verb to be หรือ is am are ที่เรารู้จักกันดี แม้แต่ผมเองบางครั้งก็ยังใช้ผิด(ฮา) แม้แต่ฝรั่งเองก็ยังใช้ผิด ถามว่าเจ้าของภาษาใช้ไวยกรณ์ผิดด้วยเหรอ ผิดครับ แม้แต่พวกเราเองก็ยังคงใช้ภาษาไทยที่ไม่ถูกต้องเหมือนกัน นั้นเพราะว่าเรานิยมใช้ภาษาพูดแทนลงไปในภาษาเขียนนั้นเอง วันนี้เราเลยกลับมาเรียนสิ่งที่เราคุ้นเคย แต่ลืมกันไปแล้วกันดีกว่าครับ
I เราจะใช้กับ verb to be "am" เป็น I'm สำหรับคำย่อ He ,She ,It เป็นsingular (ประธานเอกพจน์หรือเรียกง่ายๆว่ามี1 คน) เราจะใช้verb to be "is" เป็น He's or She's orIt's แล้วแต่ประธานของประโยค
สำหรับประธานที่เป็น plural หรือประธานแสดงไว้หลายคน เช่น You ,We,They (แบบว่ามีหลายคนยกเว้นYou ที่เป็นประธานคนเดียวแต่ก็แสดงเป็นพหูพจน์ด้วยนะอย่าลืมละ)verb to be เป็น "are" เป็น You're / We're/They're สำหรับคำย่อ You,We,They
ในรูปแบบของการปฎิเสธ เราจะใส่ Not เข้าไปข้างหลังของ verb to be เช่น I am not (แบบนี้ไม่ค่อยนิยมเขียนกันซักเท่าไร)สำหรับแบบย่อเราจะเขียนว่า I'm not สำหรับรูปแบบประธานอื่น ก็จะใช้เป็น He is not (He's not) She is not(She's not) It is not (It's not) สำหรับประธานที่เป็นพหูพจน์หรือประธานแสดงตนเองไว้หลายคน เช่น You (อันนี้ประธานคนเดียวแต่แสดงเหมือนว่ามีหลายคนหรือแสดงว่ามีคนเดียวก็ได้ แบบว่ามีหลายYou ก็ได้มีYou คนเดียวก็ได้) ก็จะเขียนได้ว่า You are not (You aren't) We are not (We aren't )หรือ They are not(They aren't) เป็นต้น
เอาละ เรามากับครึ่งทางแล้วนะครับ คราวนี้เรามาตั้งคำถามกันบ้าง แน่นอนเราต้องมีการตั้งคำถามกันในการสนธนาไม่ว่าจะเป็นการสนธนาภาษาอังกฤษหรือภาษาไทย หรือภาษาไหนๆ ก็แล้วแต่ต้องมีคำถามเป็นธรรมดาแล้วเราจะใช้ Verb to be ในการตั้งคำถามได้ยังไง ?
ในการตั้งคำถามให้เราเอาVerb to be ขึ้นหน้าประโยค เช่น Am I+.... หรือ Is he/ IS she/Is it ถ้าเป็นประธานพหูพจน์ (ประธานมีมากกว่า1) เราจะใช้ Are you+... หรือ Are we/ Are they แทน
สิ่งสำคัญที่เรามักจะลืมก็คือ การที่เราไม่ใส่เครื่องหมายคำถาม (?) ผมจำไม่ได้แล้วว่าตัวนี้ภาษาไทยเขาเรียกว่าอะไร(ฮา) ผมก็เรียกแต่ว่าใส่เครื่องหมายคำถาม เครื่องหมายคำถามอยู่อย่างงั้น ถ้าถามว่าไม่ใส่ได้ไหม ผิดไวยกรณ์ไหม คำตอบคือ "ผิด" ไวยกรณ์ครับ ทุกๆ คำถามเราต้องเติมเครื่องหมายคำถามเข้าไปด้วย แม้ว่าเราจะเอา verb to be ไว้ด้านหน้าประโยค แล้วก็ตาม