Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
คลังความรู้ by SpokeDark
•
ติดตาม
22 ก.ค. 2020 เวลา 10:00 • ประวัติศาสตร์
ผิดไม่ผิดก็สยอง! รวมวิธีพิสูจน์ความบริสุทธิ์สุดเหี้ยมของคนยุคโบราณ ทรมานจนแทบเอาชีวิตไม่รอด
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
ในอดีตกาลกระบวนการสอบสวนหาความจริงนั้นค่อนข้างจะป่าเถื่อนและโหดร้าย พวกเขาไม่ได้ใช้การหาความจริงและหลักฐานในการสอบสวนเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ กลับกันคนสมัยก่อนใช้วิธีพิสูจน์ที่เรียกว่าถึงแก่ชีวิตได้และไม่ว่าคุณจะรอดหรือไม่รอด จะเป็นผู้ที่กระทำความผิดหรือผู้บริสุทธิ์ ก็จะต้องเจอกับความทรมานพอกัน และนี่คือวิธีพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในสมัยโบราณ
1. ในยุคกลาง หากว่าคุณเป็นนักบวชแล้วกลายเป็นผู้ต้องสงสัยว่าก่ออาชญากรรมในยุคกลาง คุณจะสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองได้ด้วยการไปที่แท่นบูชาพร้อมกับตะโกนสวดภาวนาต่อพระผู้เป็นเจ้า จากนั้นก็จะต้องกลืนขนมปังภาวนาลงคอไปถ้าหากว่าสามารถกลืนลงคอได้อย่างง่ายดายไม่มีอาการสำลักให้เห็นก็แปลว่าคุณนั้นบริสุทธิ์ แต่ขนมปังภาวนา (Alta Bread) นั้นก็ไม่ใช่ขนมปังที่เนื้อนิ่มสักเท่าไหร่ ถ้าหากว่าเผลอสำลักขึ้นมาล่ะก็จะกลายเป็นผู้ร้ายไม่รู้ตัว
WIKIPEDIA CC BRAMS
2. ถ้าหากว่ามีผู้ต้องสงสัยอยู่สองคน วิธีการหาผู้บริสุทธิ์มิใช่การตามหาพยานหลักฐานเหมือนในยุคปัจจุบัน แต่คือการให้ผู้ต้องสงสัยทั้งสองคนมาต่อสู้กัน ถ้าใครเป็นผู้ชนะให้ถือว่าผู้นั้นเป็นผู้บริสุทธิ์ ชัยชนะนี้ไม่ได้มาจากความแข็งแกร่งหรือจากทักษะการต่อสู้อันดีเยี่ยม แต่ในสมัยนั้นเชื่อกันว่าพระเจ้าทรงเลือกคนที่บริสุทธิ์ให้เป็นผู้ชนะ และถ้าผู้แพ้มิได้เสียชีวิตในการต่อสู้ก็จะถูกนำไปแขวนและเผาทั้งเป็นเพื่อลงโทษในความผิดที่(อาจจะไม่ได้)ก่อขึ้น
123RF
3. การลุยไฟพิสูจน์ความบริสุทธิ์นี้มักถูกใช้กับสตรีในกรณีที่ถูกกล่าวหาเรื่องการผิดประเวณี โดยผู้ถูกกล่าวหาจะต้องเดินบนแผ่นเหล็กร้อนหรือเดินขณะที่ถือเหล็กร้อนๆ จำนวน 9 ก้าวด้วยเท้าเปล่า ถ้าหากว่าสามารถผ่านการลุยไฟโดยที่ไม่มีบาดแผลหรือรอยแผลก็จะถือว่าบริสุทธิ์ผุดผ่อง แต่อย่างไรก็ตามมีการให้ผู้ที่ลุยไฟพันผ้าพันแผลไว้เป็นเวลาสามวันจากนั้นจึงจะให้นักบวชมาทำการตรวจสอบอีกที ถ้าหากว่าบาดแผลนั้นสมานหรือหายดีก็แปลว่าบริสุทธิ์เพราะเชื่อว่าพลังอันศักดิ์จะช่วยให้บาดแผลหายได้ไว และผู้ที่ลุยไฟไม่สำเร็จจะถูกปาหินจนเสียชีวิต
WIKIPEDIA PD
4. หากจำเลยไม่ต้องการลุยไฟก็มีวิธีการลุยน้ำให้เช่นกัน นักบวชจะสวดมนต์เพื่อให้น้ำในหม้อกลายเป็นน้ำมนต์จากนั้นจะนำไปต้มจนถึงจุดเดือด และหย่อนหินลงไปยังก้นหม้อโดยระดับน้ำในหม้อนั้นจะต้องสูงท่วมข้อมือหรือข้อศอกของจำเลย วิธีการพิสูจน์ก็เพียงแค่หยิบหินก้อนนั้นที่อยู่ในน้ำร้อนจัดขึ้นมาถ้าหากว่าแผลน้ำร้อนลวกหายดีก็แปลว่าคุณบริสุทธิ์ ทุกขั้นตอนทั้งหมดนี้จะทำภายในโบสถ์เพื่อให้อยู่ในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า
WIKIPEDIA PD
5. วิธีการถ่วงน้ำนิยมมากในการสอบสวนผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด จำเลยจะถูกมัดมือมัดเท้าและหย่อนลงในบ่อหรือบึงที่มีน้ำลึกมืดหัว ถ้าหากว่าสามารถลอยโผล่พ้นน้ำขึ้นมาได้ก็แปลว่ามีไม่มีความผิด รอดพ้นจากทุกข้อกล่าวหา แต่ถ้าจมอยู่ในน้ำนั้นหมายถึงมีความผิดและเสียชีวิตตามข้อกล่าวหา
WIKIPEDIA PD
6. บางชนเผ่าในแอฟริกาใช้วิธีการกลืนถั่วคาลาบาร์หรือที่เรียกกันว่า “ordeal bean” เพื่อพิสูจน์ว่าหญิงผู้นั้นเป็นแม่มดหรือไม่ ถั่วชนิดนี้มีพิษต่อมนุษย์ พวกเขาเชื่อว่าพระเจ้าจะสร้างปาฏิหารย์ให้หญิงที่กลืนถั่วชนิดนี้ลงไปอาเจียนออกมาเองถ้าหากว่าเธอผู้นั้นบริสุทธิ์
การกลืนกินถั่วชนิดนี้ลงไปก็เหมือนกับการได้รับโทษประหารเพราะพิษของถั่วคาลาบาร์ทำให้กล้ามเนื้อและระบบประสาทล้มเหลวและจะเสียชีวิตจากระบบหายใจล้มเหลว
WIKIPEDIA PD
7. หากคุณถูกกล่าวหาว่าใส่ความเพื่อให้ผู้อื่นได้รับโทษคุณจะต้องพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองกับงูเห่า งูเห่าและแหวนจะถูกใส่รวมกันในหม้อดิน และคุณจะต้องล้วงลงไปในหม้อดินเพื่อหยิบแหวนที่อยู่ท่ามกลางงูที่มีพิษถึงตาย ถ้าคุณหยิบแหวนมาได้และไม่โดนงูกัดคุณก็จะเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ถ้าหากว่าคุณไม่สามารถหยิบแหวนมาได้หรือโดนงูกัดคุณก็ไม่รอดชีวิตอยู่ดี
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
123RF
1 บันทึก
14
1
7
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ประวัติศาสตร์ I
1
14
1
7
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย