Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
หนัง4จอ
•
ติดตาม
16 ก.ค. 2020 เวลา 06:24 • บันเทิง
เคริท์ โคเบน และ กลิ่นของจิตวิญญาณวัยรุ่น
บ่ายวันศุกร์หลังเลิกเรียน เพื่อนนักเรียนม.ปลายบางกลุ่มของผมออกไปเล่นกีฬาตามแบบที่พวกเขาชอบ บ้างก็เล่นบาสเก็ตบอล บ้างก็ไปเตะฟุตบอล แต่ผมกับเพื่อนอีกคนแตกต่างออกไป วันนั้นผมได้ชวนเพื่อนสนิทมาที่บ้านหลังเลิกเรียนเพราะเพิ่งได้เทปคาสเซ็ทของวงฝรั่งชื่อแปลก หน้าปกเป็นรูปเด็กทารกกำลังว่ายน้ำและมีแบงค์ดอลล่าห์เป็นเหยื่อล่อ
“Nirvana เป็นชื่อของวงดนตรีวงนี้ เห็นในแมกกาซีนบอกว่า นี่เป็นวงดนตรีแนวใหม่ที่เรียกกันว่า กรันจ์ ร๊อค หรือ อัลเธอร์ อะไรสักอย่างนี่แหละ” ผมสาธยายให้เพื่อฟัง
“มันแปลว่าอะไรเหรอ อ๊อด กรันจ์ ร๊อค อะไรเนี่ย” เอ๋ เพื่อนสนิทของผมถามด้วยความสงสัย แม้เอ๋จะเป็นผู้หญิง แต่รสนิยมในการฟังเพลงเราคล้ายกันทำให้เราสนิทกันมาก
“ไม่รู้เหมือนกัน จำเขามาอีกที แต่มันฟังดูเท่ดีนะ แหะๆ” ผมหัวเราะแก้เขิน
เมื่อมาถึงห้องของผมที่พ่อแม่เช่าเอาไว้ให้ผมตอนที่มาเรียนต่อม.ปลายในกรุงเทพ แม้จะเป็นห้องเก่าๆ เล็กๆ แต่ด้วยความที่มันอยู่ไกล้โรงเรียนมากทำให้ผมรู้สึกว่ามันก็สะดวกสะบายดี
“เราลองมาเปิดฟังดูนะว่ามันเป็นยังไงไอ้กรันจ์ ร๊อค อะไรเนี่ย” ผมบอกกับเอ๋
“แป๊บนะ” เอ๋ตอบพร้อมกับควักซองบุหรี่มาจากกระเป๋า ขึ้นมาจุดสูบ
“ลองมั้ย”เธอพูดและยื่นซองบุหรี่มาให้ผม พร้อมกับควันที่ออกมาจากปากของเธอราวกับปุยเมฆ แม้การสูบบุหรี่จะเป็นเรื่องไม่ดีตามที่ผู้ใหญ่บอกกัน แต่สำหรับเอ๋ผมว่า เธอเป็นคนสูบบุหรี่ที่ดูดีจริงๆ
ผมหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบแต่ความอ่อนหัดของผมทำให้ต้องสำลักควันอย่างรุนแรง “ไม่ไหวลองกี่ที่ก็สำลักทุกที” ผมบอกกับเธอ
“เดี๋ยวสักพักก็ชิน เมื่อไหร่ที่การหายใจเข้าออกของเธอสัมพันธ์กัน ควันบุหรี่ก็ไม่ต่างจากลมหายใจที่มองเห็นได้” เอ๋ บรรยาภาษากวี ซึ่งเป็นคุณสมบัติของเธอที่ผมชอบมาก แม้บางครั้งจะฟังดูงงๆก็ตาม
ผมเดินไปหยิบเทปม้วนนั่นใส่ลงไปในเครื่องเล่นพร้อมกับกดปุ่มเล่นเพลง วงดนตรีจากเมือง อเมริกา เริ่มบรรเลงเพลงทันที เสียงสับคอร์ดที่เริ่มต้นก่อนตามมาด้วยกีตาร์ไฟฟ้าที่แตกซ่าและเงียบลงอีกครั้งเมื่อเข้าสู่ช่วงร้อง ดนตรีของพวกเขาทำให้บทสนทนาของเราสองคนเงียบสนิท
แม้ห้องเล็กๆที่คับแคบของผมนั้นมีเพียงพัดลมตัวเดียวที่ช่วยบรรเทาความร้อนอันแสนระอุของเมืองกรุงเทพฯ แต่ทันที่ที่เราได้ยินเสียงที่พวยพุ่งออกมาจากเครื่องเล่นเหล่านั้น มันกลับทำให้เรารู้สึกขนลุกอย่างไม่น่าเชื่อ เพลงแล้วเพลงเล่าที่บรรเลงออกมาจากอัลบั้มชุดนี้ทำให้เราสองคนแทบไม่พูดจากันอีกเลยจนเพลงจบอัลบั้ม
ทันที่ที่เพลงเล่นจบ เอ๋หยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบอีกครั้ง พร้อมกับยื่นให้ผม และไม่รู้เพราะอะไรครั้งนี้ผมสามารถสูบได้อย่างไม่สำลักอีกต่อไป
“เธอมองเห็นลมหายใจของตัวเองแล้วใช่มั้ย” เอ๋พูดพร้อมกับยิ้ม
“ชัดเลย” ผมตอบเธอ เราสองคนหัวเราะไปพร้อมกัน
“เพลงเมื่อกี้เจ๋งมากเลยนะ วงชื่ออะไรน่าๆนะ” เอ๋ถาม
“Nirvana ที่แปลว่า นิพาน น่ะ สงสัยวงนี้จะนับถือพุทธ” ผมพูดพร้อมกับหยิบปกเทปมาดูรายชื่อนักดนตรี
“นักร้องนำชื่อ เคริท์ โคเบน นะ” ผมคุยกับเอ๋พร้อมกับอ่านปกเทปไปด้วย
“เพลงแรกที่เปิดชื่อเพลงว่าอะไรเหรอ” เอ๋ถามผม
“Smell like teen spirit” ผมตอบเธอ
เอ๋ทำหน้าครุ่นคิดพร้อมกับถามมาอีกครั้งว่า “มันแปลว่าอะไร”
“น่าจะแปลว่า กลิ่นของจิตวิญญาณวัยรุ่นมั้ง” ผมแปลแบบงูๆปลาๆ
“แปลได้ดีนะ เท่ดี กลิ่นของจิตวิญญาณวัยรุ่น น่าจะเหมือนกลิ่นควันบุหรี่นี่ละมั้ง คนแต่งน่าจะแต่งตอนที่เมายาได้ที่” เธอพูดพร้อมกับหัวเราะ
หลังจากนั้นไม่นาน เราสองคนก็หลงไหลในวง Nirvan และบูชา เคริท์ โคเบน ไม่ต่างจากคนยุค 60 บูชา จอหน์ เลนนอน
“ฉันชอบเคริท์ตรงแววตาของเค้านะ” เอ๋พูดขึ้นมาในขณะที่ดูรูป เคริท์ ที่ติดไว้ในห้องของผมในบ่ายวันหนึ่ง
“เขาดูอ่อนไหวแต่ก็เข้มแข้ง อ่อนโยนแต่ก้าวร้าวในคนๆเดียวกันได้” เอ๋พูดขึ้นพร้อมกับพ่นควันบุหรี่ไปที่รูปของเคริท์ “ฉันว่าฉันตกหลุมรักเขาเข้าแล้วละ” ผมหัวเราะกับประโยคที่เธอพูดแต่คิดในใจว่าถ้าจะมีเรื่องอะไรที่ผมไม่ชอบเคริท์ก็น่าจะเป็นเรื่องนี้แหละ
“แต่เขามีแฟนแล้วนะรู้สึกจะเป็นนักร้องเหมือนกัน ชื่อ คอร์ทนี่ย์ เลิฟ อะไรเนี่ยแหละ แถมมีคนบอกว่าเขาจะเป็นเกย์ด้วยนะ” ผมบอกกับเอ๋
เป็นเกย์จริงเหรอ?? เอ๋สงสัย
“ใช่เคริท์เคยให้สัมภาษณ์กับ The Advocate ว่า เขามีจิตวิญญาณของความเป็นเกย์อยู่ และหากไม่ได้พบกับคอร์ทนี่ย์ เลิฟ เขาก็อาจจะเป็นเกย์จริงจังเลยก็ได้ แถมเขายังชอบแต่งตัวแปลก ๆ และทำสีผมบ่อยมาก มีหลายครั้งที่เขาแต่งชุดเดรสของผู้หญิงขึ้นคอนเสิร์ต เคริท์เคยพูดเกี่ยวกับเรื่องการใส่เดรสว่า” การแต่งตัวด้วยชุดเดรสเป็นการแสดงให้เห็นว่าผมสามารถแสดงตัวตนความเป็นผู้หญิงของผมได้อย่างเต็มที่” ผมเล่าให้เธอฟังเป็นฉากๆ
“โหยิ่งรู้อย่างนี้ ฉันยิ่งหลงรักผู้ชายคนนี้มาขึ้นไปอีก ผู้ชายอะไรเท่ทั้งน่าตาและความคิด ไม่ต้องเป็นแฟนขอให้ได้นอนกับเขาสักคืนฉันก็เอานะ” เอ๋พูดพร้อมกับหัวเราะโพล่ง
ในขณะที่เราสองคนกำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน อยู่ดีๆ TV ที่เปิดทิ้งไว้ ก็มีข่าวด่วนออกมาว่า มีคนพบร่างเคริท์ โคเบนที่เสียชีวิตจากการยิงตัวตายที่บ้านใน ซีแอทเทิล หลังจากติดต่อไม่ได้มาพักใหญ่ ข่าวว่าเขาติดยาอย่างหนักและมีปัญหาสุขภาพจิต แม้จะพยายามไปพบแพทย์หลายครั้งแต่เจ้าตัวก็ปฎิเสธการรักษาและหนีออกมาจากโรงพยาบาลก่อนที่จะมีคนพบศพของเขาในวันนี้
ผมหันกลับไปมองเอ๋ที่มองดูข่าวพร้อมกับน้ำตานองหน้า ซึ่งทำให้ผมต้องหลั้่งน้ำตาตามเธอไปด้วยไม่รู้เสียใจเรื่องเคริท์หรือเสียใจที่เห็นเธอร้องให้กันแน่
เช้าวันต่อมา วันที่ 9 เมษายน 1994 ผมและเอ๋ได้ตกลงว่าจะจัดงานเลี้ยงอำลาให้กับ ไอดอลของเรา เอ๋ถึงกับเขียนกวีอะไรสักอย่างเพื่อสดุดดี เคริท์ ส่วนผมก็เล่นกีตาร์เพลง Smell like teem spirit อำลาฮีโร่ของเรา
เอ๋นั่งสูบบุหรี่อยู่ข้างผม เราทั้งสองพ่น กลิ่นของจิตวิญญาณวัยรุ่น ออกมาเป็นสาย เอ๋ฟังเพลงที่ผมพร้อมน้ำตา ก่อนที่เธอจะเอนหัวมาซบไหล่ผมและพูดว่า “ตอนนี้เคริท์แฟนตัวจริงของเราได้ตายไปแล้ว เธอพอจะมาเป็นเคริท์คนใหม่ของเราคนเดียวได้มั้ยอ๊อด” ผมมองหน้าเธอแล้วยิ้มก่อนร้องออกมาเป็นเพลงว่า
“Come as you are, as you were as I want you to be” แล้วเราทั้งคู่ก็หัวเราะพร้อมกัน
1 บันทึก
1
1
1
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย