24 ก.ค. 2020 เวลา 03:31 • ประวัติศาสตร์
นางเงือก หาดสมิหลา
ภาพโดยgoogle
เห็นข่าวมีคนมาแต่งหน้าเงือกทองหาดสมิหลาเลยเอาประวัติมาฝากกันครับ
ย้อนไปเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2509 ณ แหลมสมิหลา สงขลา ม.จ.ทองคำเปลว ทองใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธี 1 เมษายน 2509 - 1 เมษายน 2563ครบรอบ 54 ปีที่เงือกทองยังคงสวยสง่าคู่เมืองสงขลา สัญลักษณ์ทางการท่องเที่ยวของเมือง 2 ทะเล
นักปกครองหนุ่มวัย 40 ปี ผู้มีวิสัยทัศน์ก้าวไกล"นายชาญ กาญจนาคพันธุ์" ปลัดจังหวัดสงขลา ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองสงขลาด้วย เป็นผู้ริเริ่มในการสร้างสัญญัลักษณ์ทางวัตถุของเมืองสงขลา ให้ผู้คนได้รู้จัก นอกเหนือสัญญลักษณ์ทางธรรมชาติ"เกาะหนู เกาะแมว" โดยในวัยเด็กปลัดชาญ มักได้ยินคุณพ่อ"ขุนวิจิตรมาตรา (สง่า กาญจนาคพันธ์)"(นักคิด นักค้นคว้า และนักเขียนสำคัญคนหนึ่งของ ยุครัตนโกสินทร์) เล่านิยายปรัมปราเกี่ยวกับนางเงือก ไว้ว่า" ในวันดีคืนดีนางเงือกจะมานั่งหวีผม บนชายหาดด้วยหวีทองคำ วันหนึ่งบังเอิญว่ามีชายชาวประมงเดินผ่านมา ทำให้นางเงือกตกใจ รีบหนีลงทะเลไปโดยลืมหวีทองคำไว้ ฝ่ายชาวประมงเห็นดังนั้นก็เก็บหวีทองคำไว้และเฝ้าคอยนางเงือกที่หาดนั้นเสมอ แต่นางเงือกก็ไม่เคยปรากฏกายให้เห็นอีกเลย"
ด้วยเรื่องที่พ่อเล่าให้ฟังตั้งแต่เด็ก จึงเป็นที่มาที่จะสร้างรูปปั้นนางเงือก ในท่าที่กำลังหวีผม เพื่อเป็นสัญญลักษณ์ของเมืองสงขลา ใช้งบประมาณของเทศบาล 60,000 บาทในการสร้าง โดยให้ศิลปินนักปั้นชั้นครูเมืองหนึ่งของเมืองไทยในสมัยนั้น"อาจารย์จิตร บัวบุศย์" อาจารย์ใหญ่โรงเรียนเพาะช่าง (ผู้ที่มีผลงาน การปั้นพานรัฐธรรมนูญ บนอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อปี พ.ศ.2483) เป็นผู้ออกแบบ หล่อและปั้นรูปนางเงือก
ด้วยสถานที่มีธรรมชาติสวยงาม บริเวณแหลมสมิหลา รูปปั้นนางเงือกนั่งแปรงผมยาวสลวยอยู่บนโขดหินธรรมชาติ ได้อย่างเหมาะเจาะพอดีกับทุกสิ่งทุกอย่างในบริบทนั้น บนหาดสวย ริมทะเลงาม มีเกาะหนู เกาะแมว เป็นฉากหลัง เพราะฉะนั้นผู้ที่มาเยือนเมืองสงขลา ต้องไม่พลาดที่จะมาถ่ายรูปคู่กับนางเงือกทองสงขลา แห่งนี้
โฆษณา