18 ก.ค. 2020 เวลา 03:32 • ประวัติศาสตร์
แผนการโจมตีสหรัฐอเมริกาของญี่ปุ่น ด้วยการใช้ “โรคระบาด”
เรื่องราวของสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่น่าสนใจนั้นมีมากมาย
หนึ่งในนั้นคือแผนการโจมตีสหรัฐโดยใช้โรคระบาด ภายใต้ปฏิบัติการ “Operation Cherry Blossoms at Night”
แผนการนี้คือการปล่อยแมลงหรือตัวหมัดที่ติดเชื้อโรคเข้าไปตามแหล่งเพาะปลูกของสหรัฐอเมริกา ทำให้ผู้คนติดเชื้อโรคจนล้มตายและสร้างความเสียหายแก่สหรัฐอเมริกา
ในช่วงยุค 30 (พ.ศ.2473-2482) ญี่ปุ่นได้ทำการวิจัยอาวุธชีวภาพ และได้ตั้งหน่วยที่ทำการค้นคว้า ทดลองทางชีวภาพโดยเฉพาะ นั่นคือ “Unit 731”
ที่ทำการของ Unit 731 ในจีน
ญี่ปุ่นได้บุกรุกรานจีนในต้นยุค 30 (พ.ศ.2473-2482) และได้ทำการจับชาวจีนมาทำการทดลองผิดมนุษย์มนาเป็นจำนวนมาก โดยได้ตั้งฐานที่ทำการทดลองที่ Harbin
การทดลองนั้นมีตั้งแต่จับคนเข้ามาอยู่ในห้องที่มีความกดอากาศผิดปกติ จนกระทั่งผู้ถูกทดลองลูกตากระเด็นหลุดจากเบ้า การทดลองใช้ยากับคนเป็นๆ การหั่นคนเป็นชิ้นๆ
เจ้าหน้าที่ Unit 731 ขณะทำการทดลองกับเด็กชาวจีน
และเมื่อทำการทดลองต่างๆ แล้ว หน่วย 731 ก็คิดว่าพร้อมที่จะโจมตีสหรัฐอเมริกาแล้ว
ญี่ปุ่นนั้นได้วางแผนที่จะส่งบอลลูนติดไอพ่นและบรรจุระเบิดไว้ภายในไปโจมตีสหรัฐอเมริกา ซึ่งที่ผ่านมา ก็ได้ส่งบอลลูนระเบิดกว่า 200 ลูกไปยังสหรัฐอเมริกา ฆ่าชาวอเมริกันไปแล้วถึงเจ็ดคน
ปฏิบัติการโจมตีสหรัฐอเมริกาครั้งใหม่มีชื่อว่า “Operation Cherry Blossoms at Night”
ปฏิบัติการนี้จะเป็นการนำเจ้าหน้าที่ของญี่ปุ่นจำนวน 20 คนไปยังทางใต้ของแคลิฟอร์เนีย โดยจะไปทางเรือดำน้ำ ก่อนที่จะขับเครื่องบินไปยังซานดิเอโก้และทำการปล่อยแมลงติดเชื้อโรคออกมาเป็นจำนวนมาก และนักบินก็ต้องยอมปลิดชีพตัวเองด้วยการขับเครื่องชนกับพื้น
มีการกำหนดถึงวันที่ดำเนินการแผนนี้ คือวันที่ 22 กันยายน ค.ศ.1945 (พ.ศ.2488)
แต่ก่อนได้ปฏิบัติการจริง ทหารระดับสูงก็ได้คัดค้านแผนการนี้ โดยเกรงว่าจะทำให้สหรัฐอเมริกาแค้น และยิ่งโจมตีญี่ปุ่นหนักกว่าเดิม
แผนการนี้จึงไม่ได้ลงมือจริงๆ แต่ก็เป็นหนึ่งในเรื่องราวของสงครามโลกครั้งที่ 2
โฆษณา