23 ก.ค. 2020 เวลา 13:32 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
"แค่คืบหน้าไม่พอ ต้องสมบูรณ์แบบด้วย"
ครั้งนึงผมเคยมีความเชื่อที่ว่า มนุษย์ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่เพอร์เฟคเพราะฉะนั้นเราไม่มีทางสร้างผลงานที่เพอร์เฟคขึ้นมาได้ แต่พอมาดูหลักฐานในโลกความเป็นจริง ภาพยนตร์หลายเรื่องที่เราชอบ โดยเฉพาะเรื่องที่ชนะรางวัลบนเวทีโลกและเป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลายว่า มันคือ "หนังดี" ส่วนใหญ่หนังเหล่านี้ถูกสร้างโดยผู้กำกับที่คลั่งความสมบูรณ์แบบทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น Citizen Kane ของ Orson Welles หรือ Vertigo ของ Alfred Hitchcock ถ้าเป็นยุคนี้ก็ The Social Network ของ David Fincher ที่ผู้กำกับมากฝีมืออย่าง Quentin Tarantino ถึงกับเอ่ยปากชมว่าเป็น "หนังที่ดีที่สุดในทศวรรษ2010-2019"
มันจึงเป็นเรื่องที่น่าฉงนใจว่า ตกลงแล้วความคลั่งความเพอร์เฟคมันดีหรือไม่ดี มีคำคมที่เราอาจจะเห็นบ่อยๆบนอินเทอร์เน็ตอย่าง "strive for progress, not perfection หรือ พุ่งเป้าไปที่ความคืบหน้าของงานไม่ใช่ความสมบูรณ์แบบ" เพราะการกังวลว่างานจะออกมาดีหรือเปล่าบางครั้งก็เป็นตัวเบรกความก้าวหน้าของเรา มันคือความกลัวรูปแบบหนึ่งที่ Perfectionists ทุกคนต้องคอยต่อสู้กับมันในทุกๆวัน เป็นสงครามภายในที่ไม่มีวันจบสิ้น ใหนจะเรื่องการทะเลาะกับเพื่อนร่วมงานหรือในที่นี้ก็คือคนในกองถ่าย เพราะบางครั้ง ความจำเพาะเจาะจงที่เราต้องการ อาจทำให้หลายๆคนไม่สบอารมณ์ อย่างเช่นการถ่ายเกือบ100เทคของ David Fincher ที่ผมเคยเล่าให้ฟังในคลิป ซึ่งก็ทำให้ทีมงานเหนื่อยล้าไปตามๆกัน ถึงขนาดที่ว่าคนในกองถ่ายหนังฟินเชอร์มีคำพูดติดปาก ก็คือ “เมื่อคุณทำงานกับเดวิด ฟินเชอร์ คุณจะหลับเป็นตายทุกคืน”
แล้วมันมีข้อดีบ้างไหม ผมว่านิสัยดังกล่าวถูกตีค่าได้หลายแบบ คำว่า Perfectionists อาจจะเป็นเพียงแค่คำๆหนึ่งที่ถูกเอามาใช้เรียกกลุ่มคน ที่พยายามทำงานของตัวเองให้ดีที่สุด ด้วยความสามารถที่มี ณ ขณะนั้น ซึ่งก็ถูกพิสูจน์มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนว่ามันส่งผลดีในระยะยาวเสมอ ผลงานของพวกเขาจะโดดเด่นกว่าคนอื่น บ้างก็กลายเป็นตำนานไปเลย ในทุกยุคทุกสมัย ผู้คนมักจะตัดสินเราจาก คุณภาพของผลงาน ไม่ใช่ นิสัยส่วนตัว และภาพยนตร์ของผู้กำกับสายนี้ก็มักจะออกมาแบบ "ไร้ที่ติ" ซะด้วยสิ
ถ้าใครจำได้ในช่วงแรกที่ผมเริ่มทำคลิปรีวิวหนังรายวัน โพสต์ต่อเนื่องเป็นเวลา 3 เดือน พูดตรงๆเลยว่าคลิปเหล่านั้นอยู่แค่ระดับ "พอได้" เนื่องจากผมหยวนๆให้ตัวเอง คิดเพียงแต่ว่าต้องมีผลงานทุกวัน ไม่ต้องเพอร์เฟคก็ได้ ส่งผลให้ความภูมิใจในตนเองต่ำลงทุกวัน เพราะมีประโยคนึงดังก้องในหัวตลอดเวลา ที่ว่า "มึงทำได้ดีกว่านี้" จนท้ายที่สุด ทนตัวเองไม่ได้ ก็เลยเอานิสัยคลั่งความเพอร์เฟคมาทำคลิปบรรยายแทน ผลที่ออกมาก็คือ เราดูเองเรายังชอบเลย (มีความหลงตัวเองนะค้าบ อิอิ) และมันยังให้ความรู้สึกที่ดีกว่าการทำแค่เสร็จๆไปราวฟ้ากับเหว
สรุปคือ ความคลั่งความเพอร์เฟค ถึงแม้จะดูเหมือนเป็นดาบสองคม แต่ผลกระทบของการคิดแบบนี้ ก็ทำให้มาตรฐานของงานเราถูกยกระดับขึ้นไปเรื่อยๆ แน่นอนมันต้องใช้ความคิดมากกว่าเดิม ใช้เวลานานกว่าเดิมและเหนื่อยกว่าเดิมหลายเท่า แต่ความภูมิใจของเราก็จะพุ่งสูงจนทะลุชั้นบรรยากาศโลกไปเลย ผมรับประกันได้! ฉะนั้นถ้าคุณเป็นคนที่คลั่งความเพอร์เฟคเหมือนกัน ใส่มันลงไปในงานครับ พอกันทีกับงานระดับ "พอได้"
Orson Welles เคยกล่าวไว้ว่า "ไม่มีความลับเกี่ยวกับเทคนิคของผมหรอก เป้าหมายของผมมีอย่างเดียวเท่านั้น นั่นคือความสมบูรณ์แบบ" จากเดิมที่บอกว่า "strive for progress, not perfection" เรามาเปลี่ยนเป็น "Strive For Progress AND Perfection" ไม่ใช่แค่คืบหน้า แต่ต้องสมบูรณ์แบบด้วย!
อันนี้ช่องยูทูปของผมเองครับ :)
โฆษณา