เพชรกุหลาบ VS เพชรเกสร (Rose cutting VS Brilliant cutting)
เพชรกุหลาบ VS เพชรเกสร
(Rose cutting VS Brilliant cutting)
เวลาซื้อเพชรเรามักจะได้ยินได้เห็นคำว่า “เพชรกุหลาบ เพชรเกสร” กันบ่อยๆ หลายคนคงสงสัยว่า คืออะไรนะ? เพชรแท้เพชรเทียมเหรอ? วันนี้เรามาปลดล็อคความสงสัยกัน
เริ่มจากเพชรเกสรกันก่อน เพราะพบเห็นมากที่สุดในปัจจุบันและเป็น “มาตรฐานสากล” เพชรเกสร คือชื่อไทยๆ แต่ชื่อสากลเราเรียกว่า “Round Brilliant (อ่านว่า ราวด์-บิลเลี่ยน) คือเพชรทรงกลมที่มีเหลี่ยมเจียระไนประมาณ 56-59 เหลี่ยม เป็นรูปแบบที่มาตรฐานที่สุดในปัจจุบัน ผู้ผลิต ผู้จำหน่ายรายเล็กใหญ่ ร้านหรูแบรนด์ดังเกือบทั้งหมดจะใช้เพชรเกสรเป็นหลักในการผลิตสินค้างานฝีมือต่างๆ
หน้าเพชรเกสร (Round Brilliant)
เพชรเกสร เป็นรูปแบบการเจียระไนที่มีวิวัฒนาการโดยใช้หลักทางฟิสิกส์ (การสะท้อนและการกระจายแสง) มาคำนวนทำให้เพชรกระจายแสงวิบวับ มีรูปทรงสวยงามตามมาตรฐานที่สุด ถึงแม้ในปัจจุบันจะมีการคิดค้นเหลี่ยมการเจียระไนแบบใหม่ๆเพิ่มขึ้นมา บางรูปแบบมี 80-200 เหลี่ยม แต่ก็ไม่ได้รับการยอมรับเป็นสากลเท่ากับรูปแบบมาตรฐาน
เพชรเหลี่ยม Heart&Arrow เพชรเหลี่ยม Ideal ทั้งหมดนี้ก็เป็นรูปแบบที่อยู่ในมาตรฐานของเพชรเกสรที่มี 56-59 เหลี่ยม โดยมีการปรับรูปแบบการเจียระไนให้เป็นหัวลูกศรบ้าง เป็นหัวใจบ้าง เป็นลิ่มปลายเข็มบ้าง เป็นแฉกดาวบ้าง เพื่อเพิ่มประกายให้กับเพชร
รูปทรงด้านข้างของเพชรเกสร
เพชรกุหลาบ มีหลายชื่อเรียกมากเช่น เพชรลูกโลก เพชรเหลี่ยมเก่า เพชรซีก เพชรเหลี่ยมโบราณ เป็นต้น รูปแบบของการเจียระไนเพชรกุหลาบจะมีเหลี่ยมเพียง 10-20 เหลี่ยมเท่านั้น รูปทรงของเพชรจะบางแบนราบ เนื้อเพชรบาง จึงทำให้เพชรดูขาวแต่ไม่ค่อยมีประกาย
หน้าเพชรสามารถมองทะลุไปเห็นวัสดุใต้เพชรได้ง่ายเพราะความบางของเนื้อเพชร เพชรกุหลาบเป็นเพชรรุ่นแรกๆในสมัยโบราณที่ยังไม่มีการคิดค้นคำนวนการกระจายแสงแบบเพชรรุ่นใหม่ๆ ด้วยวิวัฒนาการและเทคโนโลยีในการเจียระไนในสมัยนั้นๆยังไม่สามารถเจียระไนได้อย่างสวยงามตามมาตรฐาน
หน้าเพชรกุหลาบ (Rose Cutting)
คุณภาพของเพชรกุหลาบมักจะเป็นเพชรที่มีตำหนิ มีสิ่งเจือปนมาก อาจมีรอยร้าวในเนื้อเพชร โรงงานเจียระไนเพชรมักจะคัดเพชรดิบที่มีคุณภาพดีสามารถเจียระไนเหลี่ยมเกสรได้ออกไปก่อน ส่วนที่เหลือที่ไม่สามารถเจียระไนเหลี่ยมเกสรได้ ก็จะนำไปเจียระไนเป็นเหลี่ยมที่คุณภาพรองๆลงมาเช่นเพชรกุหลาบเป็นต้น
ข้อดีของเพชรกุหลาบคือ เพชรจะดูมีขนาดใหญ่กว่าน้ำหนักจริง เช่น หน้าเพชรขนาด 7 ตัง แต่น้ำหนักจริงๆอาจชั่งได้เพียง 4-5 ตัง เพราะความบางของเนื้อเพชรทำให้หน้าดูใหญ่กว่าน้ำหนักจริง ข้อดีอีกข้อคือ ราคาถูกมากกว่าเพชรเกสรอย่างมาก เช่น ในคุณภาพเดียวกันเพชรกุหลาบมักจะมีราคาถูกกว่าเพชรเกสร 3-4 เท่าตัว
ด้านข้างของเพชรกุหลาบจะเห็นถึงความบางของเนื้อเพชร
การซื้อขายเพชรกุหลาบมักจะจำกัดอยู่ในวงแคบเช่น นักสะสมของเก่า นักสะสมของโบราณ งานAntique ทั้งเพชรเกสรและเพชรกุหลาบทั้งสองเป็นเพชรแท้ธรรมชาติ ต่างกันที่คุณภาพ และรูปแบบการเจียระไน แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับรสนิยมความชอบส่วนบุคคล บางท่านอาจชอบความคลาสสิค ความเก่า มีเอกลักษณ์ ที่ไม่จำเป็นต้องเป็นมาตรฐานเสมอไป
สำหรับโรงรับจำนำ ร้านเพชรร้านทองทั่วไป (ในประเทศไทย) ที่รับซื้อเครื่องประดับเพชรทองมือสอง มักจะไม่ตีมูลค่าเพชรกุหลาบเวลารับซื้อเข้า แต่มักจะตีมูลค่าเฉพาะตัวเรือนที่เป็นโลหะมีค่าเท่านั้น นอกจากเหตุผลเรื่องความนิยมที่ไม่มากทำให้จำหน่ายต่อได้ยากแล้ว อีกเหตุผลคือด้วยความบางของเพชรกุหลาบ ทำให้ยากต่อการแกะออกจากตัวเรือนมาผลิตสินค้าชิ้นใหม่ เพราะมีโอกาสที่เพชรกุหลาบจะแตกหักได้ง่ายมาก จึงทำให้เพชรกุหลาบไม่ค่อยได้รับความนิยมทั้งในแง่ความสวยงามและมูลค่า
ประกายที่แตกต่างกันของเพชรทั้ง2เหลี่ยมเจียระไน
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
