15 ก.ค. 2020 เวลา 23:12 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
EP.37 สดแรกพบ
2
เรื่องรักอารมณ์ดี ดิบ ดุ เดือด!!!
ครั้งหนึ่งนักจิตวิทยานาม ‘Arthur Arun’ ได้ศึกษาว่าทำไมผู้คนถึงได้ตกหลุมรักกัน โดยให้อาสาสมัครของเขาดำเนินการตาม 3 ขั้นตอนดังนี้
1. มองหาคนแปลกหน้าที่ถูกใจ
2. เริ่มต้นพูดคุย โดยค่อยๆ เปิดเผยรายละเอียดส่วนตัวให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบ เป็นเวลาครึ่งชั่วโมง
3. จากนั้นจ้องมองลึกไปยังแววตาของอีกฝ่าย โดยปราศจากบทสนทนาเป็นเวลา 4 นาที
จากผลการทดลองพบว่าหลายๆ คู่คบหากันอย่างจริงจัง และมีสองคู่ที่ได้แต่งงานกันในท้ายที่สุด
ทีนี้เรามาดูอาการของ “Love at First Sight” หรือที่เรียกแบบไทยๆ ว่า “รักแรกพบ” กันบ้างครับ
นักจิตวิทยาได้ชี้ให้เห็นว่า ระหว่าง 90 วินาที ถึง 4 นาทีนั้น เป็นช่วงของการตัดสินใจว่าคุณจะชอบใครสักคนหรือไม่ จากการวิจัยแสดงให้เห็นว่า รักแรกพบนั้นจะมีอาการเหล่านี้แสดงออกมา เวลาที่ได้พูดคุยกัน
1. มีการแสดงออกผ่านภาษากายว่าชอบ 55%
2. มีการแสดงออกทางน้ำเสียง และความเร็วเวลาเปล่งคำพูดว่าชอบ 38%
3. แต่มีเพียง 7% เท่านั้นที่พูดออกมาตรงๆ (ส่วนใหญ่จะสงวนท่าที หรือว่าอายนั่นเอง)
ดังนั้นสังเกตกันเอาเองนะครับ ใครที่มั่นใจในตัวเอง ว่าสามารถปิดจ๊อบได้ควรรีบสานต่อนะ จะเป็นขอเบอร์โทรฯ แอดไลน์ ฯลฯ ก็ตามสะดวกเล้ย
แล้วไอ้การที่เราจะปิ๊งปั้งกับใครสักได้นั้น หลักๆ ก็คงหนีไม่พ้น รูปร่างหน้าตาที่ดูดี การแต่งกายที่เข้าที สีหน้า รอยยิ้ม หรือท่าทางที่ดูเป็นมิตร การพูดจาที่ไพเราะ รู้สึกสบายใจเมื่ออยู่ด้วย ฯลฯ
เอาจริงๆ นะครับ ไม่ว่าใครก็ล้วนอยากเป็น “คนที่ถูกเลือก” หรือ “คนที่ถูกรัก” กันทั้งนั้น จึงไม่ผิดอะไรถ้าแต่ละคนนั้นจะตั้งใจนำเสนอด้านที่ดี (สุดๆ) ของตัวเองกันอย่างสุดฤทธิ์ เพื่อกระตุ้นให้อีกฝ่ายนั้นสนใจ
แต่คงจะไม่ใช่กับหนังโฆษณาเรื่อง “สดแรกพบ” ของ ‘Fuji Cream’ ที่ผมยินดีนำมาเสนอในวันนี้
1
เพราะพวกเขาทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับคำว่า “ความประทับใจแรกพบ” อย่างสิ้นเชิง!!!
เรียกว่าที่ผมเขียนมาถึงบรรทัดนี้ไม่มีความหมายกันเลยทีเดียว!!! มันเป็นอย่างไรกันนะ...
มาครับ ผมจะเล่าให้ฟัง
“ตัวเองเปลี่ยนไปรู้ตัวปะ”
“แต่ก่อนตัวเองไม่ใช่คนแบบนี้” เริ่มต้นเรื่องด้วยหญิงสาวคนหนึ่งยืนต่อว่าคู่สนทนาที่อยู่ตรงหน้ารัวๆ แบบชุดใหญ่ไฟกระพริบ!!!
“ก็ใจเย็นๆ ฟังเค้าก่อนดิ” ฝ่ายชายพยายามปรามคนรักสุดฤทธิ์
“ตัวเองไม่รักเค้าแล้วเหรอ” เหมือนเธอไม่ฟัง เพิ่มเติมคือพยายามที่จะร้องไห้
“พูดไม่รู้เรื่องเหรอวะ” เขาขึ้นเสียงอย่างเหลืออด
“ไม่” เธอเองก็เสียงดังขึ้นไม่แพ้กัน
ภาพที่เห็นในตอนนี้คือการทะเลาะกันอย่างดุเดือดของชายหญิงคู่นี้ และอีกหลายๆ คู่
“พฤติกรรมทั่วไปของคู่รัก”
“มาถึงจุดที่เรียกว่า ‘หมดโปร’ ”
“อาจถือว่าเป็นสาเหตุใหญ่ของการเลิกรากัน”
“ของคู่รักในยุคนี้นะครับ”
“แต่มีคู่รักคู่หนึ่งที่ไม่คิดเช่นนั้นครับ”
“เราไปพบกับเค้าทั้งสองคน”
“คุณสมพงษ์ และ คุณเก๋ ครับ”
พิธีกรหนุ่มหล่อในชุดภูมิฐานผู้ดำเนินรายการ “Love เวอร์” ร่ายยาว ก่อนจะแนะนำให้รู้จักกับชายหญิงรูปร่างหน้าตาธรรมดาคู่หนึ่ง
“ทำไมสองคนนี้ถึงคิดไม่เหมือนคนอื่นครับ” พิธีกรตั้งคำถามกับแขกรับเชิญที่นั่งคู่กันอยู่บนโซฟา ไม่ห่างจากเขาสักเท่าไหร่
“เอ่อ ครับ ก็”
“พวกเรา”
“เลิกกับแฟนเก่าเพราะว่าหมดโปรมาก่อนครับ” สมพงษ์หนุ่มหน้าติดหนวดในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวลายสก๊อตตอบคำถามพิธีกร
“แล้วพอเราพบกันใช่ปะคะ”
“เราก็เลยเริ่มจีบกันจากช่วงหมดโปรก่อนเลยค่ะ” เก๋สาวอวบในชุดเสื้อยืดแขนยาวสีฟ้าเทากล่าวเสริมแฟนหนุ่ม
ณ ร้านอาหารสไตล์ยุโรปแห่งหนึ่ง ตอนนี้เหตุการณ์ในวันที่ทั้งคู่พบกันครั้งแรกได้ถูกฉายซ้ำอีกครั้ง
เก๋มาในชุดเสื้อยืดคอกลมกางเกงขาสั้นคีบร้องเท้าแตะ (เรียกได้เต็มปากว่าชุดอยู่บ้านอะนะ) เธอกำลังนั่งเท้าคางรอใครบางคนด้วยสีหน้าเซ็งสุดขีด
“เก๋ปะ” ที่เดินมาทักหญิงสาวก็คือสมพงษ์นั่นเอง เขามาในชุดเสื้อยืดสีตุ่นคอย้วย กางเกงขาสั้น เรียกว่าโทรมได้ไม่เขินปากเช่นกัน
“สมพงษ์ใช่ไหม” เธอถามลากเสียง
“อือ” เขาตอบห้วน ดึงเก้าอี้ออก แล้วนั่งร่วมโต๊ะกันกับเธอ
“มาสายขนาดนี้ไม่มาพรุ่งนี้ไปเลยล่ะ” เก๋เหน็บ
“นัดซะไกล”
“บ้าเหรอ”
“คราวหลังก็คนละครึ่งทางดิ” สมพงษ์เหน็บคืน
“พูดแบบนี้กลับบ้านไปเลยไป”
“หน้าแย่กว่าในโปรไฟล์ตั้งเยอะ”
“ไม่ว่าสักคำเลย” หญิงสาวกัดฝ่ายชายรัวๆ
“ในเฟซนมอย่างใหญ่ แหม”
“ของจริงก็ไม่เท่าไหร่นี่หว่า” ดูเหมือนสมพงษ์ก็ไม่ยอมเช่นกัน
“ทำไม”
“แต่งหน้าแล้วก็แต่งนมด้วยดิว่ะ” เก๋แจง
“โกง” สมพงษ์โวย
“เออ” เก๋ยอมรับกวนๆ
“กูจะฟ้องตำรวจ” สมพงษ์หมั่นเขี้ยว
“แค่ประโยคแรกก็สดถึงใจเลยค่ะ” เก๋ที่อยู่ในรายการ Love เวอร์ พูดยิ้มๆ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในอดีต
“จะแดกอะไร” สมพงษ์ที่ถือเมนูอยู่ในมือถามเก๋ไปแบบดิบๆ
“นี่ต้องหารด้วยปะเนี่ย” เก๋ถามกลับน้ำเสียงกวนแทนคำตอบ
“คือ”
“เรื่องเงินมัน”
“ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเราเลยอะครับ” สมพงษ์ที่อยู่ในรายการ Love เวอร์ เล่าหน้าเปื้อนยิ้มเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในร้านอาหารในวันนั้น
“หารดิ”
“ให้เราจ่ายคนเดียวรึไง”
“60/40” สมพงษ์แจ้ง
“เฮ้ย แมนๆ หน่อย”
“80/20” เก๋ต่อรอง
“70/30”
“เราจ่าย SERVICE CHARGE แกจ่ายภาษีโอเคไหม” สมพงศ์เจราจาครั้งสุดท้าย ก่อนจะสรุป
“โอเค”
“ดีล” เก๋ตอบตกลง
“FAIR TRADE” พิธีการถึงกับอุทานเมื่อได้ฟังเรื่องราวของทั้งคู่
ภาพตัดมาความทรงจำวันนั้นอีกครั้ง สมพงษ์เล่นเกมมือถืออย่างเอาเป็นเอาตาย
“เจอผู้ชายติดเกมอีกละ” เก๋ว่าพลางวางช้อนส้อม สีหน้าเหนื่อยหน่าย
“ติดซื้อของในเกมด้วย” สมพงษ์สวนกลับมาไม่มีกั๊ก
“เอางี้”
“ก่อนนอน กินข้าว นั่งสวน”
“ห้ามเล่นได้ปะ” เก๋ตั้งกติกาทันที
“หูย”
“ก่อนนอนด้วยเหรอ” สมพงษ์ถึงกลับครางเมื่อได้ยิน
“เออ” เก๋ตอบทันที
“งั้นไม่ถือของช้อปปิ้งให้นะ” สมพงษ์จัดกติกาฝ่ายเขาเอาคืนบ้าง
“อ้าว” เก๋อุทานดังลั่น
“เชี้ย ตายเลยมึง” สมพงษ์บ่นเมื่อเล่นเกมแพ้เพราะโดนรบกวนจากฝ่ายหญิง
“ผู้ชายสมัยนี้ แม่ง” เก๋ครวญ
ภาพในความทรงจำคือเก๋ที่หิ้วของพะรุงพะรังคอยคล้องแขนลากสมพงษ์ที่เอาแต่เล่นเกมอย่างเมามันให้เดินไปด้วยกันในตลาด
“คือ”
“ฝรั่งเรียก”
“ PROCESS นี้ว่า”
“BREAK THE ICE ครับ”
“หรือการละลายพฤติกรรม”
“แต่ผมเรียกว่า”
“LIVE AT FIRST SIGHT”
“หรือ สดแรกพบ”
“มันทำให้ผมกับเก๋”
“รู้จักธาตุแท้กันได้เร็วขึ้นครับ” ที่รายการ Love เวอร์ สมพงษ์ร่ายยาวก่อนควานมือเก๋มากุม
“ใช่ค่ะ”
“พอเราไม่มีโปรให้กันตั้งแต่แรกนะคะ”
“เราก็จะไม่คาดหวัง”
“แล้วเราก็จะไม่ผิดหวังอีกเลยค่ะ” เก๋กุมมือตอบสำทับตามสมพงษ์ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
นี่คือตัวอย่างบางส่วนของเรื่อง พฤติกรรมห่ามๆ ของทั้งคู่ยังมีอีกเยอะ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปแนะนำให้ทุกท่านดูด้วยตัวเองจะดีกว่าครับ
ดูตามลิ้งค์นี้ได้เลยนะ สนุกได้ข้อคิด เชื่อผม!!!
สดได้ไม่ต้องเติมแต่ง
Fuji Cream
สดแรกพบ
ความยาว 5:24 นาที
เผยแพร่เมื่อ 10 ส.ค. 2017

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา