23 ก.ค. 2020 เวลา 04:29 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
‘ฮักเถิดเทิง’ ความบันเทิงที่มากกว่าเสียงหัวเราะ
ขึ้นชื่อว่าเป็นผลงานของค่าย “เอ็ม พิคเจอร์ส” ร่วมมือกับ “แลนด์ ออฟ สไมล์ ฟิล์ม” แถมยังได้ 3 ทหารเสือแดนอีสานอย่าง “ก้อง ห้วยไร่”, “เบิ้ล ปทุมราช” และ “แซ็ค ชุมแพ” โคจรมาพบกันอีก เท่านี้ก็เป็นการการันตีความคุ้มค่ากับค่าตั๋วที่จะได้รับความสนุกจาก “ฮักเถิดเทิง” แล้ว
แต่ก็ใช่ว่าภาพยนตร์ลำดับที่สองของผู้สร้าง “เบิ้ล ปทุมราช” แห่ง แลนด์ ออฟ สไมล์ ฟิล์ม จะขายแต่เสียงหัวเราะเท่านั้น แม้ตรงนี้จะเป็นจุดเด่นที่ “ฮักเถิดเทิง” นำเสนอ แต่ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ผู้ชมจะได้รับจากภาพยนตร์เรื่องนี้เท่านั้น
จุดสำคัญที่ภาพยนตร์เรื่องนี้นำเสนอออกสู่สายตาผู้ชม และสร้างความแตกต่างจากผลงานที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น “ออนซอนเด” ผลงานเรื่องแรกที่ “เบิ้ล” เป็นผู้จัด หรือ “ฮักแพง” ภาพยนตร์เรื่องแรกที่รวมตัว “ก้อง-เบิ้ล-แซ็ค” ก็คือ “ฮักเถิดเทิง” ได้มีการรวบรวมนักร้องลูกทุ่งแถวหน้าไว้มากมายที่สุด
เรียกได้ว่าเป็นผลงานประวัติศาสตร์ในวงการลูกทุ่งเรื่องหนึ่งก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็น “อาภาพร นครสวรรค์”, “ลำไย ไหทองคำ”, “อาม ชุติมา”, “เนสกาแฟ ศรีนคร”, “เจนนี่-รัชนก สุวรรณเกตุ” และ “อี๊ด โปงลาง-สมพงษ์ คุณาประถม”
ขณะเดียวกันก็เสริมทัพนักแสดงมากฝีมืออีกคับคั่ง อาทิ “ชิงชิง-คริษฐา สังสะโอภาส”, “นะโม ไทบ้าน-ธันวาพร นาสมบัติ”, “ค่อม ชวนชื่น-อาคม ปรีดากุล” และ “เขาทราย กาแล็กซี่-สุระ แสนคำ” ฯลฯ จึงทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น สร้างความน่าสนใจให้กับผู้ชม
การที่ภาพยนตร์ใช้นักร้องชื่อดังมาร่วมงานมากมาย ก็เป็นการสร้างความน่าสนใจได้เป็นอย่างดี เพราะนักร้องแต่ละคนล้วนแต่มีแฟนเพลงที่ให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง และพร้อมที่จะติดตามอีกหนึ่งผลงานในวงการของพวกเขาและเธอ
นอกจากจะใช้นักร้องชื่อดังมาร่วมงานแล้ว ในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ยังสร้างความแปลกใหม่ด้วยการนำนักร้องที่หลายคนคุ้นเคยมาปรับลุคเปลี่ยนคาแรเตอร์ที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
เมื่อผสมผสานกับการถ่ายทอดวิถีชีวิตประเพณีวัฒนธรรมพี่น้องชาวอีสาน ก็ยิ่้งทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีเสน่ห์ชวนติดตาม ที่สามารถเข้าถึงผู้ชมได้ทั่วทุกภูมิภาค
ตรงนี้ถือเป็นความแปลกใหม่ที่ผู้ชมจะได้รับแบบคาดไม่ถึง ซึ่งจะมีความน่าสนใจและความสนุกมากกว่าตัวอย่างที่ตัดออกมาให้ชมกัน
การถ่ายทอดความสนุกครั้งนี้ยังคงได้ผู้กำกับมากฝีมืออย่าง “อรุณ-ธีรเดช สพันอยู่” ที่เคยกำกับเรื่อง “ออนซอนเด” กลับมาคุมบังเหียนอีกครั้ง ด้วยความที่ผู้กำกับและนักแสดงต่างรู้มือกันอยู่แล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำให้ผลงานเรื่อง “ฮักเถิดเทิง” ออกมาดีกว่าเดิม
หากใครที่กำลังคิดว่าภาพยนตร์เรื่อง “ฮักเถิดเทิง” จะสร้างความเข้าใจและเข้าถึงพี่น้องชาวอีสาน นั่นเป็นสิ่งที่คุณกำลังคิดผิด แม้ภาษาที่ใช้จะเป็นภาษาพื้นบ้านชาวอีสาน แต่เชื่อว่าคำพูดสำเนียงที่หลายคนคุ้นเคย ประกอบกับความสนุกและความแปลกใหม่ จะทำให้ผลงานเรื่องนี้เข้าถึงผู้ชมทั่วประเทศได้ไม่ยาก
โฆษณา