ระยองมีความสำคัญ ต่อเศรษฐกิจไทย มากแค่ไหน?
ถ้าถามว่าจังหวัดที่มีรายได้ประชากรต่อหัว (GPP per Capita) สูงที่สุดในประเทศคือ จังหวัดไหน?
คำตอบก็คือ ระยอง
แม้ที่นี่จะเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่เพียง 3,552 ตารางกิโลเมตร
ใหญ่เป็นอันดับที่ 57 ของประเทศ
แต่ในแง่ของความสำคัญทางเศรษฐกิจ
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ที่นี่มีความสำคัญต่อประเทศไทยอย่างมาก
เรื่องนี้เป็นเพราะอะไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ระยอง เป็นจังหวัดทางภาคตะวันออกของประเทศและมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย และภาคอุตสาหกรรมไทยมาหลายสิบปี
ซึ่งถ้าเราพูดจึงจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ระยองเติบโตและก้าวมาเป็นเมืองอุตสาหกรรมของไทยต้องย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 40 ปีที่แล้ว
โดยรัฐบาลในสมัยนั้นต้องการทำโครงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออก หรือ Eastern Seaboard ขึ้นในปี 2524
โดยมีเป้าหมายคือ ต้องการเปลี่ยนอุตสาหกรรมเบามาเป็น อุตสาหกรรมหนัก และอุตสาหกรรมเชิงพาณิชย์ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศในระยะยาว
โดยระยองคือ หนึ่งในพื้นที่ที่มีศักยภาพในการดำเนินโครงการนี้..
Cr. WHA
เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ทำให้ มูลค่า GDP ของจังหวัด หรือเราเรียกกันว่า GPP (Gross Provincial Product) เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปี 2550 มูลค่า GPP ของจังหวัดระยองเท่ากับ 613,674 ล้านบาท
ปี 2560 มูลค่า GPP ของจังหวัดระยองเท่ากับ 984,980 ล้านบาท
ปัจจุบัน รายได้นอกภาคเกษตรกรรมของระยองมีสัดส่วนประมาณ 97% และรายได้จากภาคเกษตรกรรมมีสัดส่วนประมาณ 3% ของมูลค่า GDP ของจังหวัด
ขณะที่ GPP เฉลี่ยต่อหัวของคนระยองเท่ากับ 1.1 ล้านบาท สูงที่สุดในบรรดาทุกจังหวัดของประเทศไทย และมากกว่าอันดับที่ 2 อย่างกรุงเทพฯ ที่ 604,000 บาท เกือบ 2 เท่า
แต่ตัวเลขนี้ไม่ได้หมายความว่า ทุกคนในระยองจะมีรายได้มากขนาดนี้
ตัวเลขนี้เป็นการเอา GPP มาหารจำนวนประชากร
ซึ่งรายได้จะมาจากบริษัทขนาดใหญ่ที่อยู่ในจังหวัดนี้เป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่าจะมีอุตสาหกรรมที่ทำให้เกิดการจ้างงานจำนวนมากในระยอง
ดังนั้นโดยส่วนใหญ่แล้ว ประชาชนในระยองก็จะได้ผลประโยชน์จากการจ้างงานนี้เช่นกัน
ระยองยังเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีจำนวนนิคมอุตสาหกรรมถึง 13 แห่ง มากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากชลบุรีที่มีทั้งหมด 14 แห่ง
และหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อภาคเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของระยองคือ นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่ง เช่น โรงแยกก๊าซธรรมชาติ โรงกลั่นน้ำมัน โรงงานปิโตรเคมี โรงไฟฟ้า
Cr. Hilight Kapook
ในปี 2562 ระยองมีจำนวนโรงงานทั้งหมด 3,057 แห่ง มีจำนวนคนงานประมาณ 182,000 คน
ที่น่าสนใจคือ โรงงานเหล่านี้มีมูลค่าเงินลงทุนรวมกันถึง 1.4 ล้านล้านบาท มากที่สุดในบรรดาทุกจังหวัดของประเทศไทย ซึ่งมูลค่าเงินลงทุนทั้งหมดมีสัดส่วนกว่า 8% ของมูลค่า GDP ประเทศไทย
นอกเหนือจากจังหวัดใหญ่ๆ อย่างกรุงเทพฯ ชลบุรี สมุทรปราการ ที่เป็นจังหวัดสำคัญที่นำส่งภาษีจำนวนมากให้แก่รัฐบาลแล้วนั้น ระยองก็เป็นหนึ่งจังหวัดที่จ่ายภาษีให้สรรพากรมากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศด้วย
ปี 2560 จำนวนเงินภาษี 86,898 ล้านบาท
ปี 2561 จำนวนเงินภาษี 101,270 ล้านบาท
ปี 2562 จำนวนเงินภาษี 98,092 ล้านบาท
โดยในปีล่าสุด จำนวนภาษีที่กรมสรรพากร สามารถเก็บได้จากจังหวัดระยองนั้นมีสัดส่วนประมาณ 5% ของภาษีที่สรรพากรเก็บได้ทั้งประเทศที่ประมาณ 2 ล้านล้านบาท
การเจริญเติบโตของระยอง ระบบโครงสร้างพื้นฐาน ระบบคมนาคมที่ได้รับการลงทุนพัฒนาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ในปี 2560 หนังสือพิมพ์ Financial Times ได้ตั้งฉายาให้แก่ระยองว่า เป็นหนึ่งในเมืองแห่งอนาคตในเอเชีย-แปซิฟิก
Cr. DDProperty
นอกจากนี้ ในปัจจุบัน ระยองยังถูกตั้งให้เป็นพื้นที่สำคัญสำหรับการพัฒนาโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่สำคัญ หลายแห่ง เช่น
- โครงการรถไฟความเร็วสูง สายกรุงเทพฯ-ระยอง เชื่อมโยง 3 สนามบิน
- การพัฒนาโครงข่ายขนส่งทางบก โดยเฉพาะทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์)
- โครงการพัฒนาท่าเรือมาบตาพุดเฟส 3
- โครงการพัฒนาสนามบินนานาชาติอู่ตะเภาให้เป็นสนามบินเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบ รองรับการเป็นเมืองอุตสาหกรรมการบินและศูนย์กลางของการบินในภูมิภาค โดยในปี 2561 มีจำนวนผู้มาใช้บริการสนามบินอู่ตะเภาจำนวน 1.9 ล้านคน
Cr. MThai News
ด้วยความที่เป็นจังหวัดตั้งอยู่ติดชายฝั่งทะเล ระยองจึงมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเดินทางมาจำนวนมากเช่นกัน
โดยในปี 2560 มีจำนวนนักท่องเที่ยวมาที่ระยองกว่า 7.3 ล้านคน มากกว่าจำนวนประชากรในจังหวัดระยองเองประมาณ 10 เท่า สร้างรายได้การท่องเที่ยวกว่า 34,000 ล้านบาท
สรุปแล้ว ระยองนับเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมและเศรษฐกิจไทยมากที่สุดจังหวัดหนึ่ง
ดังนั้น เราลองนึกภาพว่า ถ้าเศรษฐกิจหรือภาคอุตสาหกรรมของที่นี่ต้องชะลอตัวลง
มันก็น่าจะกระทบกับประเทศไทยไม่น้อย เลยทีเดียว..
- 130
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
