3 ส.ค. 2020 เวลา 00:00 • บันเทิง
Kylie Jenner อดีตมหาเศรษฐีที่เด็กที่สุดในโลก ไม่ได้เป็นมหาเศรษฐีแล้ว
เมื่อประมาณกรกฎาคม 2018 ที่ผ่านมา นิตยสารฟอร์บส์ได้ลงรายชื่อของบรรดาเศรษฐีจากทั่วทั้งโลก ซึ่งหนึ่งในนั้นได้มีการทำลายสถิติมหาเศรษฐีที่เด็กที่สุดในโลกด้วย (การที่คุณจะได้เป็นมหาเศรษฐีได้ คุณต้องมีทรัพย์สินมากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ) ซึ่งได้ทำลายสถิติเก่าของมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก เจ้าของ Facebook ชื่อของคือ Kylie Jenner (ไคลี่ เจนเนอร์) ด้วยอายุเพียง 21 ปีเท่านั้น ทำลายสถิติเดิมของมาร์คที่ 23 ปี ไคลี่เป็นน้องเล็กสุดในบ้านของครอบครัว คิม คาร์เดเชี่ยน นักแสดงสาวที่เป็นภรรยาของ คานเย่ เวสต์ ซึ่งเป็นนักร้องแร็ปเปอร์ชื่อดังและเจ้าของรองเท้ายีสซี่ (Yeezy) ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้เขาได้ประกาศจะลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาในปีนี้ด้วย ซึ่งมีผู้ที่คอยสนับสนุนอย่าง อีลอน มัสค์อยู่ในทีมของเขา ไคลี่ โตมาในครอบครัวที่ค่อนข้างที่จะมีฐานะ ร่ำรวย มีพ่อซึ่งเป็นนักกีฬาโอลิมปิก อย่างบรูซ เจนเนอร์ ก่อนจะเปลี่ยนชื่อตัวเองเป็น เคทลิน เจนเนอร์ และมีแม่อย่างทาง คริส เจนเนอร์
หน้าปกของนิตยสารฟอร์บส์ที่มีรูปของ ไคลี่ เจนเนอร์อยู่บนหน้าปก
ไคลี เจนเนอร์ มีผู้ติดตามในอินสตาแกรมตอนนี้ทั้งหมด 185 ล้านคน และในทวิตเตอร์อีก 34.7 ล้านคน ไคลี่เติบโตมาจากรายการเรียลลิตี้ทีวีอย่าง Keeping Up with Kardashians ซึ่งผมเองได้มีโอกาสดูรายการนี้ด้วยตอนที่มันเริ่มดังขึ้น เพราะเนื่องจากว่าน้องสาวผมชอบดูรายการนี้ ซึ่งจะมีเพียงในช่อง E! Channel เท่านั้น ซึ่งรายการถือว่าประสบความสำเร็จอย่างกว้างขวางในสหรัฐเป็นอย่างมาก และทำให้สองพี่น้องเจนเนอร์ทั้งไคลี่ และ เคนดัล โด่งดังขึ้นมาอย่างมาก พวกเธอได้บทบาทไปเป็นพิธีกรในหลายๆอีเวนท์ ทั่วทั้งอเมริกา นอกจากนั้นเองเธอยังได้การสนับสนุนจากแบรนด์ต่างๆให้ไปร่วมงานในการออกผลิตภัณฑ์เป็นของตัวเองทั้งรองเท้า Steve Madden Puma และ Topshop ก่อนที่ตัวเธอเองจะได้มีโอกาสมีแบรนด์เครื่องสำอางเป็นของตัวเองชื่อ Kylie Cosmetics ซึ่งในปี 2018 นี้เองที่เธอรายงานว่ายอดขายของแบรนด์เธอในปีนั้นคือ 680 ล้านเหรียญ
ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางของไคลี่ เจนเนอร์
หลังจากนั้นไม่นานเธอเลยได้ชื่อว่าเป็นมหาเศรษฐีที่อายุน้อยที่สุดในโลกและได้ลงปกฟอร์บส์แม็กกาซีน ในตอนนั้น ซึ่งเธอก็ฉลองด้วยการจัดปาร์ตี้สุดอลังการ ร่วมกับแฟนหนุ่มของเธออย่าง ทราวิส สก็อต ซึ่งในงานๆนั้นแม้แต่บาร์เทนเดอร์ในงานก็ยังใส่เสื้อสีดำที่ด้านหลังมีลายของหน้าปกของฟอร์บส์ที่มีรูปของไคลี่แปะอยู่ด้วย แต่ด้วยความที่ฟอร์บส์ใช้คำว่า “Self-Made Billionaire” หรือมหาเศรษฐีที่สร้างความมั่งคั่งมาด้วยตัวเอง ก็มีดราม่ากันในโซเชี่ยลกันอย่างกว้างขวาง เพราะว่าทุกคนรู้กันดีว่า ไคลี่ เจนเนอร์ โด่งดังมาจากรายการทีวีซึ่งรายการนี้มีดาวเด่นอย่างแม่เธออยู่ และ พี่สาวเธอที่เป็นลูกพี่ลูกน้องอย่าง คิม คาร์แดเชี่ยน มากกว่าเธอ และเธอก็ร่ำรวยมาแต่ก่อนอยู่แล้วด้วยซ้ำ แม้กระทั่ง ทวิตเตอร์ของ Dictionary.com ได้ทวีตความหมายของคำว่า Self-Made ออกมาเลยทีเดียว แต่ก็มีดาราอย่างพี่สาวของเธอ คิม คาร์แดชเชี่ยน ออกมาปกป้อง รวมไปถึงดาราสาวอย่าง ปารีส ฮิลตั้น ก็ออกมาปกป้องเหมือนกัน
ทวิตเตอร์ของ Dictionary.com ในวันที่ประกาศว่าไคลี่เป็นมหาเศรษฐี
แต่หลังจากนั้นไม่นานเมื่อพฤษภาคมปีนี้นี่เอง ทางนิตยสารฟอร์บส์ ได้ลงบทความเรื่องที่ไคลี่ เจนเนอร์ไม่ได้เป็นมหาเศรษฐีแล้ว เพราะเนื่องจากว่าเมื่อปี 2016 ยอดขายของ Kylie Cosmetics นั้นอยู่ที่ 307 ล้านเหรียญ และในปี 2017 มียอดขายอยู่ที่ 330 ล้านเหรียญ แต่พอมาในปี 2018 ยอดขายเหลือเพียงแค่ 125 ล้านเหรียญเท่านั้น ฟอร์บส์เลยตั้งข้อสงสัยว่าทำไมยอดขายของ Kylie Cosmetics จึงลดลงไปมากถึงขนาดนี้ ซึ่งหายไปเกือบ 3 เท่าเลยทีเดียว แต่ตัวไคลี่ก็สามารถขายแบรนด์เครื่องสำอางของตัวเอง Kylie Cosmetics เป็นจำนวน 51% ไปให้กับ Coty เจ้าของแบรนด์เครื่องสำอางยักษ์ใหญ่ของโลก และมีน้ำหอมดังที่เป็นเจ้าของอย่าง Hugo Boss Lacoste และ Davidoff เป็นมูลค่ากว่า 600 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2019 แต่ถึงแม้ว่าเงินตรงนี้ที่ได้มาจะทำให้มูลค่าของไคลี่เพิ่มขึ้น แต่กลับไม่ดีต่อชื่อเสียงของตัวบริษัท เพราะเมื่อคุณขายบริษัทไปให้กับบริษัทมหาชน คุณก็ต้องเปิดเผยตัวเลข เพราะว่าทางบริษัทเองได้ปกปิดตัวเลขเป็นจำนวนมาก และมีสินค้าที่พึ่งเปิดตัวไปไม่นานอย่าง Kylie Skin ซึ่งพึ่งเปิดตัวไปเมื่อตอนพฤษภาคมปี 2019 ตัวเลขที่ทางครอบครัวเจนเนอร์บอกคือขายได้ 100 ล้านเหรียญในเวลาเพียงแค่ 2 เดือน แต่แท้จริงแล้ว มันยังขายไม่ถึง 25 ล้านเหรียญในเวลา 6 เดือนเลยด้วยซ้ำ
1
บทความของฟอร์บส์ที่บอกว่า ไคลี่ เจนเนอร์ ไม่ได้เป็นมหาเศรษฐีแล้ว
เท่านั้นไม่พอ ฟอร์บส์ตั้งข้อสงสัยว่าทำไมถึงทุกครั้งที่ไคลี่ยื่นภาษีกับทาง IRS ถึงยื่นล่าช้ากว่ากำหนดและเป็นอย่างนี้ทุกครั้งเลย ซึ่งทางฟอร์บส์เองได้รับเอกสารการคืนภาษีเพื่อจะเอามาคำนวนว่าบุคคลคนนี้เป็นมหาเศรษฐีจริงหรือไม่ ซึ่งย้อนกลับไปเมื่อตอนปี 2018 ฟอร์บส์ก็เริ่มสงสัยว่าเอกสารพวกนี้เป็นของปลอมหรือไม่ ปรากฏว่าเมื่อปี 2020 ที่ผ่านมา ทางฟอร์บส์เองยืนยันแล้วว่าเป็นของปลอม ซึ่งทุกปีทางทีมงานฟอร์บส์ก็ได้สอบถามกับทีมงานของไคลี่ เพราะว่ามันสำคัญกับภาพพจน์ของไคลี่มากๆว่าเธออยู่ตรงไหนในลิสต์ ปรากฏว่าถึงแม้ว่าตัวเลขเป็นของปลอม ทางทีมงานไคลี่ก็ยังยืนยันอยู่ว่าเป็นของจริง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ที่แปลกมากคือ จู่ๆทางทีมงานของไคลี่ก็หยุดตอบคำถามของพวกเขาไปโดยปริยาย หลังจากที่ฟอร์บส์ลงบทความนี้ ไคลี่ก็ได้ทวีตโต้ตอบกับทางฟอร์บส์ว่า “ฉันตอนแรกนึกว่ามันเป็นเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้ แต่ฉันมองเห็นถึงตัวเลขปลอมๆ และ ข้อสันนิษฐานต่างๆ ดิฉันไม่เคยที่จะขอให้ไปติดอยู่ในลิสต์ตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ หรือ แม้กระทั่งพยายามปลอมตัวเองเพื่อเข้าไปอยู่ในลิสต์” ไม่พอเท่านั้นไคลี่ยังได้ทวีตอีกว่า “ฉันเนี่ยนะพยายามปลอมแปลงเอกสารคืนภาษี และ เพียงแค่พวกคุณคิดว่ามันเป็นของปลอมเลยเป็นของปลอมเนี่ยนะ”
1
ถึงแม้ว่าช่วงนี้ที่ผ่านมาจะมีเรื่องราวของโรคโควิด-19 เข้ามาเยอะ แต่ชื่อเสียงของไคลี่ เจนเนอร์ ก็ถูกทำลายไม่มากก็น้อย ผมไม่รู้ว่าในอนาคตตัวไคลี่เองจะได้กลับมาอยู่ในลิสต์ได้อีกไหม แต่สิ่งนึงที่สามารถพูดได้คือ ไคลี่ เจนเนอร์ ไม่ได้เป็นมหาเศรษฐีแล้ว
โฆษณา