้านบาท!!"
เขาคือใคร...เขาทำได้อย่างไร...??
หนังที่นักขายทั้งหลายต้องดู !! แล้วคุณจะรวยแบบไม่รู้ตัว
ต้องบอกก่อนเลยว่า หนังเรื่องนี้สร้างมาจากเรื่องจริง
เคยเกิดขึ้นจริงๆ และเป็นปรากฎการณ์ที่ทำให้ตลาดหุ้นยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯอย่าง "วอลสตรีท" ต้องสั่นคลอน
กับหนังที่มีชื่อว่า >> The wolf of wall street <<
โปสเตอร์หนังชื่อไทยว่า"คนจะรวยช่วยไม่ได้"
แอดเชื่อว่าใครหลายๆคนคงเคยดูหนังเรื่องนี้ หรือผ่านตากับหนังเรื่องนี้มาบ้าง แต่จะมีสักกี่คนที่สามารถจับจุด/กลยุทธ์ทางการขายต่างๆ มาปรับใช้ได้บ้าง
แต่ก่อนที่จะเล่าถึงประเด็นต่างๆ ที่จะทำให้สาวกคอหนังนั้น มีแรงบรรดาลใจ ลุกขึ้นมาทำบางอย่างให้ตัวเองนั้นรับทรัพย์ได้มากขึ้น แอดขอเล่าเรื่องย่อๆของหนังเรื่องนี้ก่อน
ภาพตัวอย่างจากหนัง
เปิดเรื่องมาในปี 1987 จอร์เดน เบลฟอร์ เด็กหนุ่มธรรมดาเดินดินกินข้าวแกง (หยอกๆ) เขาเป็นเด็กหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงวัย 22 ที่เปี่ยมไปด้วยความทะเยอทะยาน พร้อมหาหนทางการทำงานที่จะพาให้เขารวยได้ โดยไม่ต้องลงแรง
นั้นจึงทำให้เขาได้เข้าสู่วงการโบรกเกอร์ นักขายหุ้นกินค่าคอม (ไม่ใช่นักเล่นหุ้นนะ แต่ขายหุ้นให้นักธุรกิจ เพื่อกินค่าคอมมิชชั่นจากการขาย)
และด้วยพรสวรรค์ บวกพรแสวง เบลฟอร์ ได้กลายมาเป็นนักโบรกเกอร์ชื่อดัง ที่ทางสำนักข่าวของอเมริกาให้ฉายาว่า "หมาป่าแห่งวอลสตรีท"
ภาพตัวอย่างจากหนัง
หรืออีกชื่อที่ว่า >นักขายหุ้นในคราบโรบินฮู้ด< ปล้นเงินจากคนรวยมาเข้ากระเป๋าคนจน (ก็คือกระเป๋าเขาเอง55)
หลายๆคนคงสงสัยใช่ไหมว่า ทำไมถึงใช้คำว่า"ปล้น"
เพราะแท้จริงแล้ว การขายหุ้นของ เบลฟอร์ นั้นเป็นการขายแบบ"หลอกขาย"อย่างไงล้าาา 555
ภาพตัวอย่างจากหนัง
ต้องบอกเลยว่า ถ้าเพื่อนๆ คนไหนอยากรู้ระเอียด ความเป็นมาของคำว่า"หมาป่าแห่งวอลสตรีท" ว่าเขามีกลยุทธ์อย่างไร
ในการขายหุ้นให้ได้คืนล่ะ 100 ล้านบาท
เพื่อนๆต้องไปหาดูเอง เพราะไม่อยากสปอยจริงๆ เดี๋ยวหมดสนุก ขอการันตรีเลยว่า เป็นหนังเกี่ยวกับธุรกิจ ที่ดูไม่เบื่อ ลุ้นทุกฉาก สนุกทุกตอน ล่ะมุกตลกร้ายในหนังนี้ทำเอาจี้ใจไปหลายวัน (คันปากอยากสปอยมาก😭)
แต่สิ่งสำคัญที่ได้จากหนังเรื่องนี้ นอกเหนือจากความสนุกตลกร้าย คือการได้เห็นเทคนิค! กลยุทธ์! ทักษะ! เกี่ยวกับการขายที่ไม่จำเป็นต้องเสียเงินเข้าเรียนคอร์สแพงๆเลยนั่นเอง
อย่างฉากในตำนานกับการ "ขายปากกา"
ภาพตัวอย่างจากหนัง
ที่ตัวหนังนำเสนอออกมาได้ดีมาก โดยการถ่ายทอดให้เห็นภาพถึง เทคนิคการขายระดับเซียน ที่ไม่จำเป็นจำต้องสาธยายสรรพคุณปากกาด้ามนี้...แต่คำพูดเพียงประโยคเดียว กับทำให้เราอยากซื้อปากกาด้ามนั้นทันที!!
สุดมากบอกเลย!! ต้องไปดูเองจริงๆ ไม่ใช่ว่าแอดจำไม่ได้นะ แต่อยากให้หาหนังมาดูแล้วอินกับมันไป ในแต่ล่ะฉากแต่ล่ะตอนของหนังเรื่องนี้ บอกได้เลยว่า ดูจบอยากออกมาเป็นเซลล์เลยจ้าพี่จ๋า 😂😂
เครดิตภาพจากกูเกิ้ล
แต่สิ่งที่สำคัญไปกว่ากลยุทธ์ทางการขายต่างๆ คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงของนาย จอร์เดน เบลฟอร์ ที่ถึงแม้เขาจะมีทักษะการขายมากเพียงใด...จะมีความฉลาดเป็นกรดแค่ไหน
แต่สุดท้ายแล้วความโลภ...ความละโมบในจิตใจคน ก็สามารถทำให้จากคนเคยหาเงินได้คืนล่ะหลายล้านบาท
ต้องกลายมาเป็นหนี้ท่วมหัว ใช้ไม่หมดในชาตินี้ เพราะระยะเวลาใช้หนี้ที่ เบลฟอร์ ต้องชดใช้จากการกระทำครั้งนี้ นั้นมากถึง > 1,600 ปี!! <(ใครจะไปอยู่ใช้หนี้หมดฟร่ะ!)
ภาพซ้ายตัวจริง/ภาพขวานักแสดง
และนี้คือเรื่องจริง และเหตุการณ์จริงทั้งหมดของชีวิต จอร์เดน เบลฟอร์ ได้ถูกถ่ายทอดไว้ในหนังเรื่องนี้เรียบร้อย
อยากแนะนำให้เพื่อนๆ ที่เมื่อมีเวลาว่าง ลองหาหนังเรื่องนี้มารับชม ถึงแม้เราจะไม่ได้เป็นเซลล์ขายของตั่งต่าง
แต่หนังก็สะท้อนให้เห็นถึงรูปแบบการใช้ชีวิต ที่สุดโต่งเหนือคำบรรยาย ไม่ว่าจะขยันทำงานเกิ้น จนรวยล้นฟ้าได้ก่อนอายุ 30 หรือเลือกใช้สารเสพติด ให้ชีวิตมีสีสัน~
จนในท้ายที่สุด การกระทำเหล่านั้นก็จะพาเรากลับมาอยู่จุดเดิม ย้อนคืนสู่สามัญ...นั่นเอง...
ปล.ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงประโยคสุดท้ายนะฮ่ะ ^^💕
#ใครรู้ตัวว่าอ่านมาจนถึงตรงนี้ 👀 รบกวนกดไลค์ กดติดตาม ให้ด้วยนะจ้ะพี่จ๋าาา 😂☺️
โฆษณา