16 ก.ค. 2020 เวลา 04:29 • บันเทิง
กบฏยังเติร์ก
แผ่นจารึกที่ขาดหาย
บทความนี้ เกิดขึ้นโดยบังเอิญ
ได้ไปคอมเม้นท์ เพื่อนในบีดี เรื่องอียิปต์
ภูเขาทอง ภาพจากวิกิพีเดีย
ลางร้าย หรือศุภนิมิต
ปีพุทธศักราช 2524
จำได้ว่า เป็นเดือนเมษายน
เป็นปีที่ เราเรียนจบโรงเรียนมัธยมในอำเภอ
และ เป็นปี ที่ต้องหาที่เรียนใหม่
.
คุณแม่ และพี่สาว มาส่งที่ตัวจังหวัด
เดือนเมษาฮาวาย
พี่สาวขับรถกระบะ ออกจากบ้านแต่ตีสี่
ให้ทันรถ เข้ากรุงเทพฯเที่ยวแรก
.
ลงรถสายหมอชิต
ต่อรถเมล์ ถึงอนุสาวรีย์ เคารพธงชาติพักนึง
นั่งสาย18 ถึงเชิงสะพานพระราม6
วิ่ง วิ่ง วิ่ง วิ่ง วิ่ง
เข้าสอบทันพอดี
.
กลับถึงตัวอำเภอมืด อาศัยรถโบกถึงบ้าน
ตื่นเช้า
ได้ยิน ผู้ใหญ่คุยกัน
เครื่องบิน ทหารอียิปต์ เอ๊ย
เครื่องบิน มาวนรอบเขา ในหมู่บ้าน หลายรอบ
.
เผอิญ ภูเขาลูกนี้
อยู่บน/ริมถนน304
เป็นปราการด่านสุดท้าย
ก่อนเข้ากรุง
เพื่อนพ้อง ก็ถาม
มรึงไปสอบ ในกรุงเทพฯ
ไม่เจอสไตส์เกอร์ รถถังบ้างรึ
เออ มองไม่เห็น มัวแต่มองสะพานพระราม6
.
คำ่ๆ ตามข่าวจากทีวี
อ๋อ เขามีปฏิวัติ
ปีนั้น ป๋า เป็นนายกได้สัก2ปี
พวกคุมกำลัง เริ่มทดสอบระบบ
.
และก็เป็นเรื่องประหลาด
ป๋า ก็ถูกเทสเรื่อย
แต่ไม่สามารถรีเซ็ตได้
นับจำนวนหลายครั้ง มากกว่าใคร
กระโดน
กะโดน แต่ไม่โดน
เป็นเรื่องที่แปลก
กะให้โดน
แต่ก็ไม่โดน
ครั้งเมษาฮาวาย เป็นครั้งที่สุดระทึก
.
เมื่อเครื่องทหาร บินหลายรอบ
ประเมินว่า อาจมีกำลังของเลข 7
ซุ่มซ่อนในภูเขา ริมทาง304
คณะปราบกบฏ เปลี่ยนแผน
ใช้การลำเลียงทางอากาศ
จากโคราช นำกำลัง เข้ากรุงเทพฯ
.
เมษาฮาวาย เป็นเหตุการณ์
ที่ใช้กำลัง มากที่สุด
และมีเรื่อง อกสั่นขวัญแขวน
อ่านจากออนไลน์ ภายหลังก็สั่นตามไปด้วย
16 ปีผ่านไป
ผ่านไป 16ปี
เหมือนนิยาย
เราก็ได้ไปทำงาน แถวสามเหลี่ยมทองคำ
เจอ ผรม.เป็นคุณลุง อายุ60กว่า มารับงาน
.
คุณลุง จ. ผู้รับเหมา
เป็นคนร่างสูงใหญ่ แม้สูงวัย ก็ยังแข็งแรง
คุยกันถูกคอ
ทราบว่า คุณลุงเป็นน้องชายของ
นายทหารใหญ่ ซอยมัยลาภ
.
" ใช่ครับ
เมษาฮาวาย ผมก็ไปร่วมกิจกรรมกับเขา
ผม อยู่บริเวณวัดเบญจฯ
ผม เห็นท่านนายกฯ เข้าไปสวนจิต
และก็
พวกคุมกำลัง ตรงนั้น เหมือนนะจังงัง
ไม่มีใคร ขวางท่าน "
.
ลุง จ.
เล่ารายละเอียด ให้ฟังหลายครั้ง
เพราะทำงานร่วมกัน นับเดือน
งานเสร็จ ก็ไม่เคยเจอกันอีกเลย
.
ถนนราชดำเนิน ถ่ายภาพตอนล็อคดาวน์
ผ่านไปอีก 16ปี
ปีพุทธศักราช 2556
ปลายปี
มี คณะลูกนายทหารผ่านศึกเวียดนาม
มาหาที่บ้าน ริมถนน304
.
"อยากให้ พาไปถนนราชดำเนิน หน่อย..."
ทำไม อะไรอีกแล้ว
นัดวันกัน
รถหนึ่งคัน จากถนน304
รถอีกคัน จากชลบุรี
เจอกันที่ สุวรรณภูมิ
.
ยกโขยง รวมกันคันเดียว
ไปถึง ถนนหลานหลวง ยังหัวค่ำ
จอดรถที่ บนถนนหลานหลวง
(นานๆ จะได้จอดบนถนนหลวง )
.
ยังไม่มีใคร กินอะไรกันมา
ก็ นั่งกินข้าว ร้านรอบเวทีปราศรัย
มีพิธีกร เป็นนักอ่านข่าว เสียงคุ้นๆ
และดาวเกิดใหม่ ลูกหลานตระกูลเก่า
ผลัดกันออกไมค์
.
ดูแล้ว เหมือนเป็นงานออกร้าน
มากกว่าเป็นการเคลื่อนไหว เรียกร้องท้องถนน
มีร้านรวง สินค้าที่ระลึกมากมาย
มี การ์ด มีคนเก็บขยะ
มีจิตอาสา ขับรถรับส่งคน
.
เมื่อคณะลูกทหาร ชุ่มฉ่ำกับงานออกร้าน
ก็ พากันเดินกลับ ข้ามสะพานผ่านฟ้า
บอกให้พวกเขา ข้ามไปก่อน
เหมือนกันกับ มีใครกำลังตามพวกเรามา
.
จำได้ว่า วันนั้นเป็นวันข้างขึ้นอ่อนๆ
เรา ยังเดินไม่ถึงสะพาน
ตามอง ดวงจันทร์ยอด เจดีย์ภูเขาทอง
ข้างหลัง มีคณะบุคคลคณะหนึ่ง
เดินจากแถวบริเวณวัดพระแก้ว
มาหยุดหลังเรา
.
หัวหน้า เป็นบุรุษร่างโปร่ง
ก้าวมายืน บริเวณหน้าแถว
" ครั้งนี้ นานหน่อยครับ..."
และกล่าวอะไร ฟังไม่ออก
อีกครู่หนึ่ง พวกเขาก็เดินหายไป
.
เมื่อเดินข้าม สะพานถึงรถ
ก็ บอกให้คณะดูงานออกร้าน
ตามที่ บุรุษปริศนารัตติกาล บอกไว้
ใน คณะนั้นมี ผู้ทำอภิญญาได้อยู่2 ท่าน
.
จากวันนั้น
ก็ ยาวนาน ตามที่บุรุษปริศนา กล่าวไว้
แม้ถูก เรือบินชน
ก็ยังไม่ถึงฆาต เหอๆ
บทส่งท้าย
บทความนี้ เขียนเพื่อการบันเทิง
ไม่เกี่ยวข้องกับ การเมืองฝ่ายใด
เขียนเท่าที่ทราบมา
ขอให้ผู้อ่านทุกท่าน ประสบความสำเร็จในชีวิต
สมประสงค์ คิดหวังสิ่งใดก็สำเร็จ
16 กรกฎาคม 2563
11:29 น.
ปล. แก้ไขชื่อเรื่อง 14:09 น.
ปล.2
โฆษณา