เก็บเรื่องราวจากการเดินทาง
EP 8 : พระราชวังบางปะอิน พระราชวังกลางทุ่งนา
ดูนาที่ไหนเล่าไม่เท่าบางปะอิน จากคำกล่าวนี้เล็งให้เห็นถึงทัศนียภาพอันสวยงามของบริเวณโดยรอบพระราชวังบางปะอิน ที่ห้อมล้อมไปด้วยทุ่งนาข้าวเขียว ปลิวไสว เมื่อยามหน้าข้าวออกรวง
ชื่อพระราชวังบางปะอินย้อนกลับไปได้ถึงยุคสมัยของสมเด็จพระเอกาทศรถ แห่งอาณาจักรกรุงศรีอยุธยา เมื่อครั้งท่านเสด็จประพาสทางชลมาศ ได้เกิดอุบัติทางเรือพระที่นั่ง จนได้มีเรื่องราวการพบหญิงสาวนางนึงที่มีชื่อว่า นางอออิน อันเป็นเหตุให้ที่นี่ถูกเรียกขานว่า "บางปะอิน"
ในรัชสมัยของพระเจ้าปราสาททอง ที่ว่ากันว่าเป็นพระโอรสของพระเอกาทศรถ กับนางอออินนี่เอง ท่านได้กลับมาสร้างพระตำหนักที่ประทับขึ้นกลางสระน้ำ ให้ชื่อว่า พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์
หลังจากถูกทิ้งร้าง เมื่อคราวเสียกรุง จวบจนกระทั่ง รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวก็ได้มีรับสั่งให้บูรณะ พระที่นั่งไอศวรรย์ฯ ขึ้นมาใหม่
ล่วงมาถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็มีรับสั่งให้ สร้างพระที่นั่ง แลพระตำหนักต่างๆขึ้นมากมาย เพื่อใช้รับรองราชอาคันตุกะ และพระราชทานเลี้ยงในโอกาสต่างๆ
สะพานข้ามสระน้ำที่ได้แนวคิดมาจากสะพานข้ามแม่น้ำไทเบอร์สู่วาติกัน
พระที่นั่งองค์สำคัญที่ไม่อาจพลาด ถ้ามาถึงที่พระราชวังแห่งนี้ ขออนุญาติแนะนำคร่าวๆ
1. พระที่นั่งสภาคารราชประยูร เป็นตึกสองชั้น ทรงฝรั่งตั้งอยู่ริมน้ำ รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อ สำหรับเป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอฯ ในรัชกาลที่ 5 สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ และเจ้านายฝ่ายหน้า ปัจจุบัน ใช้เป็นที่แสดงนิทรรศการที่เกี่ยวข้องกับพระราชวังบางปะอิน ที่สมควรเข้าชมเป็นอย่างยิ่งเพราะวัตถุ และภาพวาดที่จัดแสดงด้านในบอกเลยว่าหาชมที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว
2. พระที่นั่งวโรภาษพิมาน เป็นพระที่นั่งที่ใช้ในการเสด็จออกว่าราชการเมื่อทรงแปรพระราชฐานที่พระราชวังบางปะอิน และใช้เป็นที่ประทับแรมของพระบรมวงศานุวงศ์เมื่อเสด็จแปรพระราชฐานมาที่นี่เช่นกัน ด้านในจัดแสดงเครื่องเรือนร่วมสมัย รัชกาลที่ 5 และพระราชบัลลังที่ทรงใช้เมื่อคราวเสด็จออกว่าราชการ
3. พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร พระที่นั่งองค์ประธานของพระราชวังบางปะอิน ซึ่งเคยถูกไฟไหม้ทั้งหลัง ปัจจุบันได้รับการโปรดเกล้าให้บูรณะขึ้นมาใหม่โดยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
และยังไม่อนุญาติให้เข้าชมด้านในได้ เราจึงสามารถเห็นข้างใน ได้จากบานกระจกใหญ่เท่านั้น
4. พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ หรือเทียนเม้งเต้ย พระที่นั่งทรงศิลปะจีนเพียงหนึ่งเดียวที่ไม่มีใครเหมือน ประดับด้วยสีแดง และทองอันเป็นสีมงคลของชาวจีน ได้รับการมอบถวายมาจากพระยาโชฎึกราชเศรษฐี กรมท่าซ้ายที่ดูแลเหล่าพ่อค้าชาวจีน รวบรวมทรัพย์สิน สร้างถวายแด่รัชกาลที่ 5 ด้านในงดงามไม่แพ้พระที่นั่งองค์ใด
5. หอวิทูรย์ทัศนา หอชมวิวสูง 30 เมตร อันเป็นที่มาของประโยคที่เราจั่วหัวไว้ คือ "ดูนาที่ไหนเล่า ไม่เท่าบางปะอิน" เพราะหอสูงสามชั้นนี้ สามารถมองเห็นไปได้สุดลูกหูลูกตา ในบรรยากาศทิวทัศน์สบายตา
6. ที่สุดท้ายที่แนะนำ ในเขตพระราชฐานแห่งนี้คือ อนุเสาวรีย์ความโศกา อาลัยของรัชกาลที่ 5
ถึงผู้เป็นที่รักทั้ง 6 พระองค์ ประกอบด้วย
อนุเสาวรีย์แรก
- อนุสาวรีย์ราชานุสรณ์ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงพระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาคย์นารีรัตน์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ
- เจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์
- สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าพาหุรัดมณีมัย
- สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าตรีเพ็ชรุตม์ธำรง
ส่วนอีกหนึ่งอนุเสาวรีย์ คือ
- สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์
- สมเด็จพระบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรรณาภรณ์ เพ็ชรรัตน์
จริงๆแล้วยังมีพื้นที่ต่างๆให้ท่านได้ชมอีกมากมาย ในอาณาบริเวณอันใหญ่โตนี้ ไปเที่ยวกันเถอะครับ
ปัจจุบันพระราชวังบางปะอินได้อยู่ในการดูแลของสำนักพระราชวัง และยังคงใช้เป็นที่แปรพระราชฐานของพระบรมวงศานุวงศ์อยู่ พระที่นั่งบางองค์หรือบางเขตจึงยังคงเป็นเขตที่ไม่อนุญาติให้เข้าชมได้อยู่นั่นเอง
Story : Justhi Travel
Photo : Justhi Travel
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
