12 ก.ค. 2020 เวลา 08:07 • การตลาด
การคิดว่า "จะพูดอะไรดี" เป็นเรื่องของการสื่อสารด้วยคำพูด แต่การคิดว่า "จะพูดอย่างไรดี" เป็นเรื่องของการสื่อสารโดยไม่ใช้คำพูด
การสื่อสาร มี 2 ส่วน คือ จากคำพูด และ ไม่ใช้คำพูดซึ่งหมายถึง น้ำเสียง แววตา ท่าที และจังหวะจะโคนของการส่งข้อมูลให้อีกฝ่ายรับรู้
เครดิตภาพ Richard Darell จาก Pinterest
ความเงียบ ก็เป็นการสื่อสาร อีกอย่างหนึ่งเช่นกัน
การพูด เป็นการสื่อสารที่ตรงไปตรงมาและง่ายที่สุด แต่การพูดให้น่าฟัง ให้เข้าถึงหัวใจการรับรู้ของอีกฝ่าย สบตาผู้ฟัง มีภาษากายที่ดี มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากันเช่นกัน
พูดในเวลาที่เหมาะสม พูดด้วยกิริยาที่แสดงความจริงใจ พูดด้วยน้ำเสียงที่สบายหู หรือ มีโทนเสียงที่เน้นความสำคัญในเรื่องที่จะสื่อ
1
การแสดงความคิดเห็นที่ต้องการสะท้อนความตรงไปตรงมา โดยหวังให้ผู้ฟังพัฒนาดีขึ้น การเรียบเรียงประโยค สำคัญอย่างไร ลองดูตัวอย่างนี้กันค่ะ
เช่น ลูกน้องของเราคนนี้ทำงานเก่งแต่เขาชอบมาสาย เราอยากให้เขาปรับปรุงตัว
ถ้าเราพูดโดยใช้วิธี No But
"ระยะนี้คุณมาสายบ่อยมาก อุตส่าห์ทำยอดขายได้ดีแท้ๆ แบบนี้ก็เท่ากับเปล่าประโยชน์"
ถึงคุณจะชมเขาว่าทำยอดขายได้ดี แต่ขึ้นต้นประโยคแบบนี้ เค้าก็ปิดหู ไม่ฟังคุณไปแล้ว
มีวิธีพูดเกริ่นนำ 3 วิธี มาแนะนำค่ะ
1.วิธี Yes But
พักนี้ยอดขายของคุณเพิ่มมากขึ้น คุณพยายามได้ดีมาก แต่ติดที่คุณมาสายบ่อย ช่วยรักษาเวลาด้วยนะ
2.วิธี Yes And
พักนี้ยอดขายของคุณเพิ่มขึ้น พยายามได้ดีมาก ถ้าคุณรักษาเวลาเข้างานได้ด้วยจะยิ่งดีมาก
3.วิธี Yes How
พักนี้ยอดขายของคุณเพิ่มขึ้น พยายามได้ดีมาก เรามาช่วยกันคิดดีกว่า ว่าจะทำยังงัยให้ดีขึ้นไปอีก
[ใช้รูปแบบคำถามให้เจ้าตัวคิดทางออก โดยเลี่ยงการตำหนิตรงๆหรือเขาอาจจะมีเหตุผลที่ไม่ได้บอกเรามาก่อนก็ได้]
สังเกตุว่า แค่เรียงลำดับคำชมมาก่อน และ ใช้คำเชื่อมที่เหมาะสม การสื่อสารนี้ ก็ทำให้คนฟังยอมรับสารที่เราจะสื่อแล้ว
เพียงแค่เราให้ความสำคัญกับการ "สื่อสารโดยไม่ใช้คำพูด" ให้มากขึ้นอีกเพียงเล็กน้อย ทักษะในการสื่อสารของคุณจะเพิ่มขึ้นอย่างมากอีกแน่นอนค่ะ
ขอบคุณข้อมูลส่วนหนึ่งจากหนังสือ The Power Of Output เขียนโดยนายแพทย์ ชิออน คาบาซาวะ
ติดตามบทความอื่นๆ เรื่องการวางแผนทางการเงินส่วนบุคคล ได้ที่ https://bit.ly/2F97u1M
โฆษณา