Digimon Adventure Last Evolution Kizuna : เราทุกคนล้วนต้องเติบโต
เป็นภาคที่โปรโมทมาแต่ไกลว่านี่คือ การพัฒนาครั้งสุดท้าย แน่นอนว่ามันโหมความรู้สึกของเหล่าผู้คนที่ผูกพันธ์กับดิจิม่อนมานานได้อย่างดี นี่ไม่ใช่แค่การ์ตูนในวัยเด็กธรรมดา แต่มันคือหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่อยู่ในยุคเปลี่ยนถ่าย 1990s-2000s ที่หลายอย่างได้เปลี่ยนไป และพี่นัทกับน้องนพที่หลายคนคุ้นเคยก็บอกไว้แล้วว่า สิ่งหนึ่งที่จะจูนคนดูกับการ์ตูนได้ก็คือเพลงภาษาไทย และนั่นคือความสำเร็จอย่างมหาศาลที่ทำออกมา พร้อมกับท่อนที่ติดหูทุกคนเป็นอย่างดี
พูดมาเยอะ พูดถึงหนังบ้างดีกว่า เนื้อเรื่องมีอยู่ว่า จู่ ๆ เกิดเหตุเหล่าเด็กที่ถูกเลือกหมดสติ ราวกับสติสัมปชัญญะของทุกคนหายไป ทีมสืบสวนจากต่างประเทศได้มาหาพวกไทจิและยามาโตะที่ญี่ปุ่นพร้อมขอร้องให้ช่วยปราบดิจิม่อนต้นเหตุในครั้งนี้ที่ชื่อ อีออสมอน ให้ได้ แต่การต่อสู้กลับทำให้ค้นพบความจริงบางอย่างที่ว่าสายสัมพันธ์ของดิจิม่อนคู่หูกำลังใกล้ถึงจุดสิ้นสุด ไทจิและยามาโตะจะทำอย่างไรระหว่างอยู่กับคู่หูตลอดกาลหรือต่อสู้เพื่อให้ปาฏิหารย์เกิดขึ้นอีกครั้ง
ต้องยอมรับว่านี่คือมูฟวี่ของเหล่าแฟน ๆ ดิจิม่อนอย่างแท้จริง ทั้ง easter egg ในหนังและเหล่าตัวละครที่เราคิดถึงทุกคนกลับมาอย่างพร้อมหน้า แม้บททั้งหมดจะเทความเด่นไปที่ไทจิกับยามาโตะก็ตาม แต่ใช่ว่าคนอื่นจะจืดจางลงไป ทุกคนมีความสำคัญต่อเนื้อเรื่องหมด รวมถึงตัวละครใหม่ 2 ตัวที่สร้างคาแรคเตอร์และความลึกลับได้น่าสนใจ แม้จะเปิดเผยแบบไม่ประหลาดใจมากก็ตาม
งานด้านภาพสวยงามมาก ลายเส้นแม้จะแปลกใหม่แต่ไม่รู้สึกขัดใจ ทั้งหมดดูไหลลื่นไปได้อย่างดี ยิ่งฉาก Neverland และ Final Battle ที่ทั้งเสียงและภาพนี่ epic ได้ใจจริง ๆ
ใครที่คิดถึงเพลง Butter-fly และ Braveheart การได้ฟังเพลงเหล่านี้ในโรงพร้อมฉากเปิด และฉากพัฒนามันฟินมากจริง ๆ แม้จะแหม่ง ๆ กับ Braveheart นิดหน่อยแต่มันกลับเนียนเข้ากับฉากในเรื่องได้อย่างดี
ประเด็นหลังของเรื่องนอกจากการตีความต่างๆแล้ว message ที่สื่ออย่างตรง ๆ ก็คือการเติบโตจากเด็กเป็นผู้ใหญ่ของสองตัวละครหลักอย่างไทจิและยามาโตะ ที่ยึกติดกับดิจิม่อนจนไม่ยอมสนใจในชีวิตประจำวันของตัวเอง สังเกตุได้จากคนรอบตัวที่ไม่ใช่แค่เด็กที่ถูกเลือก แต่ยังเพื่อน ๆ ในที่เรียนที่ทำงานที่ดูมีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว ทั้งคู่ยังอยู่กับความสับสนในการเปลี่ยนวัยอยู่เลย
แต่นั่นไม่ใช่ข้อเสีย เราทุกคนล้วนต้องเติบโต ล้วนต้องก้าวไปข้างหน้า แม้มันจะหมายถึงการจากลาสิ่งที่อยู่ในอดีตก็ตามแม้สิ่งนั้นจะอยู่เคียงข้างเรามาตลอด แต่บางทีเรากลับึดติดมันจนไม่ก้าวไปข้างหน้าซะเอง แม้ว่าสิ่งนั้นจะสนุกกับการมองเห็นเราเติบโตเพียงใด พวกดิจิม่อนก็เปรียบเสมือนคนในครอบครัว เพื่อนในวัยเด็ก ที่ซักวันเราก็ต้องออกมาใช้ชีวิตของเราโดยไม่มีพวกเค้า message นี้คือการเติบโตไปข้างหน้าและสร้างความสุขให้กับคนที่เฝ้าดูเราอย่างสุขใจที่สุด
ไม่ร้องไห้นะ แต่น้ำตาซึมมาก เข้าใจเลยว่าประโยค "โตเป็นผู้ใหญ่แล้วนะ" มันนอกจากบอกตัวละครแล้ว มันยังส่งมาถึงคนดูอย่างเราด้วเช่นกัน
ปล. ปีกรัก ver. cover ในโรงนี่คือไม่รู้จะขำหรือจะปวดจิตดี
ปล. เสียงของคุณ Wada Kouji แม้จะจากพวกเราไปแล้ว แต่เสียงยังทรงพลังมากจริงๆ
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
