15 ก.ค. 2020 เวลา 11:31 • ท่องเที่ยว
คนป่าแห่งอันดามัน! ทำความรู้จัก 'เซนติเนล' ชนเผ่าผู้ปฏิเสธโลกภายนอก แบบ 10 ข้อรู้เรื่อง
WIKIPEDIA PD
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
แม้ว่าโลกของเราจะก้าวสู่ศตวรรษที่ 21 และนี่คือยุคสมัยที่มีเทคโนโลยีเจริญรุดหน้าไปมาก แต่ยังมีกลุ่มคนหรือชนเผ่ากลุ่มหนึ่งที่ปฏิเสธกระแสโลกาภิวัตน์จากโลกภายนอก แต่เลือกที่จะใช้ชีวิตอย่างคนยุคหิน และนี่คือเรื่องจริงของชนเผ่าเซนติเนล ที่อาศัยอยู่บนเกาะเซนติเนลเหนือในทะเลอันดามัน พวกเขาตัดขาดการติดต่อจากโลกภายนอกและปกป้องเกาะด้วยมาตรการที่เข้มงวดและรุนแรง จนไม่มีใครกล้าเข้าไปสำรวจพื้นที่ภายในเกาะ
เพื่อทำความเข้าใจพวกเขาได้มากขึ้น เราได้สรุปสาระสำคัญ 10 ข้อ เกี่ยวกับชนเผ่าเซนติเนล ผู้ปิดกั้นตัวเองจากโลกภายนอก
1. เกาะเซนติเนลเหนือ ตั้งอยู่ในอ่าวเบงกอล เป็นหนึ่งในหมู่เกาะอันดามัน โดยอยู่ห่างจากอินเดียประมาณ 1,736 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากเกาะสุมาตรา 1,683 กิโลเมตร เกาะแห่งนี้เกิดจากแผ่นดินไหวจนทำให้แผนเปลือกโลกยกสูงขึ้นมาหนึ่งถึงสองเมตร หลังจากที่เกิดเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ค.ศ.2004 ได้ทำให้สภาพภูมิศาสตร์ของเกาะเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย กล่าวคือเกาะคอนสแตนท์ที่อยู่ห่างจากเกาะเซนติเนลทางทิศตะวันออกเฉียวใต้ราว 600 เมตร ได้เชื่อมติดกับเกาะเซนติเนลเหนือ หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวสึนามิ
1
WIKIPEDIA PD
2. หมู่เกาะอันดามัน ประกอบไปด้วยชนเผ่าต่าง ๆ มากมาย ได้แก่ชนเผ่าเนกริโต้ ที่เชื่อกันว่าอพยพมาจากทวีปแอฟริกา มาตั้งรกรากในแถบทะเลทางตอนใต้ของประเทศอินเดีย ทางตอนใต้ของประเทศไทย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ แต่ชาวเซนติเนลเป็นชนเผ่าที่ยากจะเข้าถึง แม้คนจากโลกภายนอกพยายามจะติดต่อสื่อสารกับเขามาตั้งแต่ ทศวรรษ 1800 แต่ก็ถูกต่อต้านกลับมา เชื่อกันว่าพวกเขาไม่ต้องการติดต่อกับคนภาย นอก มันเป็นการคาดเดาลอย ๆ เท่านั้น บางอย่างที่ทำให้คนในเผ่าต้องล้มป่วยจน เสียชีวิตก็เป็นได้
3. ครั้งแรกที่โลกยุคใหม่ได้ยินเรื่องราวของชนเผ่าเซนติเนล เกิดขึ้นราวปี ค.ศ.1980 ในตอนนั้นนักสำรวจพยายามติดต่อกับชนเผ่าเซนติเนล แต่พวกเขาก็ล้มเหลวเนื่องจากกำแพงภาษา เพราะไม่มีใครเคยรู้จักภาษาเซนติเนลมาก่อน เชื่อกันว่าชนเผ่าเซนติเนลไม่ติดต่อกับคนภายนอกเลย จึงทำให้เชื่อได้ว่าภาษาของพวกเขาแตกต่างจากภาษาของชนเผ่าอื่นในบริเวณใกล้เคียง จึงทำให้ภาษาเซนติเนลยังคงเป็นความลับจนถึงทุกวันนี้
4. ด้วยพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงของชนเผ่าเซนติเนล จึงทำให้ไม่มีใครรู้จำนวนประชากรที่แท้จริงบนเกาะเซนติเนลได้ ในปี ค.ศ.2011 ทางการอินเดียระบุจำนวนตัวเลขประชากรชนเผ่าเซนติเนลอยู่ที่ 15-500 คน พร้อมกับระบุทิ้งท้ายว่า มันเป็นการคาดเดาคร่าว ๆ เท่านั้น
WIKIPEDIA PD
5. มีการคาดการณ์ว่าชนเผ่าเซนติเนล คือชนเผ่าเรร่อนโบราณ ที่มีความคล้ายคลึงกับคนยุคหินสมัย Paleolithic พวกเขาใช้คันธนูและลูกศรในการล่าสัตว์น้ำและล่าเหยื่อ พวกเขาอาศัยอยู่ในชุมชนเล็ก ๆ ที่ประกอบไปด้วยกระท่อมที่ทำมาจากฟางและใบไม้ ส่วนประเด็นเรื่องการใช้ไฟ นี่เป็นประเด็นที่นักวิจัยยังคงถกเถียงกันอยู่จนถึงทุกวันนี้ บ้างก็ว่าพวกเขาไม่รู้จักการใช้ไฟ แต่บางคนก็เชื่อว่าพวกเขาน่าจะรู้จักการใช้ไฟโดยการใช้หินหรือสะเก็ดไฟจากฟ้าผ่า
มีข้อมูลที่น่าสนใจก็คือ ก่อนหน้านั้นชนเผ่าเซนติเนลใช้ลูกศรที่ทำมาจากไม้ เนื่องจากพวกเขาไม่รู้จักโลหะ แต่เคยมีเรืออับปางบนเกาะ และชนเผ่าเซนติเนลได้นำเหล็กและอลูมิเนียมจากลำเรือมาทำเป็นลูกศรอีกด้วย
6.ในวันที่ 26 ธันวาคม ค.ศ.2004 หลังจากเกิดเหตุการณ์สึนามิ รัฐบาลอินเดียได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ไปสำรวจความเสียหายบนเกาะเซนติเนล พร้อมกับประกาศแจ้งเตือนชนเผ่าบนเกาะ เจ้าหน้าที่พบว่าชนเผ่าเซนติเนลสามารถปรับตัวรับกับสถานการณ์ได้ดี จนทำให้เชื่อว่าชนเผ่าเซนติเนลมีองค์ความรู้ที่ถ่ายทอดมาจากยุคโบราณ โดยการศึกษาการเคลื่อนไหวของลมและนก บ้างกว่าพวกเขามีความสามารถในการดมกลิ่นและวัดความลึกของทะเลด้วยไม้พายของพวกเขาอีกด้วย
1
WIKIPEDIA PD
7. ในปี ค.ศ.1880 มัวริช วิดัล พอร์ทแมน นายทหารเรืออังกฤษ นักสำรวจ และผู้ดูแลความสงบเรียบร้อยอาณานิคมของอังกฤษในแถบทะเลอันดามันและนิโคบาร์ ได้เข้ามาสำรวจเพราะเซนติเนลเหนือพร้อมกับทหารกลุ่มหนึ่ง เมื่อพวกเขามาถึงเกาะ ก็พบว่าชาวเกาะได้หลบหนีไป ระหว่างนี้พอร์ทแมนและลูกทีมเลยเข้าไปสำรวจภายในเกาะ ก็พบกับหมู่บ้านที่ถูกทิ้งร้าง หลังจากนั้นพอร์ทแมนก็พบกับครอบครัวชาวเกาะกลุ่มหนึ่ง พอร์ทมแมนเลยพาพวกเขาออกมาจากเกาะ แต่ไม่นานชาวเกาะกลุ่มนั้นก็เสียชีวิต พอร์ทแมนกล่าวว่าเขาพยายามผูกมิตรกับชาวเกาะ ด้วยการให้ของขวัญกับเด็ก ๆ ชาวเกาะ แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น เพราะดูเหมือนว่าการมาเยือนของคนภายนอกเป็นหายนะสำหรับชาวเกาะ
8. ย้อนกลับไปในปี ค.ศ.1974 เคยมีผู้สื่อข่าวและนักสำรวจตะวันตกพยายามเข้าไปทำสารคดีเกี่ยวกับชนเผ่าเซนติเนล พวกเขานำมะพร้าว เครื่องครัวอลูมิเนียม หมูสด และตุ๊กตา เพื่อนำไปเป็นของขวัญให้ชนเผ่าเซนติเนล แต่ชนเผ่าเซนติเนลกลับต้อนรับนักสำรวจกลุ่มนี้ด้วยลูกธนู ภายหลังคณะนักสำรวจจึงถอยออกไป ส่วนชนเผ่าเซนติเนลก็ทำลายข้าวของที่นักสำรวจกลุ่มนั้นนำมาให้และโห่ร้องด้วยความยินดี
WIKIPEDIA PD
9. ในช่วงปลายยุค 60 รัฐบาลอินเดียพยายามสำรวจบริเวณเกาะเซนติเนล โดยหลีกเลี่ยงการปะทะกันชนผ่าเซนติเนล เมื่อพวกเขาเข้าไปสำรวจก็พบกับกระท่อมชองชาวเกาะจำนวน 18 หลัง ที่สามารถรองรับผู้คนได้ราว 40 – 50 คน ภายหลังเจ้าหน้าที่กลุ่มนั้นได้กล่าวว่า ชนเผ่าเซนติเนลดูไม่พอใจเลยที่เห็นพวกเขา สังเกตได้จากการที่พวกเขาเล็งธนูเตรียมยิงพวกเขาตลอดเวลา
10. เกาะเซนติเนลถูกประกาศให้เป็นพื้นที่ต้องห้ามโดยรัฐบาลอินเดีย หากใครที่เดินทางเข้าไปใกล้เกาะแห่งนี้ จะต้องพบกับการขับไล่ของชนเผ่าเซนติเนลด้วยลูกธนู แต่ก็ยังมีคนแอบลักลอบเข้าไป ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.2018 โจ อัลเลน มิสชันนารีชาวอเมริกันแอบลักลอบเข้าไปในเกาะ โดยติดสินบนชาวประมงอินเดียให้แล่นเรือเข้าไปในเกาะเซนติเนล ชาวประมงเตือนเขาไม่ให้เข้าไปในเกาะ แต่โจไม่ฟัง เขาพายเรือแคนูเข้าไปในเกาะ ชาวประมงเล่าว่าโจได้รับบาดเจ็บการการถูกยิงด้วยธนู แต่เขาก็ไม่ล้มเลิกความตั้งใจ ยังคงพยายามเข้าไปติดต่อกับชนเผ่าเซนติเนล
1
ภายหลังชาวประมงที่พาโจลักลอบเข้าไปในเกาะเซนติเนลถูกจับกุม ชาวประมงกลุมนี้เล่าว่า เห็นโจถูกชนเผ่าเซนติเนลลากตัวไปมาบนเกาะ จึงทำให้เชื่อว่าเขาน่าจะเสียชีวิตแล้ว
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา