22 ก.ค. 2020 เวลา 01:20 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
The Dark Knight- เมื่อเรามาถึงจุดที่ภูมิคุ้มกันความชั่วเริ่มหมดแรง
ถือเป็นโอกาสอันดีงามที่เราได้รับชมหนึ่งในภาพยนตร์ที่ทำจากหนังสือการ์ตูนที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลอย่าง แบทแมน อัศวินรัตติกาล (2008) ในโรงภาพยนตร์ฉบับ IMAX อีกครั้ง ซึ่งการที่ได้รับชมหนังเรื่องนี้ที่บ้านเราก็สัมผัสได้ถึงความยอดเยี่ยมแล้ว การได้ดูใน IMAX ทำให้เราได้พบเจอกับพระเอกอีกคนของเรื่องนี้นั่นก็คือ sound ของหนังนั่นเอง
การได้ดู Joker ทำนู่นนี่นั่น การได้เห็นการตัดสินใจบนเรือยอร์ช การได้เห็นฉากจบของ Two Face มันคงดูธรรมดาไปเลย ถ้าไม่ได้เสียงอันทรงพลังที่สุดจาก Hans Zimmer ที่บรรดาลให้แต่ละฉากพีคมาก ๆ ในความรู้สึกของคนดู ราวกับมันบีบหัวจิตหัวใจคนดูให้ตายคาที่ไปเลย
แต่สิ่งหนึ่งที่ยังไงก็ไม่เก่าสำหรับหนังเรื่องนี้นอกจากการแสดงอันมาสเตอร์พีซของ Heath Ledger แล้ว คงเป็นแก่นสารประเด็นที่หนังจะเล่าที่ดูกี่ครั้งก็ทึ่งในความสามารถอันเอกอุของอาชญากรเพียงคนเดียวที่ปั่นหัวตำรวจและแบทแมนให้แทบจะเป็นบ้าได้
และแน่นอนอยู่แล้วว่า Joker คนเดียวจะไปทำอะไรได้ นอกเสียจากอาชญากรคนนี้รู้ดีถึงวิธีมนการขุดเจาะลึกเข้าไปในใจคน การแปรเปลี่ยนทางอารมณ์ การเก็บงำความรู้สึก และการยั่วโมโห เค้าคนเดียวสามารถเปลี่ยนคนที่ดีแสนดี ให้กลายเป็นฆาตกรได้ ถ้าคุณมีเศษเสี้ยวของความชั่วนั่นแฝงอยู่
หนังทำให้เราเห็นแล้วว่า การทำความเลวนั้นมันง่ายกว่าการทำความดีเยอะ หลายครั้งที่เจตนาดี ๆ ต้องกลายเป็นเรื่องอันสูญเปล่า เพราะการทำความชั่วมันรู้สึกสะใจกว่า เห็นผลไวกว่า ไม่แปลกที่ในใจคนเราทุกคนพร้อมจะสละทิ้งความดีงาม ในจิตใจตลอดเวลา เพียงเพราะเราเห็นคนทำชั่วแล้วมีความสุขมากกว่านั่นเอง
ฉากที่ชอบมาก ๆ ฉากหนึ่งคือฉากเรือยอร์ชระหว่างนักโทษกับประชาชน แม้ในหนังจะมีแสงสว่างปลายทางในความดีงามของจิตใจ แต่ไม่อยากจะนึกว่าหากมันอยู่ในโลกเราจริงๆแล้วล่ะก็ เราอายไม่ต้องรอถึงเที่ยงคืน ระเบิดก็คงกดไปเรียบร้อยแล้ว
โฆษณา