16 ก.ค. 2020 เวลา 13:01 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ทางรอดของวิกฤตในครั้งนี้คือ เก็บเงินสด (6/7/63)
พิธีกร
ใครหลายๆคนก็มีการเตือนถึงวิกฤตที่กำลังจะเกิดขึ้น
แต่ก็มีคนที่เชื่อบ้างและไม่เชื่อ สนใจเเละไม่สนใจ
แต่พอผู้ชายคนนี้มาพูดว่าให้เก็บเงินสดไว้
เงินสดคือพระเจ้า ทำให้ใครหลายหลายคนกลับให้ความสนใจ เเละเขาคนนี้ได้พูดออกมาจากประสบการณ์ของเขาโดยตรง คุณศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ
คุณศิริวัฒน์
ผมเคยเจ๊งมาเเล้วตอนปี 40
เป็นหนี้เกือบพันล้าน ตอนอายุ 48
ผมเข้าใจความรู้สึกของคนที่เป็นหนี้
คนไทยในตอนนี้ 20-30 ล้านคน
เป็นหนี้ภาคครัวเรือน 12 ล้านล้านบาท
(79% ของ GDP)
ก่อนหน้านี้เศรษฐกิจไทยก็ไม่ดีอยู่แล้ว พอมาเจอ Covid ในครั้งนี้ ผมกำลังเห็นสึนามิที่กำลังซัดเข้ามา
เรากำลังออกจากยุคเศรษฐกิจรุ่งเรืองเข้าสู่
ยุคเศรษฐกิจฝืดเคือง
ในปี 40 การลงทุนในประเทศไทยขยายตัวมาก
ธนาคารพาณิชย์ต่างให้ดอกเบี้ยเงินฝาก
ในจำนวนที่สูงมาก (ระดับ 16%)
บริษัทใหญ่ๆต่างก็พากันกู้เงินจากต่างประเทศ (ดอกเบี้ยถูกกว่า) เเละในช่วงเวลานั้นเองนาย
George Soros ได้มองเห็นว่า
ค่าเงินบาทมันเเข็งเกินไป
มันเป็นไปไม่ได้ ส่งออกเราไม่โต
เเต่นำเข้าเราโต เขาเลยมาโจมตีค่าเงินบาท
สึนามิลูกที่หนึ่ง : การท่องเที่ยว
NPL ของธนาคารพาณิชย์สูงระดับ 50%
จนต้องมีการเพิ่มทุนเข้ามา
หลังจากเหตุการณ์นั้น ค่าเงินบาทที่อ่อนตัว
รายได้จากการท่องเที่ยวในปี 40
2 เเสนล้านบาท ผ่านมา 20 ปี รายได้จากการท่องเที่ยวของเราในปี 62 คือ 1.9 ล้านล้านบาท
เพิ่มขึ้นระดับ 10 เท่าตัว เเละเพราะรายได้จากส่วนนี้เเหละทำให้เศรษฐกิจของเรายังคงอยู่ได้
ก่อน Covid เราก็เเย่อยู่เเล้ว พอ Covid เข้ามา
ทำให้เครื่องจักรที่สำคัญของเราอันนี้ต้องหยุดลงไป
ผมเชื่อว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวของเราต้องหายไปเยอะมากๆ คุณคิดว่าหลังจากนี้จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามากี่คน
หลายๆประเทศเกิด Covid รอบ 2 มันจึงเป็นเรื่องที่ยากมากที่การท่องเที่ยวจะกลับมา
GDP ของเราคือ 16 ล้านล้านในปีที่เเล้ว
ผมขอฟันธงเลยนะครับ GDP ปีนี้ 2563
จะติดลบในระดับ 10-20% !!
รายได้จากการท่องเที่ยวเเทบจะหายไปเลย
ส่งออกไม่ต้องพูดถึง
ปี 40 เรายังมีการท่องเที่ยวมาช่วยไว้
เเต่ครั้งนี้มันไม่ใช่ นี้คือสึนามิลูกใหญ่
ผมก็เป็นเจ้าของกิจการ
ไม่มีเจ้าของกิจการคนไหน ที่อยากจะปลดลูกน้อง
หรือลดเงินเดือนลูกน้อง
เเต่เพราะเขาพยายามยื้อมามากเเล้ว เเต่มันไม่ไหวจริงๆ
สึนามิลูกที่สอง : หนี้สิน
คุณศิริวัฒน์
การลดหรือขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์จะค่อยๆปรับขึ้นหรือปรับลงทีละ .25 เเต่ในครั้งนี้กลับลงมาทันที 1% เเสดงว่าพวกเขารู้ว่า ถ้าเขาเอาเงินฝากจากประชาชนมาปล่อยกู้ โอกาสจะเป็น NPL มันสูงมาก
การที่เขาลดอัตราดอกเบี้ยก็เพื่อลดต้นทุนของตัวเอง
มันก็สะท้อนให้เห็นถึงวิกฤตที่กำลังจะมา
หลายๆคนถามผมว่ามีเงินฝากไว้ในธนาคารดีมั้ย
ผมก็ตอบว่าดี ในตอนนี้มีเงินสดดีกว่าไม่มีเลย
Cash is King
พิธีกร
มีหลายๆคนบอกว่าการทำเเบบนี้มันเห็นแก่ตัวรึเปล่า
เงินมันไม่หมุนเวียน เศรษฐกิจมันก็ไม่เติบโต
ตกลงมันยังไงกันเเน่
คุณศิริวัฒน์
ผมเปรียบเทียบเป็นคนสองคน
เงินเดือน 15,000คนเท่ากัน คนนึงเก็บเงินออม
อีกคนใช้หมด ผ่านไปหกเดือน คนที่ออมเงินจะมีเงินเก็บเเละสภาพจิตใจที่ดีกว่า
เงินออมกับเงินที่กู้ ดอกเบี้ยมันต่างกัน
สมัยก่อนผมกู้ดอกเบี้ย 19 % ผมยังเจ๊งเลย
ดอกเบี้ยผู้ปล่อยกู้ทั้งหลายในตอนนี้ เเม้จะมีการปรับลดลงมาเเต่ก็ยังสูงถึง 24%
24%-25% จะรอดหรอครับในสภาพเศรษฐกิจเเบบนี้
เราจำเป็นต้องช่วยกันระหว่างเจ้าหนี้เเละลูกหนี้
โรงเเรม ร้านอาหารก็เปิดไม่ได้ มันยังไม่เเน่นอน
เราต้องประเมินว่าถ้าเหตุการณ์มันเลวร้ายสุดๆเรามีรายได้ระดับนี้เราควรจะทำอย่างไร
สรุปง่ายๆเลย คือเก็บเงินสดจบ !!
พิธีกร : มีคุณผู้ชมถามเข้ามา
เราควรจะถอนเงินออกจากธนาคารมั้ยครับ ?
คุณศิริวัฒน์
เก็บเงินสดในรูปแบบไหนก็ได้ครับ
เก็บไว้ที่ตัวหรือเก็บไว้ที่ธนาคาร
บางคนก็ถามผมมาว่า อยากจะซื้อทองคำ
แต่ผมบอกว่าราคาทองคำวันนี้มันค่อนข้างสูง
โอกาสเสี่ยงที่คุณจะขาดทุนทองคำมันเยอะ
เพราะงั้นปลอดภัยที่สุดคือฝากไว้ในธนาคาร
วันนี้ผมบอกได้เลยครับว่าระบบธนาคารพาณิชย์แข็งแรงมาก ธนาคารพาณิชย์ได้รับบทเรียนที่เจ็บปวดมาแล้วในปี 40 เขาพร้อมมากจนกระทั่งที่จะไม่จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลตามที่แบงก์ชาติสั่งมา
แบงก์ชาติทำหน้าที่ได้ดี แบงก์พาณิชย์ก็พร้อม
พิธีกร
คนหลายๆคนมองว่ามันเป็นโอกาสหรือเปล่าครับ ตอนนี้ราคาหุ้นมันถูก ตอนนี้หุ้นอยู่ที่ 1300 กว่า คุณศิริวัฒน์ในฐานะที่เคยเป็นเเมงเม่าบินเข้ากองไฟมาก่อน เห็นโอกาสตรงนี้บ้างมั้ยครับ หรือมีคำเตือนอะไรให้กับนักลงทุนครับ
คุณศิริวัฒน์
สำหรับผม ผมจะบอกทุกคน อย่าซื้อให้ขายให้หมด !!
สึนามิ ตลาดหุ้นก็กำลังจะมา
คุณศิริวัฒน์ครับ ก็มันขึ้นมาจากพันจุดไปพันสี่ร้อยจุด มันไม่ใช่โอกาสอีกหรอครับ
ผมจะบอกว่า พี่ พี่ลองไปดูก่อนนะว่าตลาดหุ้นวันนี้ที่เราอยู่ได้ ใครคือผู้ซื้อและผู้ขาย
คนที่ขายมากที่สุดในตอนนี้คือต่างประเทศ
และคนที่ซื้อมากที่สุดคือกองทุน
กองทุนในประเทศเขาจำเป็นต้องซื้อ เพราะเขาถือหุ้นในจุดที่สูงกว่า เขาจำเป็นต้องซื้อเพื่อพยุงเอาไว้ เพื่อไม่ให้เกิดการ Panic
กลุ่มที่สองคือรายย่อย ผมเลยบอกว่าให้รอก่อน เผลอๆหุ้นจะตกลงเกินกว่าพันจุดด้วยซ้ำ ผลประกอบการกำลังจะโผล่ออกมาเรื่อยๆ มันดูไม่จืดแน่นอน
นี้คือส่วนหนึ่งของวิดิโอนี้เท่านั้นครับ
คุณศิริวัฒน์ได้ถ่ายทอดความรู้ที่ออกมาจากประสบการณ์โดยตรง
บังอยากให้ทุกคนเข้าไปดูวิดิโอคลิปนี้นะครับ
จะดูระหว่างอาบน้ำ ตอนกินข้าว หรือระหว่างขับรถก็ได้ครับ
บังเชื่อว่าหลังจากที่ทุกคนดูวิดิโอคลิปนี้เสร็จ ทุกคนจะได้รับไอเดีย และความรู้ในการรับมือกับวิกฤติครั้งนี้แน่นอนครับ
เป็นกำลังใจให้กับทุกคนนะครับ
เพราะความรู้คือของขวัญที่ดีที่สุด📚
ตอนนี้บังได้สร้างซีรีส์อัลบั้มของบทความไว้เเล้ว
สำหรับคนที่สนใจสามารถติดตามอ่าน
ย้อนหลังได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้เลยนะครับ
ถ้าตลาดหุ้นกำลังจะถล่ม
เราอยู่ในจุดที่ต่ำสุดเเล้วหรือยัง ?

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา