22 ก.ค. 2020 เวลา 15:02 • ประวัติศาสตร์
“ศัตรูของข้าแต่ละคนล้วนแต่เป็นยอดฝีมือ แต่สาเหตุที่ข้าเอาชนะพวกเขาเหล่านั้นมาได้ เพราะว่าข้าเลือกที่จะสู้เมื่อข้าคิดว่าจะชนะเท่านั้นเอง”
- มูซาชิ
1
"มิยาโมโตะ มูซาชิ ดาบพเนจรไร้พ่าย"
"มิยาโมโตะ มูซาชิ" (Miyamoto Musashi) เป็นซามูไรที่มีอยู่จริงตามประวัติศาสตร์ ของประเทศญี่ปุ่น ที่สร้างตำนานด้วยการประลองไม่เคยแพ้พ่ายต่อผู้ใด และการประลองนั้นเป็นการประลองด้วยชีวิตทั้งสิ้น
1
มูซาชิ มีช่วงชีวิตอยู่ระหว่างปี ค.ศ.1584-1645 (61 ปี)
ผู้ที่ทำให้ชื่อเสียงของ มูซาชิ เริ่มกลายเป็นที่รู้จักของคนญี่ปุ่นยุคสมัยใหม่ นั่นคือ “โยชิคาวะ เอญิ” นักเขียนนวนิยายชื่อดังชาวญี่ปุ่นที่ได้สร้างชื่อเสียงขึ้นมาในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
เขาได้ศึกษาข้อมูลและชีวประวัติรวมถึงตำนานของ มูซาชิ อย่างละเอียด
จากนั้นจึงได้นำเรื่องราวของ มูซาชิ มาเรียบเรียงแล้วเขียนเป็นนิยายขึ้นมา
ผลงานของเขากลายเป็นที่โด่งดังมาก
(สำหรับในประเทศไทยนั้น ได้รับการแปลเป็นภาษาไทยครั้งแรกโดย สุวินัย ภรณวลัย ใช้ชื่อว่า “มูซาชิ ฉบับท่าพระจันทร์”)
"ตำนานจอมดาบ"
ปี ค.ศ.1584 กำเนิด "มูซาชิ"
1
มูซาชิ มีชื่อเดิมว่า "ทาเคโซะ" เป็นบุตรของนักรบที่เกิดในเขต ฮาริมา เกิดในตระกูล ชินเม็ง
เมื่ออายุ 13 ปี
มูซาชิ ได้เริ่มต้นการประลองครั้งแรก ด้วยการได้เข้าฟาดฟันกับ "อาริมะ คิเฮ" ซึ่งในขณะนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญวิชาดาบสำนักคาชิม่าชินโตริว และผลสรุปของการดวลนี้คือการสูญเสียชีวิตของ อาริมะ คิเฮ
หลังจากนั้น...
มูซาชิ ได้เข้าร่วมเป็นทหารในกองทัพประจิมของ ฮิเดโยชิ สุดท้ายแล้ว กองทัพประจิมเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ เขาจึงกลายเป็นทหารพ่ายศึกไปโดยปริยาย ต้องหนีตายกลับบ้านเกิด
1
ในช่วงที่มูซาชิยังเป็นวัยรุ่นนั้น...
เขาเป็นคนหนุ่มที่มีบุคลิกนิสัยใจร้อนวู่วาม ห้าวหาญไม่เกรงกลัวอันตรายใด ๆ
เนื่องจากเขาถือว่าตนเคยฝึกฝนวิชาดาบจากบิดามาตั้งแต่เด็ก
จึงมีความร้อนรนและเชื่อมั่นในวิชาดาบของตนเองอย่างมาก
อยากจะแสดงฝีมือและประกาศศักดาด้วยการประลองดาบเพื่อเอาชนะคนอื่นๆ
โดยที่ตัวเขาเองก็ไม่ได้ประเมินความสามารถที่แท้จริงของตนเองในเวลานั้นเลย
2
มูซาชิ ในวัยหนุ่ม
จึงโดนพระชื่อดังนามว่า “ทากุอัน” ซึ่งเป็นพระนักรบที่มีวิทยายุทธ์ชั้นเลิศได้เข้ามาสั่งสอนด้วยการกำราบมูซาชิให้หลาบจำ
จากเหตุการณ์ครั้งนี้จึงทำให้มูซาชิเริ่มรู้สึกตัวว่า "เหนือฟ้ายังมีฟ้า" เขาจึงเริ่มสำรวมจิตใจของตนเองมากขึ้น
3
หลังจากนั้นมา...
มูซาชิ ก็ได้ตัดสินใจสละชีวิตส่วนตัว ยอมทอดทิ้งหญิงคนรักของตนนามว่า “โอซึอุ”
เขาหันเหเส้นทางที่คิดจะสร้างชื่อเสียงในสงคราม แล้วกลายเป็นมุ่งมั่นสู่เส้นทางของนักดาบแทน
มูซาชิ จึงกลายเป็นนักดาบเร่ร่อนไปในที่สุด การเร่ร่อนของจอมดาบพเนจรนั้นได้ผ่านการต่อสู้ด้วยการเอาชีวิตเป็นเดิมพันมากกว่า 60 ครั้ง และตลอดทุก ๆ ครั้ง
มูซาชิ "ไม่เคยพ่ายแพ้" จากการประลอง
ช่วงอายุ 15 ปี จนถึง อายุ 29 ปี
มูซาชิ ได้ท้าประลองกับยอดฝีมือมากมาย
มูซาชิ ได้สร้างชื่อเสียงที่ทำให้เป็นที่รู้จักเลื่องลือ คือ การสังหารหมู่ลูกศิษย์ของสำนักดาบโยชิโอกะ 70 คน ในคืนเดียว และเป็นครั้งแรกที่ มูซาชิ ใช้ดาบสองมือ ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นวิชาดาบเฉพาะตัวของเขาที่เรียกว่า "นิเทน อิจิริว"
ด้วยชั้นเชิงและกลยุทธ์ที่วางแผนมาเป็นอย่างดี
มูซาชิ ได้มาสำรวจพื้นที่ก่อนการประลอง ทำให้สามารถประเมินสถานการณ์และเลือกความได้เปรียบโดยการวิ่งหาชัยภูมิที่มิให้ศัตรูสามารถโอบกระหนาบหรือซุ่มโจมตีจากด้านอื่นได้เลย
และอีกสนามประลองหนึ่งที่สร้างชื่อเสียงให้ มูซาชิ จนถึงทุกวันนี้คือ การประลองกับสุดยอดนักดาบอย่าง “ซาซากิ โคจิโร่” ที่เกาะกังริว
มูซาชิวางแผนที่จะนั่งเรือพายข้ามเกาะไปยังลานประลอง และใช้เวลาระหว่างนั่งเรือเหลาไม้พายเรือเป็นดาบซึ่งมีความยาวกว่าดาบของ โคจิโร่ และตั้งใจไปช้ากว่าเวลานัดหมายเป็นอย่างมาก
และนั้นเองทำให้ โคจิโร่ ที่รออยู่บนเกาะรู้สึกร้อนใจจนผลีผลามบุกเข้าใส่คู่ต่อสู้
มูซาชิ จึงฉวยโอกาสใช้ดาบไม้ที่เหลามาระหว่างเดินทางฟาดเข้าใส่ โคจิโร่ จนเสียชีวิตในดาบเดียว
หลังจากนั้น มูซาชิ ได้ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดในฐานะจอมดาบผู้เก่งกล้าที่สุดในแผ่นดิน
ช่วงอายุ 30 ย่างเข้า 40
มูซาชิ พยายามมองหาโอกาสรับราชการ และฝึกฝนตนเองรวมถึงรับศิษย์เพิ่ม
ได้สร้างชื่อเสียงในการช่วยเหลือไดเมียวของฮิเมจิพัฒนาเมือง เขาสั่งสมชื่อเสียงไว้มาก ถึงได้เดินทางไปนครเอโดะ โดยมีความหวังว่าจะได้โอกาสแสดงฝีมือให้กับโชกุนหรือผู้มีอำนาจในเมืองหลวง
1
เขาได้คบหากับผู้มีตำแหน่งบางคนเช่น ฮายาชิ ระซัน บัณฑิตคนสำคัญของรัฐบาล ซึ่งเห็นถึงความสามารถทางดาบและการทหารของ มูซาชิ จึงช่วยวิ่งเต้นให้ได้เข้าพบโชกุน แต่ก็ล้มเหลว
มูซาชิ ได้สร้างสัมพันธ์กับผู้คนไม่น้อย เขาพยายามเข้าไปขอเป็นครูสอนดาบให้ไดเมียวของโอวาริ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับ จึงเดินทางไปพำนักที่อิสึโมะทางตะวันตกอยู่หลายปี แม้ว่าตัวเขาจะไร้วาสนาทางการเมือง แต่บรรดาบุตรบุญธรรมและศิษย์ของเขากลับมีโชคในเรื่องนี้พอสมควร เพราะทุกคนได้รับราชการกับไดเมียวผู้ครองเมืองทั้งนั้น
ช่วงอายุ 40 ปี ถึงปลายทางของชีวิต
ในประวัติศาสตร์นั้น มูซาชิ เป็นมากกว่าแค่ยอดนักดาบ เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ที่บรรลุมรรคาบู๊ สามารถเข้าถึงแก่นแห่งวิชาดาบและหลักกลยุทธ์ แนวคิดเพื่อการพิชิตชัย ซึ่งเป็นเคล็ดลับที่ทำให้ มูซาชิ ไร้พ่าย
ต่อมาเขายังได้ถ่ายทอดแนวคิดของตน ด้วยการใช้เวลาช่วงสุดท้ายของชีวิต เดินทางไปเก็บตัวที่ถ้ำเรงันโด เพื่อขัดเกลาเอาประสบการณ์ในการสู้รบทั้งชีวิต กลยุทธ์ แนวคิดทั้งหลาย เขียนถ่ายทอดออกมาเป็นสุดยอดคัมภีร์ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในคัมภีร์กลยุทธ์เพื่อการพิชิตเป้าหมาย ที่ได้ชื่อว่ายอดเยี่ยมที่สุดของญี่ปุ่นและของโลก
2
"นักรบย่อมเห็นคุณค่าของชีวิต"
วิถีแห่งปัจเจกชนจึงกำเนิดขึ้นในช่วงบั้นปลายการใช้ชีวิต และยังถูกถ่ายทอดออกมาเป็นหนังสือให้ได้ศึกษา อันได้แก่...
- กระจกแห่งวิถีกลยุทธ (Hyodokyo) เป็นวิถีแห่งความสำเร็จในชีวิต
- กลยุทธ 35 ข้อ (Hyoho Sanjugo Kajo)
- กลยุทธ 42 ข้อ (Hyoho Shijuni Kajo)
- วิถีแห่งการก้าวเดินโดยลำพัง (独行道, Dokkōdō) เป็นหนังสือเล่มสุดท้ายที่เขียนขึ้น โดยใช้หลัก 21 ประการในการชีนำคนรุ่นหลัง
- คัมภีร์ห้าห่วง (五輪書,Go Rin No Sho) เทียบเท่ากับตำราพิชัยสงครามซุนจื่อ
อายุ 61 ปี
ปี ค.ศ.1645 มิยาโมโตะ มูซาชิ เสียชีวิต ที่หมู่บ้านยูเงะ ใกล้เขาอิวาโตะ
จากหนังสือ "คัมภีร์ห้าห่วง" มูซาชิ ได้เขียนถึงตนเองไว้ว่า
“ตัวของข้าพเจ้านับตั้งแต่อายุ 13 จนถึง 29 ปี ได้ประลองฝีมือกับยอดฝีมือไม่ต่ำกว่า 60 ครั้ง ข้าพเจ้าไม่เคยสูญเสียความได้เปรียบในการประลองเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ครั้นเมื่ออายุเข้าสู่วัย 30 ปีแล้ว จึงได้ย้อนกลับมาวิเคราะห์วิธีการต่อสู้ทั้งหมดที่ผ่านมา ก็ได้ข้อสรุปว่า สาเหตุที่ได้รับชัยชนะและได้เปรียบการในสู้ศึกเรื่อยมานั้น อาจไม่ใช่เพราะตนมีฝีมือเหนือกว่าเสมอไป แต่อาจเพราะตนมีสติปัญญาไหวพริบในการช่วงชิงโอกาสที่ดีกว่า จึงทำให้ได้ชัยชนะเสมอมา เมื่อคิดได้เช่นนั้น ข้าพเจ้าจึงหันมามุ่งศึกษากลยุทธ์และฝึกฝนขัดเกลาตนเองในด้านนี้ จนกระทั่งเมื่ออายุได้ 50 ปี จึงได้บรรลุถึงแก่นแท้แห่งวิชาดาบได้ในที่สุด”
เนื้อหาของ "คัมภีร์ 5 ห่วง วิถีแห่งดาบ มิยาโมโตะ มูซาชิ"
ในหนังสือเล่มนี้ ได้แสดงถึงแนวปรัชญาทางความคิด ประกอบด้วยพื้นฐานของธาตุ เพื่ออธิบายตามมุมองต่าง ๆ ได้แก่...
- ดิน คือ พื้นฐานของวิชาศิลปะการต่อสู้ และ คัมภีร์ (ไว้สำหรับทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อน)
- น้ำ คือ ท่วงท่าการร่ายรำดาบ น้ำเสมือนจิต เปลี่ยนรูปร่างตามที่ใส่ (อธิบายเทคนิคและพื้นฐานให้มีความเข้าใจมากขึ้น)
- ไฟ คือ ศัตรู (หมายถึงการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา)
- ลม คือ สิ่งอื่น ๆ ที่อยู่นอกเหนือจากที่กล่าว คือ การรู้เขารู้เรา ทำความเข้าใจตัวแปรทุกสรรพสิ่ง
- ความว่างเปล่า คือ การรวบรวมทุกอย่างที่กล่าวมาเป็นหนึ่งเดียว
ปรัชญาทางความคิดจาก มิยาโมโตะ มูซาชิ กับตัวอย่างการนำไปปรับใช้
ครั้นเมื่อมีใครมากล่าวถาม มูซาชิ ว่า...
ทำไมเขาถึงกลายมาเป็นจอมดาบไร้พ่ายได้ถึงเพียงนี้?
เขาก็ตอบง่าย ๆ สั้น ๆ เพียงว่า...
“ศัตรูของข้าแต่ละคนล้วนแต่เป็นยอดฝีมือ แต่สาเหตุที่ข้าเอาชนะพวกเขาเหล่านั้นมาได้ เพราะว่าข้าเลือกที่จะสู้เมื่อข้าคิดว่าจะชนะเท่านั้นเอง”
สำหรับคำตอบเช่นนี้มักทำให้คนส่วนใหญ่คิดว่า...
มูซาชิ เลือกที่จะท้ารบกับคนที่อ่อนด้อยกว่าตนเองเท่านั้น
แต่หากมองลงไปให้ลึกแล้ว
มูซาชิ นั้นมิใช่นักดาบที่มีแต่กำลังและชั้นเชิงในการต่อสู้เท่านั้น
หากแต่เขายังเป็นนักดาบ “เจ้ายุทธศาสตร์”
ในมุมมองของนักลงทุน บทเรียนของ มูซาชิ น่าจะให้แง่คิดที่เป็นประโยชน์กับนักลงทุนเป็นอย่างมาก
1
ข้อแรก
คือ ต้องรู้จักประเมินสถานการณ์ในการลงทุน คือเมื่อได้เปรียบจึงลงทุน รู้จักประเมิน Risk Reward Ratio และสู้เมื่อคิดว่าจะชนะเท่านั้น
ข้อที่สอง
รู้จักรอโอกาสอย่างใจเย็น เมื่อเจอหุ้นที่ดีแล้ว ต้องรู้จักรอเวลาในการเข้าลงทุนเมื่อราคาเหมาะสม
ข้อที่สาม
รู้เขา รู้เรา รู้จักใช้เครื่องมือที่เหมาะสม ไม่จำเป็นต้องใช้ท่ายาก แต่หากรู้จักใช้ก็สามารถชนะศัตรูที่แข็งแกร่งได้
มิยาโมโตะ มูซาชิ ถูกหยิบยกลงมาปรากฏอยู่ในการ์ตูน
มิยาโมโตะ มูซาชิ เป็นบุคคลที่ถูกหยิบเอามาใส่ไว้ในการ์ตูนเป็นจำนวนบ่อยครั้ง เรียกได้ว่าสามารถปรากฏลงบนการ์ตูนได้ทุกเรื่อง และ ทุกแนวอีกด้วย
Vagabond บุคคลร่อนเร่
เป็นผลงานจากผู้ที่วาดเรื่อง Slamdunk โดยเป็นการสร้างเรื่องราวโดยอิงจากชีวประวัติจริงของ มิยาโมโตะ มูซาชิ ในการค้นหาคำตอบถึงวิถีแห่งซามูไร ความเป็นหนึ่งในปฐพี โดยที่เป็นการแนะแนวทางในเรื่องการฝึกฝนทางจิตใจ ลงตีพิมพ์ในปี 1998
Musashi the Samurai Lord หุ่นรบซามูไร
เป็นผลงานที่ถูกสร้างขึ้นในปี 1994 หุ่นยนต์ที่รักความถูกต้อง ออกเดินทางเพื่อฝึกฝนตัวเองให้เป็นนักดาบอันดับ 1
Yaiba เจ้าหนูซามูไร
เป็นการ์ตูนที่เกิดขึ้นจากผู้ที่วาด นักสืบจิ๋วโคนัน แนวทางการต่อสู้ แบบจินตนาการ ซึ่งตัว มูซาชิ ที่ปรากฏอยู่ใน เรื่องเป็น อาจารย์ของพระเอกที่ชื่อไยบะ อดีตนักดาบที่มีชื่อเสียง โดยถูกปลุกด้วยพลังปิศาจ มีอายุมากกว่า 400 ปี
เรียบเรียง : Wasabi ความรู้ขึ้นสมอง!
#Wasabi ขอเพียงมีส่วนเล็ก ๆ ที่ช่วยให้คุณ!
"เจริญเติบโต ก้าวหน้า สำเร็จ อย่างภาคภูมิใจ"
พิสูจน์อักษรโดย วาลีพ
#สาระจี๊ดจี๊ด #Wasabi #ความรู้ขึ้นสมอง
โฆษณา