15 ก.ค. 2020 เวลา 15:32 • ธุรกิจ
ช่วง 1-2 สัปดาห์นี้เกมการเมืองโลกก็จะค่อนข้างดุเดือดกันหน่อยนะครับ มีประเด็นหลายประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเกิดขึ้นอยู่ทุกวันไม่เว้นแต่ละวัน ประหนึ่งกำลังก่อสงครามจิตวิทยากันอยู่เลย
ทั้งจีน สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย อังกฤษ แคนาดา อินเดีย เยอรมนี ฝรั่งเศสต่างก็มีประเด็นพิพาทระหว่างตนเองกับอีกประเทศหนึ่งกันหมด เรียกได้ว่าปี 2020 นี้ผู้นำโลกนั้นแทบจะไม่ได้พักกันเลย
ความขัดแย้งคู่ล่าสุดที่กำลังเป็นประเด็นบนหน้าหนังสือพิมพ์ขณะนี้ก็คงไม่พ้นคู่ขัดแย้งระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกาที่ขัดแย้งกันมาหลายปีจากช่วงสงครามการค้าแล้ว แต่กรณีล่าสุดเห็นจะเป็นกรณีที่เกี่ยวข้องกับฮ่องกง และขบวนการประชาธิปไตยภายในฮ่องกง
ที่ตอนนี้อเมริกามองว่าจีนกำลังกระทำการเกินกว่าเหตุ และไม่ให้ความเคารพซึ่งสิทธิมนุษยชนของฮ่องกง วันก่อน Donald Trump จึงสั่งคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่พรรคคอมมิวนิสต์ของจีนในมณฑลซินเจียงไป
1
และวันต่อมาก็ประกาศว่ากฎหมายที่จะใช้ในการช่วยเหลือคนฮ่องกงพร้อมจะถูกนำออกมาใช้งานแล้ว ชื่อ Hong Kong Autonomy Act ที่ให้อำนาจรัฐบาลสหรัฐอเมริกาในการสั่งคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนภายในฮ่องกง
1
ทำให้จีนต้องออกมาตอบโต้ด้วยการประกาศคว่ำบาตรสมาชิกพรรค Republican ไปเป็นจำนวน 4 คน ทั้งวุฒิสมาชิก 2 คน นักการทูต 1 คน และ ส.ส. อีก 1 คน (อยู่พรรค Republican ทั้งหมด) ด้วยข้อกล่าวหาที่ว่าทั้ง 4 คนวิพากษ์วิจารณ์และไม่เคารพการตัดสินใจของรัฐบาลจีน
ล่าสุดเมื่อเย็นนี้รัฐบาลจีนได้ออกประกาศชุดใหม่มาเพิ่มแล้วว่าทางรัฐบาลจีนจะทำการสั่งคว่ำบาตรบริษัทยักษ์ใหญ่ Lockheed Martin ของสหรัฐอเมริกาเพิ่มอีก 1 บริษัทในฐานะมาตรการตอบโต้
และเป็นมาตรการลงโทษที่บริษัท Lockheed Martin ได้ทำการส่งอาวุธสงครามมูลค่ามากกว่า 600,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ มาขายให้รัฐบาลไต้หวันเมื่อสัปดาห์ก่อน ทำให้รัฐบาลจีนค่อนข้างโกรธ และไม่พอใจสหรัฐอเมริกาเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ดีการออกมาประกาศคว่ำบาตรบริษัท Lockheed Martin ของรัฐบาลจีนในตอนเย็นของวันนี้นั้นยังไม่มีรายละเอียดใดๆที่แน่ชัดว่าการคว่ำบาตรจะถูกสั่งออกมาในรูปแบบใด และมีผลบังคับใช้เมื่อใด วันไหน
ทางผู้สังเกตการณ์นั้นจึงได้ตั้งแง่สมมติฐานเอาไว้ว่าการคว่ำบาตรครั้งนี้ก็คงไม่มีอะไรมาก นอกจากเป็นมาตรการบลัฟกัน ข่มขู่ด้วยน้ำลายเหมือนเดิมแบบที่สหรัฐอเมริกาทำกับจีนช่วงก่อนหน้านี้
1
พูดง่ายๆคือเป็นเหมือนมาตรการทางจิตวิทยาและการทูตมากกว่าที่จะหวังผลทางเศรษฐกิจจริงๆ เพราะบริษัท Lockheed Martin ไม่ได้ทำธุรกิจกับรัฐบาลจีน หรือส่งของไปขายในจีนอยู่แล้ว
การประกาศคว่ำบาตรบริษัท Lockheed Martin จึงแทบไม่มีผลอะไรในทางตรงกับสหรัฐอเมริกา เพราะอาวุธที่บริษัท Lockheed Martin ขายก็มีลำดับสเป็คที่แตกต่างจากอาวุธสงครามที่กองทัพของจีนใช้งานอยู่
กรณีที่รัฐบาลจีนจะซื้ออาวุธจากรัฐบาลต่างชาตินั้นส่วนใหญ่ก็มักจะหันไปสั่งซื้อจากประเทศรัสเซียที่เป็นเพื่อนบ้านกันมากกว่า ไม่เคยคิดจะไปซื้ออาวุธสงครามจากอเมริกาอยู่แล้ว แถมเดี๋ยวนี้จีนก็มีโรงงานผลิตอาวุธสงครามเป็นของตัวเองอยู่แล้วด้วย
** ลูกค้าส่วนใหญ่ที่เป็นผู้ซื้ออาวุธสงครามจากบริษัท Lockheed Martin นั้นในแถบๆเอเชียแปซิฟิคนี้มีแค่ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน และสิงคโปร์เป็นหลักๆเท่านั้นที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่ของบริษัท
สินค้าที่บริษัท Lockheed Martin นี้ขายให้ประเทศเหล่านี้ก็มีทั้งจรวดมิสไซล์ เครื่องบินรบ เฮลิคอปเตอร์ เรือรบ รถถัง รถหุ้มเกราะ และอุปกรณ์ อะไหล่เทคโนโลยีทางการทหารอื่นๆ
ทำให้หลายๆฝ่ายเลยตั้งข้อสรุปกันว่าการตัดสินใจสั่งคว่ำบาตร Lockheed Martin ครั้งนี้น่าจะเป็นการกระทำที่มุ่งหวังผลทางการทูต และการกดดันทางจิตวิทยาเป็นหลัก ไม่ได้หวังทำลายเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา
โดยสรุปก็คือ ยังเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆกันอยู่ ไม่มีผลใดในระยะสั้นเหมือนเดิมครับ อย่างที่สหรัฐอเมริกาสั่งคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ในซินเจียงก็ไม่มีผลอะไร เพราะเจ้าหน้าที่ในซินเจียงไม่มีความจำเป็นอะไรต้องบินเข้าประเทศอเมริกาอยู่แล้ว
References
1. บทความจาก South China Morning Post ชื่อ "Beijing’s sanctions on Lockheed Martin diplomatic but not damaging, observers say"
2. บทความจาก Global Times ชื่อ "Lockheed Martin faces China's sanctions over Taiwan deal"
3. บทความจาก Anadolu Agency ชื่อ "China to impose sanctions on US' Lockheed Martin over Taiwan"
4. บทความจาก Wall Street Journal ชื่อ "China threatens to sanction Lockheed Martin over Taiwan arms deal"
5. บทความจาก Washington Post ชื่อ "China sanctions Lockheed Martin over Taiwan arms sales, but impact is minimal"
6. บทความจาก Bloomberg ชื่อ "China to impose sanctions on Lockheed Martin over Taiwan sale"
โฆษณา